อีกด้านหนึ่ง ฉินเหยียนกำลังดูรายงานลับที่ถูกส่งมา เขาหรี่ตาลงสรุปว่า
“ชาวตาดคิดจะคุมเชิงระยะยาวกับเรา”
จ้าวจือหย่าสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นางพูดอย่างสงสัยว่า “แล้วจะทำอย่างไรดีเพคะ?”
ฉินเหยียนลังเลครู่หนึ่ง เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า
“รอไปก่อนเถิด นอกจากจะมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ไม่เช่นนั้นหากเปิดฉากการต่อสู้ขนาดใหญ่ไป ต่อให้จะแพ้หรือชนะอาณาจักรฉินก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไร”
หากชาวตาดเข้ามาโจมตีพวกเขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลย ต่อให้อีกฝ่ายจะระดมกำลังทั้งหมดมาก็ตาม เขายังคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ในการจัดการกับกองกำลังทั้งหมดของพวกเขาอยู่เลย ถึงตอนนั้นเมื่อชาวตาดถูกกำจัดก็เป็นเพียงลูกไก่ในกำมือแล้ว
แต่อีกฝ่ายกลับใช้กองกำลังสี่แสนนายมาคุมเชิงกับอาณาจักรฉิน ต่อให้อาณาจักรฉินจะชนะก็ไม่กล้าไล่ตาม หากพ่ายแพ้ก็ยังสามารถถอยมาตั้งหลักที่เยี่ยนเป่ยได้ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายก็จะเท่าเทียมกัน
“ที่จริงข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าชาวตาดจะตัดสินใจคุมเชิงกับเรา”
ฉินเหยียนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง เดิมทีอาณาจักรฉินก็ได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว แต่บัดนี้กลับบุกโจมตีก่อนไม่ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็มีอุปสรรคมากเกินไป เรื่องที่แมนจูเรียเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นก็เรื่องหนึ่ง จะต้องทำให้สถานการณ์มั่นคงก่อน อีกอย่างชาวตาดก็แตกต่างจากอาณาจักรฉินด้วย
หากเกิดอะไรขึ้น พวกชนเผ่าของชาวตาดก็แค่เก็บเต็นท์แล้วไปใช้ชีวิตที่อื่นต่อ แต่เมืองของอาณาจักรฉินไม่ได้โยกย้ายง่ายๆ
หากชาวตาดพ่ายแพ้ก็แค่หนีไปยังทุ่งหญ้า อาณาจักรฉินไม่ได้อะไรเลย แต่หากอาณาจักรพ่ายแพ้ ทั้งชาวเมืองนับไม่ถ้วนและเมืองหลายๆเมืองจะต้องอยู่ภายใต้ชาวตาด
นี่จึงทำให้ ต่อให้อาณาจักรฉินจะได้เปรียบ แต่หากชาวตาดฝืนโจมตีเข้ามา ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลประโยชน์อะไรเลย แต่หากเป็นการคุมเชิงเช่นนี้อาณาจักรฉินก็ไม่ได้เกรงกลัว อยู่ก็อยู่ไป ตราบใดที่สามารถป้องกันความสงบสุขของชายแดนได้ และทำให้ชาวตาดไม่สามารถเข้ามาจู่โจมเยี่ยนเป่ยได้ก็พอแล้ว
“จริงสิเพคะ เมื่อคืนอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหัวหรงได้มาถึงที่นี่แล้ว จะเรียกเข้าเฝ้ารึไม่เพคะ?”
จู่ๆจ้าวจือหย่าก็ถามขึ้น นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ท่านอ๋องให้เรียกเข้าเฝ้ามาก่อน
ฉินเหยียนประหลาดใจเล็กน้อย เขาถามขึ้นว่า “เร็วเพียงนี้เชียวรึ? ตอนนี้เขาอยู่ที่ใด?”
จ้าวจือหย่าพูดอย่างเคารพว่า “กำลังพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมศาลาพักม้าเพคะ ต้องการจะเรียกเข้าเฝ้ารึไม่เพคะ?”
“แน่อยู่แล้ว” ฉินเหยียนพยักหน้าทันที หากคนผู้นี้ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เช่นนั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องในแมนจูเรียแล้ว
ไม่นานชายอ้วนคนหนึ่งก็ได้มาถึงเบื้องหน้าของฉินเหยียนโดยมีจ้าวจือหย่าคอยนำทางให้
ชายอ้วนคนนี้ดูแล้วอายุราวยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ เขามีรูปร่างที่อ้วนกลม ใบหน้ามีเนื้ออวบอ้วน ดวงตากลมโตและใส จมูกโด่ง ริมฝีปากใหญ่ หากดูเช่นนี้แล้วไม่เหมือนคนที่มาจากทุ่งหญ้าเลย เหมือนกับลูกคนร่ำรวยของคนที่ราบกลางมากกว่า
“เจ้าคืออ้ายซินเจวี๋ยหลัวหัวหรงงั้นรึ?”
ฉินเหยียนมองชายอ้วนที่อยู่ตรงหน้าอย่างสนใจ เขาถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...