อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน นิยาย บท 47

สรุปบท บทที่ 47: อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน

สรุปตอน บทที่ 47 – จากเรื่อง อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน โดย novelones

ตอน บทที่ 47 ของนิยายGongเรื่องดัง อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน โดยนักเขียน novelones เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ซูเมิ่งเยียนดื่มเหล้าได้ไม่เก่งเท่าไรนัก โดยเฉพาะตอนที่ดื่มสามแก้วติดต่อกันในระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อครู่ มันทำให้เริ่มเวียนหัว และพวงแก้มทั้งสองก็ร้อนผ่าวขึ้นมา

หากเมื่อครู่ไม่ได้ดึงชายเสื้อของมู่เสี่ยว และไม่เรียกเขาว่า "สามี" จนทำให้ตนเองตกใจแล้วละก็ นางกลัวว่าจะดื่มมากเกินไปหน่อยจนรับไม่ไหว

มู่เสี่ยวที่อยู่ด้านข้างวางแก้วลงบนโต๊ะด้วยความแรง ถึงคนรอบข้างจะได้ยินไม่ชัดเจน แต่ซูเมิ่งเยียนกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง 

จากเดิมที่ก้มศีรษะอยู่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองไปทางเขา กลับมองเห็นว่าเขากำลังเม้มปากแน่น ราวกับกำลังโกรธใครสักคนอยู่อย่างไรอย่างนั้น

หลังจากนั้นก็มองไปตามสายตาของเขา ก็ไปเห็นเข้ากับเฉียวฉู่

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ชาติที่แล้ว ท่านพี่เฉียวได้เป็นจ้อหงวนและได้รับตำแหน่งรองเสนาบดีกรมอาญา และหลังจากนั้นจึงได้มีส่วนร่วมกับมู่เสี่ยว ในเวลาต่อมาก็ไม่รู้ว่าไปทำให้มู่เสี่ยวด้วยรำคาญใจด้วยเหตุใด จึงถูกมู่เสี่ยวลดตำแหน่งแล้วส่งไปเป็นฝ่ายตรวจการอยู่ที่เจียงหนาน และจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

แต่ในชาตินี้ ทั้งสองคนมีอะไรไม่ถูกคอกันเร็วเช่นนี้เลยอย่างนั้นหรือ?

"เป็นห่วงเขาขนาดนี้หรือ?" น้ำเสียงที่ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไปดังขึ้นมาที่ข้างหูของนาง

สติของซูเมิ่งเยียนกลับคืนมาในทันที นางหันกลับไปมองชายที่อยู่ข้างกาย สายตาของเขายังคงนิ่งสงบเหมือนเช่นเคย ราวกับว่าคำที่เพิ่งกล่าวไปเมื่อครู่นั้นไม่ได้พูดออกมาจากปากของเขาอย่างไรอย่างนั้น

แต่ทว่านางกลับฟังสิ่งเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

นางรู้ว่าคำว่า "เขา" ในคำพูดของเขานั้น ก็คือเฉียวฉู่

นางรู้สึกได้เพียงแค่การถากถางเท่านั้น แท้จริงแล้ว เข้าไม่เคยเข้าใจนางอย่างแท้จริงมาก่อนเลย

"ท่านอ๋องคิดมากเกินไปแล้ว" นางกล่าวแล้วหลบสายตาลง และหลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองไปทางซูเจียงไห่พลางกล่าวว่า "ท่านพ่อ เมื่อครู่ดูเหมือนว่าข้าจะดื่มเร็วเกินไปหน่อย เลยรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ข้าขอออกไปสูดอากาศข้างนอกก่อน"

ซูเจียงไห่จะไม่เข้าใจลูกสาวของตนเองได้อย่างไร? เมื่อได้เห็นท่าทางเมาสะลึมสะลืออย่างไร้เดียงสาก็รู้ว่านางเมาแล้ว เขาก็โบกมือให้สาวรับใช้ติดตามออกไปกับนางด้วย

ซูอวี๋เหนียนที่อยู่ด้านข้างหรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาของเขาค่อย ๆ จ้องมองไปที่มู่เสี่ยว หลังจากที่ผ่านไปนานเขาก็ลุกขึ้นเช่นเดียวกัน แล้วปลีกตัวออกไปอย่างเงียบเฉียบ

ในศาลาริมทาง ซูเมิ่งเยียนกำลังนั่งรับลมอยู่บนม้านั่งหิน ลมเย็นพัดโชยมา ทำให้ความคิดของนางชัดเจนขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

นางไม่อาจที่จะเย่อหยิ่งเช่นนี้ได้อีกแล้ว ซูเมิ่งเยียนคิดว่า หลังจากนี้ จะต้องมีสติให้มากกว่านี้หน่อย เรื่องในวันนี้ ไม่อาจที่จะปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกได้

นางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดมู่เสี่ยวจึงช่วยนางดื่มเหล้าแทน แต่ทว่านางกลับหวาดกลัวอยู่เสมอ ชาติที่แล้วก็เป็นเช่นนี้ ทุก ๆ ครั้งที่นางคิดอยากจะยอมแพ้ เขาก็จะมีการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อฉุดรั้งให้นางตกลงไปในห้วงแห่งความรักที่ไม่สมหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่สามารถที่จะดิ้นรนได้

ในชาตินี้...นางไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้อีกแล้ว...

"น้องกำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ?" มีเสียงที่เต็มไปด้วยความหยอกล้อของคนหนึ่งดังขึ้นมา 

ซูเมิ่งเยียนหันหน้ากลับมา ก็เห็นซูอวี๋เหนียนที่สวมชุดสีแดงเข้มยืนพิงเสาไม้ตรงราวบันไดแล้วจ้องมองมาที่นางอยู่

"พี่ใหญ่หรือ?" ซูเมิ่งเยียนงงงัน

ซูอวี๋เหนียนโบกมือเล็กน้อย สาวใช้ที่รอปรนนิบัติอยู่รอบบริเวณก็ลุกขึ้นจากไปอย่างรู้จักกาลเทศะในทันที

"พี่ใหญ่...มีเรื่องอะไรหรือ?" ซูเมิ่งเยียนลังเล แล้วหันไปเหลือบมองเขาที่อยู่ข้างหลัง หรือว่างานเลี้ยงจบไปแล้ว?

"วางใจเถอะ มีเพียงแค่ข้าคนเดียวเท่านั้น" ซูอวี๋เหนียนหรี่ตาลง "เจ้าและมู่เสี่ยวเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?" เขาถามขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา

ซูเมิ่งเยียนสับสน "อะไรคือเกิดเรื่องอะไรขึ้น?"

"อยู่ต่อหน้าข้ายังแสร้งทำเป็นไม่รู้อีกหรือ?" ซูอวี๋เหนียนขมวดคิ้ว "คนอื่นไม่รู้ แล้วคิดว่าพี่ใหญ่อย่างข้าจะไม่รู้ด้วยเช่นนั้นหรือ? ข้าได้ยินข่าวมาหลายวันแล้ว ข้างกายมู่เสี่ยวมีหญิงอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยตลอด?"

“ฮั้วเหมยหรือ?”

ซูเมิ่งเยียนประหลาดใจ นางไม่คิดมาก่อนเลยว่า แม้แต่พี่ใหญ่ก็รู้ถึงการมีอยู่ของฮั้วเหมย ดูท่าแล้ว...มู่เสี่ยวคงจะไม่หลีกเลี่ยงความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ แล้ว

คิ้วขมวดเล็กน้อย ก้นบึ้งของหัวใจหนักอึ้งอย่างอธิบายไม่ได้ ดูท่าแล้ว...การที่นางยับยั้งอารมณ์ตนเองไว้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

"ใช่ชื่อฮั้วเหมยหรือไม่?" ซูอวี๋เหนียนพยักหน้า "เขาและผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่?"

"อืม" ซูเมิ่งเยียนพยักศีรษะเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา และนางก็ยืนอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานาน "ก่อนหน้านี้ข้าให้ชิวซวงคืนผ้าเช็ดหน้าของท่าน ท่านได้รับแล้วหรือยัง?" ทำได้เพียงแค่หาเรื่องมาพูดเท่านั้นแล้ว

"อยู่ตรงนี้แล้ว" เฉียวฉู่หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมา จากนั้นก็หัวเราะแล้วกล่าวว่า "งานเย็บปักถักร้อยของเยียนเยียนพัฒนาขึ้นมาก" เขาไม่คาดคิดมาก่อน ว่างานเย็บปักถักร้อยของนางจะดีมากเช่นนี้

เด็กน้อยที่เคยร้องไห้มาหลบอยู่ข้างหลังของเขาตั้งแต่เมื่อก่อน ในที่สุดก็เติบโตขึ้นเป็นสาววัยแรกแย้ม และได้แต่งงานกับคู่ครองที่ดีไปแล้ว

หัวใจของเขาแข็งทื่อไปเล็กน้อย แต่กลับมีคำหนึ่งถามออกไปจากปากของเขา "เยียนเยียน เขาปฏิบัติต่อเจ้า...ดีหรือไม่?"

เมื่อเฉียวฉู่ถามออกไปแล้วก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็ได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่นภายในใจ

มันจะไม่ดีได้อย่างไร? หากว่าไม่ดี เมื่อครู่นี้นางจะวางใจคว้ามุมเสื้อของเขาได้อย่างไร แล้วยังเรียกเขาว่า "สามี" อีกด้วย?

เสียงที่เรียกว่าสามีอย่างนุ่มนวลและอ่อนหวานนั้น เมื่อได้ยินก็ได้แต่รู้สึกหน่วงในหัวใจ และกลับด้านชาด้วยเช่นกัน

"ดูข้าสิ ถามมากเกินไปแล้ว" ไม่ทันรอให้ซูเมิ่งเยียนตอบกลับมา เฉียวฉู่ก็ตอบคำถามตัวเองไปเสียก่อน "วันนี้ข้ายังต้องกลับไปอ่านหนังสืออีก เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ เยียนเยียน ข้าคงจะไปเป็นเพื่อนเจ้ามากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว" ความสุขุมในน้ำเสียงหายไปเล็กน้อย

"ท่านพี่เฉียว!" ซูเมิ่งเยียนเรียกหยุดเขาไว้อย่างกะทันหัน

ฝีเท้าของเฉียวฉู่ชะงักไปเล็กน้อย

ซูเมิ่งเยียนอ้าปากค้าง ที่จริงแล้วไม่ได้คิดที่อยากจะพูดอะไร เพียงแต่เมื่อเห็นแววตาของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงคิดเรื่องชีวิตที่แล้วขึ้นมา เนื่องจากว่าสุดท้ายแล้วท่านพี่เฉียวก็ไม่ได้แต่งงาน ถึงจะเป็นจ้อหงวน และเป็นถึงเจ้ากรมอาญา แต่สุดท้ายแล้วก็ถูกมู่เสี่ยวลดตำแหน่งส่งไปทางใต้...จนทั้งชีวิตต้องพบเจอแต่การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เขาเป็นปัญญาชนที่ซึ่งไม่ควรต้องทนแบกรับไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขากลับมีประสบการณ์ไม่น้อยเช่นนั้น

จนมีบางครั้งนางก็คิดว่า เรื่องนี้ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่? เมื่อกลับมาครุ่นคิดอีกครั้ง กลับรู้สึกว่าตนเองนั้นกำลังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่

"เยียนเยียน?" นางไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นเวลานาน มันทำให้ภายในใจของเฉียวฉู่ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก

ซูเมิ่งเยียนเงยหน้าขึ้น แล้วฝืนหัวเราะออกมา "ท่านพี่เฉียว หลังจากนี้ไป ไม่ว่าจะเพื่อใครก็ตาม...ก็อย่าใช้ชีวิตในอนาคตของท่านไปเดิมพัน"

ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นด้วยเถิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน