องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 11

สรุปบท บทที่ 11 คู่ครองหนึ่งวันบุญคุณร้อยวัน: องค์ชายาหมื่นพิษ

สรุปเนื้อหา บทที่ 11 คู่ครองหนึ่งวันบุญคุณร้อยวัน – องค์ชายาหมื่นพิษ โดย หลิงหลิง

บท บทที่ 11 คู่ครองหนึ่งวันบุญคุณร้อยวัน ของ องค์ชายาหมื่นพิษ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หลิงหลิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หยุนหลิงระบายอารมณ์ใส่เขาไปยกหนึ่ง ในใจก็รู้สึกสบายมากขึ้น

เมื่อก่อนนางรู้สึกมาตลอดว่าเจอคนแบบนี้ ใช้เข็มทิ่มตายก็จบเรื่อง แต่ว่าจะทิ่มเฟิงเหยียนตายที่หน้าประตูจวนเหวินกั๋วกงจริงๆ จากนั้นก็ต้องจัดการอย่างยุ่งยาก

ได้ด่าเป็นครั้งคราวก็มีความสุขเหมือนกัน

แต่ว่าวิชาของนางธรรมดา เปลี่ยนเป็นเพื่อนที่ปากจัดเหมือนดั่งดอกบัวพิษคนนั้นมา เฟิงเหยียนอาจจะโมโหจนตายไปแล้ว

ครั้งนี้ฉู่หยุนหลิงจงใจพูดจาอย่างรุนแรงต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ยังลากคนตระกูลเฟิงทั้งหมดลงไปเกี่ยวข้องด้วย

เฟิงเหยียนถึงแม้จะโกรธแค่ไหน ก็ยังต้องคำนึงถึงชื่อเสียงตระกูล เขามองดูหยุนหลิงอย่างโกรธแค้นทีหนึ่ง พูดกับผู้ติดตามด้านหลัง “พวกเราไป!”

หยุนหลิงกลับไม่คิดที่จะปล่อยเขาไป ยักคิ้วพูดว่า “คุณชายเฟิง ท่านยังไม่ได้ขอโทษต่อท่านอ๋องของบ้านข้าเลย ทำไมก็จะไปแล้ว มารยาทถูกสุนัขกินแล้วหรือไง?”

เฟิงเหยียนพยายามอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียกิริยาที่ไม่เหมาะสม แต่รอยยิ้มที่มุมปากอย่างจงใจของหยุนหลิง ทำให้สติอันใจเย็นที่เดิมก็มีไม่มากนั้นหายไปในทันที

ชาตินี้เขาไม่เคยก้มหัวให้ใคร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อครู่หยุนหลิงยังถีบเขาไปทีหนึ่ง ทำให้เขาเสียหน้าอย่างสิ้นเชิง

“นางแพศยา! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เฟิงเหยียนโกรธจนสูญเสียการควบคุมสติ แย่งแส้มาจากมือของคนขับรถม้าข้างกายมาแล้วฟาดไปทางหยุนหลิง

เดิมทีเฟิงเหยียนก็ไม่มีวิชาการต่อสู้เท่าไหร่นัก หยุนหลิงจะหลบแส้ของเขาก็ไม่ยาก แต่ความจริงนางยินดีจะรับแส้ไว้

อย่างไรเสียก็ไม่ได้กลัวเจ็บอะไร ให้คนมากมายแบบนี้เห็นเฟิงเหยียนทำร้ายนาง สิ่งที่จะนำไปแต่งความได้ก็ยิ่งมากแล้ว

ดีที่สุดก็ให้เรื่องไปถึงท้องพระโรงฮ่องเต้ไปเลย จากนั้นก็ฉวยโอกาสหลอกยาสมุนไพรล้ำค่าจากตระกูลเฟิงอีกกอง เช่นนี้แล้วนางก็มียารักษาด่างพิษให้ตัวเองแล้ว

หยุนหลิงกำลังคิดแผนการในใจอยู่ คิดไม่ถึงว่าจะถูกมือหนึ่งดึงเข้าไปในอ้อมกอดอันแข็งแกร่งผืนหนึ่งอย่างกะทันหัน

แส้กระทบต่ออากาศเกิดเสียงดังก้องหู แต่ความเจ็บปวดที่คิดไว้ไม่ได้มาถึง หยุนหลิงมองไปมุมด้านบนโดยสัญชาตญาณ ตะลึงเล็กน้อย

เซียวปี้เฉิงจับแส้ยาวสีดำนั้นไว้แน่นด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งปกป้องนางไว้ในอ้อมกอด

ในสายตาของเฟิงเหยียนมีความตกตะลึง ใบหน้าแดงก่ำอยากดึงแส้กลับมา แต่ไม่ว่าเขาจะใช้แรงสุดกำลัง มือของเซียวปี้เฉิงก็ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย

“เมื่อครู่ ข้าก็เคยเตือนเจ้าแล้ว คิดว่าข้าพูดไปเท่านั้นหรือ?”

คำพูดอันเย็นเยือกนั้นยังไม่จบ เซียงปี้เฉิงก็ปล่อยหยุนหลิง ก็เข้าไปจับแขนของเฟิงเหยียนไว้ตามแส้อย่างกับสายฟ้าแลบ

ฝ่ามืออันใหญ่และมีเรี่ยวแรงบิดเล็กน้อย เฟิงเหยียนก็ร้องอย่างเจ็บปวดดั่งหมูถูกฆ่า

“อ้าก——!”

