ตอนที่ 950 จากต้นจนจบ – ตอนที่ต้องอ่านของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)
ตอนนี้ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 950 จากต้นจนจบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 950 จากต้นจนจบ
ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่ด้านบนเป็นเวลาเนิ่นนานเลยทีเดียว
มิมีผู้ใดทราบว่าเขามองเห็นสิ่งใด เนื่องจากมิมีผู้ใดกล้าขึ้นไป
ฟู่เสี่ยวกวนสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ “จงเรียกหนานกงอี้หยู่เข้ามา เร็วเข้า ! ”
หนานกงอี้หยู่มิรู้ว่าด้านในเกิดเรื่องอันใดขึ้น เมื่อเขาได้รับคำสั่งจากฟู่เสี่ยวกวนก็รีบวิ่งเข้าไปทันที
“ท่านขึ้นมาสิ”
“กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ”
“เร็วเข้า ! ”
หนานกงอี้หยู่รีบปีนขึ้นไปด้านบน เมื่อมองตรงไปด้านหน้าเขาก็ต้องชะงักงันทันใด
“นี่ นี่คือ…”
“เป็นเขาใช่หรือไม่ ? ”
“ใช่ ! ใช่พ่ะย่ะค่ะ ใช่แน่นอน ทว่าว่าเขา…”
“มีสิ่งใดผิดปกติเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“มองดูแล้วสภาพพระศพยังดีอยู่ น่าจะเพิ่งสิ้นพระชนม์ได้เพียงมิกี่วันพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เสี่ยวกวนขมวดคิ้วเข้าหากัน “เรียกสนมเหยียนเข้ามา ! ”
สวี่ซินเหยียนรีบวิ่งเข้ามาทันใด
“ขึ้นมาเถิด… ช่วยข้าดูหน่อยว่าเขาได้แปลงโฉมหรือไม่ ? ”
สวี่ซินเหยียนพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นเวลากว่าครึ่งก้านธูป ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ
ฟู่เสี่ยวกวนจึงถอดใจในทันที ศพบิดาที่หายไปในเมืองเป่ยจวิ้นสามารถบินกลับมาได้แม้ไร้ปีกเยี่ยงนั้นหรือ
โจวถงถง !
แล้วโจวถงถงเข้ามาในนี้ได้เยี่ยงไร ?
“เจิ้นคิดว่า จักรพรรดิพระเจ้าหลวงและไทเฮาทรงแยกจากกันเป็นเวลานาน จึงมีความคิดถึงกันยิ่งนัก บัดนี้ทั้งสองได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว พวกเราควรจัดการฝังพระศพไว้ด้วยกันเพื่อชดเชยให้กับพวกเขาทั้งสองพระองค์ ! ”
……
……
ณ กวนหยุนถาย
โคมไฟยังคงส่องสว่าง
หลิวจิ่นชงชาอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็แอบชายตามององค์จักรพรรดิ
นับตั้งแต่กลับมาจากสุสานจักรพรรดิในวันนี้ สีพระพักตร์ก็มิน่ามองสักเท่าใดนัก เมื่อเสด็จกลับพระราชวังจนถึงบัดนี้ อย่าว่าแต่เสวยอันใดเลย เพราะพระองค์ทรงตรัสเพียงประโยคเดียวเท่านั้นว่า “จงนำตัวโจวถงถงไปพบข้าที่กวนหยุนถาย ! ”
เมื่อหลิวจิ่นได้นำพระราชโองการขององค์จักรพรรดิไปยังกรมราชทัณฑ์ จึงได้พบศพของโจวถงถงอยู่กลางห้องคุมขังนั้น
โจวถงถงปลิดชีพของตนเอง !
เขาทิ้งจดหมายไว้ให้ฝ่าบาทหนึ่งฉบับ
มิรู้ว่าในจดหมายเขียนสิ่งใดเอาไว้ รู้เพียงแค่ว่าหลังจากที่ฝ่าบาททอดพระเนตรจดหมายฉบับนั้นแล้ว ก็ได้เสด็จมายังกวนหยุนถายทันที บัดนี้ทะเลหมอกได้จางหายไปแล้ว ดวงดาราบนท้องนภามิปรากฎออกมาให้เห็น ทว่าฝ่าบาทยังคงทอดพระเนตรอยู่อย่างนั้น ดูเหมือนยังมิประสงค์เสด็จกลับวัง
เมื่อยามเดินทางมาค่อนข้างเร่งรีบ ฝ่าบาทยังมิได้เสวยมื้อค่ำ ข้าควรจัดหาอาหารว่างให้ฝ่าบาทสักหน่อยดีหรือไม่ ?
หลิวจิ่นครุ่นคิดอยู่ในใจ จากนั้นก็ทูลถามด้วยความระมัดระวังว่า “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพิ่งนึกได้ว่ายังมีอาหารว่างอยู่เล็กน้อย จะให้กระหม่อมไปนำมาสักหน่อยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ? ”
แรกเริ่มฟู่เสี่ยวกวนดูเหมือนจะมิได้ยิน ทว่าเมื่อผ่านไปชั่วครู่ เขาก็เอ่ยออกมาว่า “ไปนำมา ! ”
ในขณะที่หลิวจิ่นกำลังลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้เอ่ยออกมาว่า “ประเดี๋ยวก่อน…เจ้าจงกลับไปยังวังหลวงแล้วบอกกับจักรพรรดินีว่า ให้นางเดินทางกลับเมืองจินหลิงเพื่อไปทำการสักการะบิดามารดาเสีย ส่วนพระสนมนางอื่น ๆ หากยินดีเดินทางไปยังเมืองจินหลิงก็ย่อมได้”
หลิวจิ่นชะงักทันใด เพราะนี่มิถูกต้องตามธรรมเนียมปฏิบัติ !
จักรพรรดินีแห่งราชวงศ์อู๋เพิ่งเสด็จกลับจากสุสานจักรพรรดิเข้าสู่พระราชวัง พวกนางคือจักรพรรดินีและนางสนมผู้สูงศักดิ์แห่งราชวงศ์อู๋ ตามกฎก่อนหน้านี้พวกนางต้องสวมชุดไว้ทุกข์อยู่ที่ราชวงศ์อู๋เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือนและต้องไปยังสุสานเพื่อบูชาตลอดเจ็ดวันแรก จากนั้นให้เผากระดาษบูชาอีกร้อยวัน
รัชสมัยเทียนเต๋อปีที่สอง กระหม่อมและจักรพรรดิพระองค์ก่อนพยายามแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ จี้หยุนกุยก็ได้เข้าร่วมวางแผนนี้ด้วยเช่นกัน แผนการชุนเหลยจึงถูกขยายออกไปในแผนการตื่นจากจำศีลของจี้หยุนกุย
จักรพรรดิพระองค์ก่อนทรงจริงจังมุ่งมั่นต่อเรื่องนี้มากยิ่งนัก ทรงตรัสว่าเป็นเรื่องสุดท้ายที่พระองค์จะทำให้ฝ่าบาทได้ จากนั้นจักรพรรดิพระองค์ก่อนก็ทรงกระอักโลหิตออกมาจากภายใน ร่างกายค่อย ๆ อ่อนแรงดุจตะเกียงไร้น้ำมัน
ทว่าจักรพรรดิพระองค์ก่อนก็ยังคงยืนหยัดอดทน เนื่องจากแผนการขั้นสุดท้ายของชุนเหลยยังมิได้ตัดสินใจว่าฟ้าจะผ่าลงที่ใด จนกระทั่งรัชศกเทียนเต๋อปีที่สาม เดือนหนึ่ง วันที่สิบห้า พระองค์จึงตัดสินพระทัยให้ฟ้าผ่าที่เมืองเปียนเฉิง
และนี่คือเหตุผลว่าเหตุใดจี้หยุนกุยถึงเชิญฝ่าบาทเสด็จไปยังเมืองเปียนเฉิงและจับตัวหยูเวิ่นเต้าไว้ที่นั่น
นี่คือเหตุผลที่กระหม่อมสมควรตายประการที่สาม เพราะกระหม่อมมิรู้อย่างแท้จริงว่าไทเฮาเสด็จไปยังแคว้นฝาน กระหม่อมมิรู้ว่าฝานอู๋เซียงเคยไปที่สำนักเต๋า เป็นเพราะความประมาทของกระหม่อมจึงทำให้ไทเฮาทรงสิ้นพระชนม์ลงที่เมืองเปียนเฉิง กระหม่อมสมควรตายอย่างแท้จริง !
ทั้งชีวิตของกระหม่อมได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิเหวิน จักรพรรดิอู๋และฝ่าบาท ทว่ากระหม่อมมิสามารถปกป้องจักรพรรดิพระองค์ก่อนและไทเฮาได้ กระหม่อมรู้สึกเจ็บปวดใจมากยิ่งนัก คงมีเพียงความตายเท่านั้นที่จะช่วยให้กระหม่อมตามไปรับใช้จักรพรรดิพระองค์ก่อนและไทเฮาได้ และเพื่อเป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาท
ลงนาม นักโทษโจวถงถง ! ’
โจวถงถงตายแล้ว ในใจลึก ๆ ของฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกโศกเศร้ามากยิ่งนัก
ตอนนั้นบิดาอ้วนเอ่ยว่า ในราชวงศ์อู๋มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่เชื่อถือได้และหนึ่งในนั้นก็คือโจวถงถง
ทว่าเพราะความมิมั่นคงในใจของตนเอง จึงทำให้เกิดความสงสัยและมองอีกฝ่ายเป็นกบฏ
บัดนี้เมื่อลองครุ่นคิดดูดี ๆ แล้ว จึงได้รู้ว่าการที่โจวถงถงปกปิดรายงานเหล่านั้นก็เพื่อมิให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ขึ้นมา เพื่อทำให้แผนการชุนเหลยสำเร็จโดยสมบูรณ์จึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้…
หากสามารถปกปิดข้าได้ แน่นอนว่าย่อมปกปิดศัตรูได้เช่นกัน
บิดาผู้ซึ่งรู้ดีว่าชีวิตกำลังดำเนินมาถึงจุดจบ เป็นผู้วางแผนการทั้งหมดนี้ด้วยตนเอง !
แผนการทุกอย่างนี้มีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวก็คือ…รวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง !
สิ่งเหล่านี้ก็เคยเป็นความต้องการของตนเช่นกัน
บัดนี้การรวมผืนปฐพีให้เป็นหนึ่งเดียวใกล้จะสำเร็จแล้ว ทว่าฟู่เสี่ยวกวนกลับมิได้ยินดีสักเท่าใดนัก
อำนาจและความยิ่งใหญ่เหล่านี้สำคัญจริงหรือ ?
การที่พวกท่านมีชีวิตอยู่ต่างหากจึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)