ในขณะที่กำลังเคร่งเครียด ผู้ช่วยโจวที่อยู่ข้างๆก็เสนอขึ้นราวกับเข้าใจความหมายของเขา
“ท่านแม่ทัพขอรับ การมีผู้นำแต่ละขบวนในชนเผ่าหนี่ว์เจินถือว่าไม่เลวเลยนะขอรับ พวกเขาล้วนต่อสู้กันมาอย่างโชกโชน หมดห่วงเรื่องการนำทัพไปทำสงคราม อีกอย่างยังเข้าใจภาษาภาคกลางของเราด้วยขอรับ”
“เรื่องนี้ยังต้องให้เจ้าบอกอีกรึไง ปัญหาคือทำไมพวกเขาต้องทุ่มเทให้เราขนาดนั้นต่างหาก?”
หลี่ชางเหลือบมองผู้ช่วยโจวแล้วตอบกลับ
“คือ......” ผู้ช่วยโจวชะงักไปทันที แต่ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเห่ยๆแล้วพูดว่า “จากความยอดเยี่ยมของท่านแม่ทัพที่ทำให้เรายึดเจ้อหลี่มู่เหมิงมาได้ หากท่านแผ่ความเกรงขามไป บางทีพวกเขาอาจมาอยู่ข้างเราเหมือนก่อนหน้านี้ก็ได้ขอรับ”
“ไปไกลๆ” หลี่ชางพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ครุ่นคิด
เขากำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนพวกนี้มีประโยชน์มากที่สุด แต่คิดอยู่นานก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไร สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญาแล้วโบกมือพูดว่า
“เอาเถิดพักผ่อนก่อนแล้วกัน อย่าแยกกันเชียวล่ะ ไม่เช่นนั้นไปถึงจุดหมายก็ไม่อาจโจมตีเมืองได้”
“ขอรับ”
ผู้ช่วยโจวน้อมรับคำสั่งแล้วจากไป
......
ในขณะนั้น ณ พระราชสำนักของชนเผ่าหนี่ว์เจิน หรือก็คือในเจ้อหลี่มู่เหมิง
มีแม่ทัพคนหนึ่งเดินย่องเข้าไปในเต็นท์ขององค์ชายสอง
“ฮูมู่หลู่ เจ้าเตรียมการไปถึงไหนแล้ว?” องค์ชายสองกระซิบถามขึ้น
ฮูมู่หลู่ก้มศีรษะลงอย่างเคารพแล้วตอบกลับเบาๆว่า
“องค์ชายสองพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ติดต่อกับผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าหลายคนแล้ว พวกเขายินดีที่จะสู้ไปกับพระองค์สักครั้งพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อองค์ชายสองได้ยินดังนั้นก็รู้สึกวางใจ เพราะเขาไม่อยากให้เจ้าสามได้รับตำแหน่งท่านผู้นำในตอนสุดท้าย หากเป็นเช่นนั้นเขาก็คงไม่รอดแล้ว
“จงพูดความจริงมา การลงมือครั้งนี้เจ้ามีความมั่นใจมากเพียงใด?” จู่ๆองค์ชายสองก็มองฮูมู่หลู่อย่างเข้มงวดแล้วถามขึ้น
“ห้าสิบพ่ะย่ะค่ะ” ฮูมู่หลู่ลังเลไปครู่หนึ่งแล้วจึงจะกัดฟันพูดขึ้น
องค์ชายสองเบิกตากว้างแล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า
“เจ้ารู้รึไม่ว่าเรากำลังจะทำอะไรกัน? หากเสียท่าก็จะตายกันหมด แต่เจ้ากลับบอกข้าว่ามีความมั่นใจเพียงห้าสิบเนี่ยนะ?”
ความมั่นใจเพียงห้าสิบ เขาอยากจะถอดใจจริงๆ พาคนหนีไปด้วยกันเลย อย่างไรสุดท้ายก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ต่อให้ต้องกลายเป็นผู้นำของกลุ่มคนเอ้อระเหยลอยชาย ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่เลือกที่จะสู้ให้ตายกันไปข้าง เมื่อล้มเหลว พวกเขาก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น
“คือ......” ฮูมู่หลู่ดวงตาสั่นไหว สุดท้ายก็เกลี้ยกล่อมว่า “องค์ชายสองพ่ะย่ะค่ะ มันช่วยไม่ได้จริงๆ กระหม่อมเองก็ไม่กล้าที่จะดึงคนมาอย่างเปิดเผย มีแต่ต้องดึงคนที่ไว้ใจได้อย่างลับๆเท่านั้น การทำเช่นนี้ความสำเร็จจึงไม่มากพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายสองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ค่อยๆถอนหายใจ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า
“เอาเถิด เช่นนั้นก็ปฏิบัติตามแผนการเดิม ลงมือวันนี้เสีย อย่าถ่วงเวลาต่อไปอีก”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ” ฮูมู่หลู่โค้งคำนับแล้วพูดขึ้นทันที จากนั้นเขาก็รีบเดินออกจากเต็นท์ไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...