ถึงแม้จะเห็นความลับที่น่าตกใจ นักฆ่าชุดดำก็ไม่มีโอกาสได้พูดออกไปแล้วล่ะ
หยุนหลิงช่วยคลายสถานการณ์เข้มงวดให้กับพวกเย่เจ๋อเฟิง แต่มีนักฆ่ามาอีกในระลอกที่สอง
“มีนักฆ่าพุ่งเข้ามาอีกแล้ว ครั้งนี้มีแค่คนเดียว พลังชีวิตและอารมณ์ของอีกฝ่ายดูกระตือรือร้นมาก”
เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากนักฆ่าพวกนั้น ดูแล้วอีกฝ่ายคงจะเป็นไพ่ไม้ตายที่พวกนั้นส่งมา
หยุนหลิงพูดจบ ในค่ำคืนก็มีเสียงร้องของม้าดังขึ้น
นางรู้สึกได้ถึงรถม้าที่สั่นสะเทือนและเอียง ร่างกายที่เสียการทรงตัวก็ล้มลงไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเซียวปี้เฉิง
ม้าถูกฟาดด้วยแส้ที่หลังอย่างแรง วิ่งไปยังถนนอันมืดมิดในค่ำคืนอย่างบ้าคลั่ง เย่เจ๋อเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไป
“ทหาร รีบมาหยุดรถม้าเร็ว!”
ไม่มีคนขับ ม้าที่เสียการควบคุมก็วิ่งไปยังถนนที่ไร้ผู้คนอย่างบ้าคลั่ง ไม่กี่วินาทีก็หายไปในค่ำคืนอันมืดมิด เหลือเพียงแต่ฝุ่นควันโขมง
ไม่นาน รถม้าก็สะบัดออกจากตัวของม้า กลิ้งล้มลงไปข้างๆ
ในตอนที่ตกพื้นนั้น เซียวปี้เฉิงก็กอดหยุนหลิงไว้แล้วรีบกระโดดออกจากรถม้า ใช้ร่างกายรองรับตัวของนางไว้
เห็นหยุนหลิงกุมท้องด้วยสีหน้าซีดเซียว เขาก็รีบถามด้วยสีหน้าลนลานว่า “เจ้าเป็นยังไงบ้าง ปวดท้องหรือเปล่า?”
หยุนหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ อดทนแล้วส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้คงใช้พลังวิญญาณไม่ได้”
เด็กสองคนในท้องอ่อนแอจนน่าปวดหัว กระทบโดนนิดหน่อยก็ไม่ได้ ไม่งั้นก็จะดูดพลังวิญญาณของนางไปหมด
เพื่อความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น หากไม่ใช่เวลาสำคัญ นางจะไม่ใช้พลังวิญญาณ
เซียวปี้เฉิงก็โล่งอก รีบเงยหน้ากวาดตามองรอบๆ
ม้าคลั่งวิ่งออกไปไกลจนไม่เห็นตูดแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็อยู่ที่หน้าเรือนส่วนตัวที่เตรียมขายทางด้านตะวันตกของเมือง เรือนส่วนตัวหลังใหญ่นี้ยังไม่ได้ขายออกไป รอบข้างจึงไม่มีคนอยู่เลย
“ฮ่าๆๆ——!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