“แล้วหากเป็นกระหม่อมเล่าพ่ะย่ะค่ะ?” จู่ๆจางฝูก็เงยหน้าแล้วพูดขึ้น
ฉินเหยียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เกรงว่าจะไม่ได้ บัดนี้ใครๆก็รู้ว่าเจ้าอยู่ฝ่ายอาณาจักรฉินแล้ว หากเจ้าออกหน้าเอง พวกมันอาจไม่แยแสเลยก็ได้”
“คือ......” จางฝูสีหน้าไม่สู้ดีทันที เขาไหล่ตกด้วยความเศร้า “เป็นเช่นนั้นจริงด้วย!”
ฉินเหยียนตบบ่าของเขาแล้วถามว่า “แต่ข้าต้องการให้เจ้าแนะนำคนให้ข้า เพื่อไปเป็นผู้ไกล่เกลี่ย จะให้ดีที่สุดต้องเป็นผู้ที่เข้าใจพวกตระกูลขุนนางและมีสายสัมพันธ์กับพวกเขา เป็นผู้ที่คำพูดมีน้ำหนัก”
จางฝูกะพริบตาแล้วจู่ๆก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาได้ เขารีบเข้าไปใกล้ฉินเหยียนแล้วพูดเสียงเบาด้วยท่าทีมีลับลมคมในว่า
“มีผู้หนึ่ง!”
ฉินเหยียนเลิกคิ้ว “ใครงั้นรึ?”
จางฝูยิ้มแล้วพูดว่า “จางจวิ้นพ่ะย่ะค่ะ!”
จางจวิ้นรึ? ฉินเหยียนพูดชื่อของเขาเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็มองจางฝูอย่างสงสัยแล้วถามว่า
“นี่คงไม่ใช่ญาติของเจ้าหรอกนะ?”
จาวฝูรีบส่ายหน้า “จะเป็นไปได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะมีญาติได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
ว่าแล้วเขาก็รีบพูดต่อว่า “แต่ว่าคนผู้นี้ก็มีความสัมพันธ์กับกระหม่อมจริง เขาคือลูกชายของจางจื้อสยงพ่ะย่ะค่ะ”
“หา? พวกจางจื้อสยงถูกกวาดล้างกันหมดแล้วไม่ใช่รึ?” ฉินเหยียนถามกลับอย่างตะลึง
เหตุใดจู่ๆจึงมีจางจวิ้นได้ อีกทั้งยังเป็นลูกชายของมันด้วย
จางฝูเกาศีรษะแล้วเล่าเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดอย่างละเอียด
ฉินเหยียนฟังแล้วก็เบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ เขาถามว่า
“เจ้าหมอนี่หักหลังพ่อของตนเองเพื่อให้รอดชีวิต ดังนั้นพี่เจ็ดจึงได้หลักฐานเอาผิดพวกตระกูลจางได้งั้นรึ?”
โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว! แม้ว่าสำหรับพวกเขาเจ้าหนูนี่จะช่วยพวกเขาเอาไว้มาก แต่เมื่อพิจารณาจากตรรกะแล้ว เจ้าหมอนี่กล้าหักหลังพ่อและคนของตระกูลเพื่อเอาชีวิตรอด นี่มันไร้ความเป็นมนุษย์เกินไปแล้ว
จางฝูกระแอมอย่างเห้อเขิน “ก็เพราะ......เจ้าหมอนั่นกลัวตายมากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ......”
ฉินเหยียนยิ้ม “เจ้าแนะนำคนเช่นนี้ให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยของอาณาจักรฉิน เพื่อไปไกล่เกลี่ยกับพวกตระกูลขุนนาง จะได้ผลรึ?”
“เอ่อ......คงจะ......ได้ละมั้งพ่ะย่ะค่ะ”
จางฝูลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูดเบาๆว่า “อย่างไรเจ้าหมอนี่ก็ตรงตามเงื่อนไขของท่านอ๋อง อีกอย่างเขาไม่เพียงแค่มีความสนิทกับพวกตระกูลขุนนางเท่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือเขารู้ช่องทางดีพ่ะย่ะค่ะ ปัญหาคือคนผู้นี้ไว้ใจได้รึไม่ นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ!”
ฉินเหยียนพูดอย่างสงสัยว่า “หากพูดตามความจริงแล้ว อาณาจักรฉินคือศัตรูที่สังหารพ่อของเขาใช่รึไม่?”
“แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เจ้าจางจวิ้น ต่อให้เราจะใช้ประโยชน์ถูกวิธี แต่ก็ไม่แน่ว่าจะทำประโยชน์ให้เรา” จางฝูพูดขึ้น
ฉินเหยียนขมวดคิ้ว จากนั้นก็เงยหน้ามองนอกหน้าต่าง ภูเขาและต้นไม้ที่ทอดยาวไม่รู้จบถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตกหนัก ผืนป่าเขียวขจีถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีเงิน
ฉินเหยียนครุ่นคิดแล้วหันหน้ามาพยักหน้าพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเจ้าก็ไปลงมือทำเรื่องนี้เถิด หากล้มเหลวก็ให้เป็นความผิดของข้า หากสำเร็จก็ให้เป็นผลงานของเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...