อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน นิยาย บท 46

อารมณ์โกรธของมู่เสี่ยวช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก

ซูเมิ่งเยียนจ้องมองไปที่ร่างสีขาวที่อยู่ตรงหน้า เขาได้เดินเข้าไปในห้องด้านข้างแล้ว และสีหน้าของเขาก็ดูปกติดี มีเพียงแต่ไม่ได้เหลือบมองมาที่นางอีกเลย

คิ้วของนางขมวดเล็กน้อย แต่ทางด้านข้างมีซูเจียงไห่และซูอวี๋เหนียนต่างก็กำลังมองมาที่ตนเองอยู่ นางจึงทำได้เพียงแค่ยิ้ม และค่อย ๆ เดินไปนั่งอยู่ด้านข้างของมู่เสี่ยว

ซูเจียงไห่ที่นั่งอยู่ตรงที่ที่นั่งหลัก ซูเจียงไห่และเฉียวฉู่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ส่วนซูเมิ่งเยียนและมู่เสี่ยวก็นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ระหว่างพวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าของกันและกัน เช่นนั้นในระหว่างทานข้าวจึงไม่มีความเขินอายต่อกัน

บางทีอาจจะเป็นเพราะซูเมิ่งเยียนและมู่เสี่ยวกลับบ้านพร้อมกัน จึงทำให้ซูเจียงไห่มีอารมณ์ที่สนุกสนานเป็นที่สุด เขายกแก้วเหล้าดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเด็ก ๆ ที่อยู่ข้างกายเขาก็ดื่มเป็นเพื่อนด้วย

ซูเมิ่งเยียนก็ได้รับผลสะท้อนกลับมาเช่นกัน ความโกรธเคืองที่มีกับมู่เสี่ยวเมื่อครู่นี้ได้ถูกโยนทิ้งไปไกลตั้งนานแล้ว อีกทั้งนางยังยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อแสดงความเคารพต่อซูเจียงไห่อีกหลายครั้งอีกด้วย เรื่องนี้สำหรับนางในชีวิตที่แล้ว ก็เป็นเพียงแค่ความเพ้อฝันอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งนี่ทำให้นางในชีวิตนี้ยิ่งหวงแหนทุกช่วงเวลาที่ได้มารวมตัวกันทุกครั้งมากขึ้น

ซูเจียงไห่ถูกนางแกล้งอยู่หลายครั้งจนหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น จากนั้นก็ส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า "เจ้าเด็กน้อยคนนี้ เมื่อก่อนพ่อเคยถามเจ้าว่าเคยแอบขโมยดื่มเหล้าหรือไม่ เจ้าก็เอาแต่บอกว่าไม่เคย แล้วยังมาถามพ่อด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสาด้วยว่ามันมีรสชาติเป็นอย่างไร สรุปพ่อถูกเจ้าหลอกแล้วสินะ! วันนี้พ่อมีความสุขมาก เช่นนั้นจะดื่มเป็นเพื่อนเจ้าเสียหน่อยแล้วกัน"

ซูเมิ่งเยียนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างเขินอาย บนร่างกายมีกลิ่นเหล้าออกมาจาง ๆ แก้มทั้งสองแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย "ลูกสาวก็...มีความสุขอยู่ชั่วขณะหนึ่งเช่นกัน เมื่อเห็นว่าท่านพ่อมีความสุขจึงได้ดื่มมากหน่อย ในวันปกติข้าดื่มค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว...ข้าพูดถูกหรือไม่ สามี" นางหันหน้ากลับไป แล้วดึงแขนเสื้อของมู่เสี่ยวอย่างเคยชิน

มู่เสี่ยวถูกนางดึงจนแข็งทื่อไป นางไม่เคยสัมผัสเขาอย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้มาก่อนเลย? ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันมานานแล้วอย่างไรอย่างนั้น? และนางก็ไม่เคย...ที่จะเรียกเขาว่า "สามี" ได้อย่างคล่องปากเช่นนี้มาก่อน

หลังจากที่พูดคำเหล่านี้ และกระทำอย่างนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูเมิ่งเยียนก็ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง

คำเรียกและการกระทำเหล่านั้นต่างก็มาจากจิตใต้สำนึก ที่ปลูกฝังมาจากชีวิตที่แล้ว

หลังจากที่มู่เสี่ยวกุมอำนาจ นางมักจะได้ไปร่วมงานเลี้ยงน้อยใหญ่อยู่เสมอ นางตามเขาไปทุกที่ เพียงแต่นางดื่มเหล้าไม่เก่ง มู่เสี่ยวมักจะไม่ชอบใจที่นางทำให้เขาอับอายมากเกินไป จึงกล่าวว่าหากต่อไปนางรู้สึกว่าตนเองดื่มไม่ไหวอีกแล้ว ก็แจ้งให้เขารู้เสียหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงความอับอาย และไม่ทำให้จวนอ๋องจะต้องเสียหน้าอีกด้วย!

