นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 996

ตอนที่ 996 มีชีวิตชีวากับลูกหลาน

“เหตุใดฝ่าบาทถึงยังมิกลับมาอีกกัน ? ”

“เรียนท่านแม่ ท่านคงยังมิทราบว่าเขางานยุ่งและมักจะกลับมามิค่อยตรงเวลาเพคะ”

สวี่หยุนชิงทำหน้ามิพอใจ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ข้าว่า…เป็นเศรษฐีที่ดินแห่งหลินเจียงยังมีอิสระมากกว่าอีก”

“ลูกเห็นด้วยกับเรื่องนี้และคิดว่าหากเขายังคงเป็นเศรษฐีที่ดินอยู่ เกรงว่าเขาคงประพันธ์บทกวีออกมาอีกมิน้อยเลยทีเดียว แต่เมื่อเป็นจักรพรรดิแล้ว… มิถูกสิ ! ตั้งแต่เขาย่างก้าวเข้าไปในราชสำนัก เรื่องประพันธ์บทกวีก็ลดน้อยลงทุกทีเพคะ”

ต่งชูหลานถือโอกาสใช้คำเอ่ยของสวี่หยุนชิงแสดงความในใจออกมา

ซูซูหัวเราะคิกคัก “ลูกคิดว่าหากเขายังคงเป็นเศรษฐีที่ดิน วรยุทธ์ของเขาคงจะบรรลุระดับสูงแล้ว ท่านแม่… ท่านคงมิรู้ว่าเขาอยู่ในระดับสามมา 5 ปีแล้ว ฮึ ๆ บัดนี้ก็ยังอยู่ในระดับสามเพคะ”

“เฮ้อ…บางทีข้าก็คิดว่าต่อให้มนุษย์เรามีทรัพย์สินเงินทองมากมายหรืออยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิที่สูงส่งก็ตาม เหตุใดต้องใช้ชีวิตด้วยความเหนื่อยล้าด้วยเล่า ? ลูกสะใภ้เอ๋ย หรือว่า…ข้าจะโน้มน้าวมิให้เขาเป็นจักรพรรดิแล้วดี จากนั้นพวกเราก็กลับไปใช้ชีวิตในหลินเจียงดังเดิมดีหรือไม่ ? ”

ฟู่เสี่ยวกวนเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ในห้องอาหารใหญ่และได้ยินประโยคนี้เข้าพอดี เขาจึงหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ท่านแม่ ท่านอย่าหลอกพวกนางเลย หากท่านสามารถโน้มน้าวท่านพ่อให้รับตำแหน่งจักรพรรดิได้ วันพรุ่งนี้ข้าจะกลับหลินเจียงกับพวกท่านทันทีเป็นเยี่ยงไร ! ”

หนานกงตงเซวี๋ยแอบแลบลิ้นใส่เขา ส่วนซือหม่าเช่อถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้าก็อยากให้ท่านกลับไปหลินเจียงเช่นกัน ทว่าท่านกลายเป็นความสุขของราษฎรต้าเซี่ยไปแล้ว ท่านจะทิ้งพวกเขาได้จริงหรือเพคะ ? ”

สวี่หยุนชิงเอ่ยเพราะต้องการสร้างความขบขันเท่านั้น เพราะนางเองก็ตระหนักได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนมิอาจละทิ้งประเทศต้าเซี่ยไปได้และประเทศต้าเซี่ยก็ต้องการคนเยี่ยงเขา

“เอาล่ะ…คำเอ่ยเหล่านี้แม่เอ่ยโดยมิทันได้คิด ดังนั้นมิว่าจะเป็นนายน้อยเศรษฐีที่ดินแห่งหลินเจียงหรือเศรษฐีที่ดินใหญ่เยี่ยงต้าเซี่ยก็มิมีอันใดแตกต่างกันมากมายนัก อีกอย่างพวกเจ้าก็ยังเยาว์วัยและยังต้องเหนื่อยอีกมาก มา…ยกอาหารขึ้นโต๊ะเถิด ! ”

ใกล้ปีใหม่แล้ว เด็ก ๆ จึงได้หยุดเรียนเช่นกัน ส่งผลให้ห้องอาหาร ณ ตำหนักฉืออันต้องจัดสำรับมากถึง 3 โต๊ะ

มีฮูหยิน 10 คน บุตร 9 คน ฟู่เสี่ยวกวนและสวี่หยุนชิงรวมทั้งสิ้น 21 คน

บนใบหน้าของสวี่หยุนชิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา เพราะนางได้รับข่าวดีที่ว่าลูกสะใภ้กำลังตั้งครรภ์อีก 4 คน ครานี้รวมถึงหนานกงตงเซวี๋ยด้วย

“ลูกเอ๋ย…แม่คิดว่าแม้ชาติบ้านเมืองจะสำคัญมากเพียงใด ก็จำต้องมีครอบครัวเป็นองค์ประกอบถึงจะสามารถทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้… ความหมายของแม่ก็คือการมีลูกหลานยิ่งมากยิ่งดี ดังนั้นเจ้าต้องขยันฝึกฝนคัมภีร์พระสูตรเก้าหยางให้มาก ! ”

“อย่ามัวแต่อุปถัมภ์บ้านของผู้อื่นแล้วหลงลืมบ้านของตนเองล่ะ ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนยังทำอันใดได้อีกเล่า ?

เขารู้สึกว่ามีเด็ก 9 คนนี้ก็เพียงพอแล้ว ทว่าทุกวันนี้เขาก็มิได้มีการคุมกำเนิดยามทำกิจกรรมสำราญใจแต่อย่างใด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกนางจะตั้งครรภ์ได้อีก

“ลูกทราบแล้วขอรับ ท่านแม่โปรดวางใจ ข้าและพวกนางต่างก็เยาว์วัย สามารถมีบุตรได้อีกมิน้อยเลยทีเดียว”

“ฮ่า ๆ ๆ…” สวี่หยุนชิงหัวเราะอย่างมีความสุข “หิวหรือยัง มาเถิด…มาทานข้าวกัน”

“ข้าชอบบรรยากาศที่แสนมีชีวิตชีวาเยี่ยงนี้มากยิ่งนัก”

ฟู่เสี่ยวกวนเองก็ชอบบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเช่นกัน และหากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะดีกว่านี้มากยิ่งนัก

น่าเสียดายที่ท่านพ่อสิ้นลมไปอย่างแท้จริงแล้ว

เดิมที่ร่างกายของท่านก็มิแข็งแรงอยู่แล้ว ทั้งยังถูกฝ่ามือของฝานอู๋เซียงอัดเข้าไปอีก หากมิใช่เพราะชุดคราบจักจั่นตัวนั้น ท่านก็คงจะตกตายอยู่ที่วัดป๋ายหม่าตั้งแต่ต้น

สวี่หยุนชิงมิได้เอ่ยอันใดเกี่ยวกับอู๋ฉางเฟิง ฟู่เสี่ยวกวนจึงเลี่ยงไปเอ่ยประเด็นน่าสนใจที่เกิดขึ้นในต้าเซี่ยแทน

“ผู้ที่มีนามว่าเก๋อหวยชายซึ่งเป็นนายอำเภออยู่ที่เขตเผิงหยุนแห่งเยวี่ยซานเป่ยเต้า เขาเป็นจิ้นซื่อจากสนามสอบเคอจี่ในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนหกของปีนี้”

“เกรงว่าเก๋อหวยชายผู้นี้จะรู้สึกว่าตนเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ ทว่าไร้โอกาสแสดงความสามารถออกไป เมื่อเดือนสิบที่ผ่านมา เขาได้ส่งสมุดพับมายังราชสำนักโดยเอ่ยว่าเขาได้พบเจอเรื่องมหัศจรรย์ที่เขตเผิงหยุน… มีมังกรเหินอยู่บนท้องนภา หัวมังกรสีทองยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นท่ามกลางหมู่เมฆสิริมงคลหลากสีสัน อีกทั้งมังกรยังพยักหน้ามายังทิศทางของเมืองกวนหยุนสามครา…”

เมื่อสวี่หยุนชิงและต่งชูหลานได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)