ทุกคนต่างก็สูดลมหายใจเข้า เซียวปี้เฉิงกลับหักมือข้างหนึ่งของเฟิงเหยียนจริงๆ!

ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งไม่รู้บินมาจากไหนจู่โจมไปที่เซียวปี้เฉิง

คือองครักษ์ลับของตระกูลเฟิงที่ทำหน้าที่ปกป้องเฟิงเหยียน

เซียวปี้เฉิงไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เอียงตัวหลบก็หลีกเลี่ยงการจู่โจมของคนที่มาได้แล้ว จากนั้นก็โยนตัวเฟิงเหยียนออกไปเหมือนจับไก่ตัวเล็กๆ

องครักษ์ลับไม่ได้โจมตีอีก แต่เลือกที่จะรับตัวเฟิงเหยียนไว้

“เร็ว รีบส่งข้าไปโรงหมอ! เร็วๆ”

เฟิงเหยียนเจ็บจนเหงื่อท่วมหัว ตะโกนใส่องครักษ์อย่างสูญเสียการควบคุมสติ

“จิ้งอ๋องฝีมือดี หากท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายรู้ว่าท่านอ๋องไม่เคยละเลยการเรียนวิชาการต่อสู้เลย ต้องดีใจแทนท่านอ๋องแน่นอน”

องครักษ์มองดูเซียวปี้เฉิง พาตัวเฟิงเหยียนหายไปต่อหน้าผู้หญิงในชั่วลมหายใจ

หยุนหลิงก็ตะลึงต่อสิ่งที่เกิดตรงหน้าอย่างกะทันหัน

ในใจนางรู้สึกประหลาดใจ เซียวปี้เฉิงปกติหน้าเฉื่อยชา ซื่อๆบื้อๆไม่ออกเสียงเลยสักครั้งเดียว เหมือนกันก้อนหินเหม็นในบ่อส้วม คิดไม่ถึงว่าวิชาการสู้เก่งกาจขนาดนี้

ฝีมือนั้น ความเร็วนั้น เกือบจะเทียบเท่าฝีมือการต่อสู้ของเจ้าสองได้แล้ว ไม่รู้ว่าหากตาสองข้างของเขาดีสมบูรณ์ จะเก่งกาจขนาดไหน

ดูแล้วสมญานาม “นักรบเทวดา” นี้ไม่มีน้ำหนักเลย

ฉู่หยุนหานร่างเกร็ง รีบเก็บสายตาอันตกตะลึงอย่างรวดเร็ว

พี่ใหญ่ของนางนี้เป็นอะไรไป เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“.......ขอ ขอโทษ ข้ากับพี่ปี้เฉิงโตมาพร้อมกัน เมื่อครู่แค่ความเคยชิน หวังว่าพี่จะไม่เก็บไปใส่ใจ”

ฉู่หยุนหลิงมองนางหัวจรดเท้า ยักคิ้วเล็กน้อย

“เจ้านี่พูดจาเป็นหรือไม่ อะไรโตมาด้วยกันเคยชินแล้ว จงใจพูดคำแบบนี้ขยะแขยงคนหรือ?”

ฉู่หยุนหานไม่เคยเห็นหยุนหลิงแบบนี้มาก่อนเลย ทันใดนั้นก็ไม่รู้ควรตอบสนองยังไง สีหน้าไม่ดีอย่างมาก

ฉู่หยุนเจ๋อสีหน้างง “หยุนหลิง ก่อนหน้านี้เจ้ากับปี้เฉิงไม่ใช่........”

เขาจำได้ว่าน้องสาวเกลียดเซียวปี้เฉิงอย่างมาก

หยุนหลิงหัวเราะ “คู่ครองหนึ่งวันบุญคุณร้อยวัน งานก็แต่งแล้ว ก็ใช้ชีวิตดีๆ หรือจะเลิกกันได้หรืออย่างไร”

ถึงแม้ว่านางจะไม่มีความคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเซียงปี้เฉิง แต่แกล้งฉู่หยุนหานมันช่างมีความหมายนัก

เป็นอย่างที่คิด ฉู่หยุนหานสีหน้าซีดขาว เหมือนดั่งถูกฟ้าผ่า เกือบจะยืนไม่อยู่

“เป็นเช่นนี้หรือ? ตอนแรกข้ายังกังวลระหว่างพี่กับพี่ปี้เฉิง.......เช่นนี้แล้ว ก็ดีอย่างยิ่งแล้ว.......”

น้ำเสียงของฉู่หยุนหานสั่นเครืออย่างยากที่จะปิดบัง ร่างของเซียวปี้เฉิงเกร็งเล็กน้อย ปล่อยมือของหยุนหลิงออกโดยสัญชาตญาณ

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคำพูดเหล่านี้ของหยุนหลิงกำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกวุ่นวายใจเล็กน้อย

แต่ว่าเขาตกลงกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว วันนี้ออกจากบ้านต้องทำถึงเคารพซึ่งกันและกัน

“วันนี้ยังหนาวอยู่ อย่ายืนให้ลมพัดอยู่หน้าประตูเลย รีบเข้าไปเถิด ฉู่......ลิ่งยังมีอาการเจ็บอยู่ ลู่ชีมาพยุงตัวข้าก็พอ”

กิริยาที่เซียวปี้เฉิงปล่อยมือทำให้ในใจของฉู่หยุนหานสบายขึ้นบ้าง แต่นางก็ยังไม่สามารถรับได้ที่ความสัมพันธ์ของเขากับหยุนหลิงปรองดองเช่นนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