ในตอนที่เขาพูดกับนาง มันเป็นเพียงแค่ความตรงไปตรงมาที่น่ากลัวเท่านั้น

ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ตอนที่ได้ดื่มเหล้าต่อหน้าทุกคน ถ้าสังเกตได้ว่าตัวเองนั้นจะลืมตัวเสียกริยาไปเล็กน้อย และนางก็มักจะดึงแขนเสื้อของคนที่อยู่ข้างกาย แล้วมู่เสี่ยวก็ที่จะยกเหล้าขึ้นมาอย่างเงียบเฉียบเสมอ

เขาเป็นคนดื่มเหล้าเก่งมาก น้อยครั้งมากที่จะเห็นเขามีท่าทางเมาเหล้า

"ทั้งสองคน วันนี้เกรงว่าจะร่วมมือกันหลอกดื่มเหล้าขิงพ่อสิ!" ซูเจียงไห่หัวเราะเสียงดังก้อง เมื่อได้เห็นซูเมิ่งเยียนดึงแขนเสื้อมู่เสี่ยวอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว เห็นแล้วก็เป็นการกระทำเล็ก ๆ ซึ่งหมายถึงสนิดกัน จึงทำให้รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

มู่เสี่ยวไม่ใช่ปลาในบ่อ เขาเคยพูดมานานแล้ว ว่าเขามองคนได้อย่างแม่นยำ ถึงแม้ว่าตระกูลซูจะร่ำรวย แต่เหมือนเมฆฝนบนฟ้าไม่อาจคาดการณ์ได้ วันนี้ตระกูลซูมาถึงจุดสูงสุดแล้ว เช่นนั้นต่อจากนี้ไปมีเพียงแต่การเข้าสู่ช่วงขา.ลงเท่านั้น การที่เมิ่งเยียนสามารถเป็นภรรยาของมู่เสี่ยวได้ เขาก็ถือว่าวางใจได้ไม่น้อยเลย

"ท่านพ่อ..." ซูเมิ่งเยียนพึมพำ คิดอยากที่จะอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี

วันนี้...นางเมามากไปหน่อยแล้วจริง ๆ ถึงได้...ทำเรื่องเช่นนี้

นางหันศีรษะไป แล้วมองเห็นสายตาที่คลุมเครืออยากยากที่จะเข้าใจได้ของมู่เสี่ยว นางขยับปาก เพื่อต้องการที่จะกล่าวขอโทษเขา

แต่กลับไม่คาดคิดว่า มู่เสี่ยวจะหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าของนาง มาคว่ำเอาไว้บนโต๊ะ และหลังจากนั้นก็ถือแก้วเหล้าของตนเองขึ้นมา "ท่านพ่อตา เมิ่งเยียนจะสามารถแข่งดื่มเหล้ากับท่านพ่อตาได้อย่างไร หากดื่มมากกว่านี้คงไม่ไหวแล้วจริง ๆ เหล้านี้ ข้าขอดื่มแทนนางเอง!"

ทันทีที่จบคำนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้น แล้วดื่มเหล้าที่อยู่ข้างในแก้วลงไปภายในอึกเดียว

"ได้!" ซูเจียงไห่มีความสุขมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็เติมอีกแก้วหนึ่งเต็ม ๆ ด้วยอารมณ์ที่พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง

สายตาที่ซับซ้อนของซูเมิ่งเยียนจ้องมองไปยังท่าทางการดื่มเหล้าของมู่เสี่ยว

ไม่ว่าจะในชีวิตก่อน...หรือในชีวิตนี้ ก็ยังเหมือนกันทุกประการ

ก็เป็นเช่นนี้...ก็เป็นเช่นนี้แหละ เห็นชัดว่าเขาไม่เคยรักนาง แต่การกระทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันดันกลับทำให้คนใจเต้นได้อย่างน่าโมโห

ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าแม้เป็นคนอื่นที่ได้กลายเป็นหวางเฟย อยู่ตำแหน่งของนาง เขาก็จะทำดีกับคนผู้นั้นเช่นกัน แต่มันก็ยังทำให้ใจสั่นไหวอยู่ดี

เหมือนดั่งแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ

ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้ซูเมิ่งเยียนรีบลดสายตาลงทันที

ด้วยที่เขาสังเกตได้ถึงความเงียบสงบของคนที่อยู่ข้างกาย มันจึงทำให้มู่เสี่ยวหันไปมองนางอย่างรวดเร็ว แต่ก็กลับเห็นเพียงแค่นางที่ก้มหน้าอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน