“มาฟังเขาอธิบายก่อน แล้วเราค่อยมาวางแผนกัน!”
หลังจากที่ทั่วป๋าเยี่ยนพูดจบ ทุกคนต่างเงียบ แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่หลี่เยี่ยนคังไม่วางตา
หลี่เยี่ยนคังขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า
“เหตุผลมีสามประการ เหตุผลง่ายมาก ประการแรก อาณาจักรฉินยังหวาดกลัวกับภัยพิบัติที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อำนาจของอาณาจักรต้องลดฮวบลงมาอย่างแน่นอน แต่พวกเขายังมีอิทธิพลต่อชาวตาดอยู่มาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการส่งกองกำลังในตอนนี้ ข้าเกรงว่าทันทีที่พวกเราเคลื่อนทัพ อาณาจักรฉินจะมีการดำเนินการอย่างรุนแรง”
“ประการที่สอง ประชาชนอาณาจักรฉินทนทุกข์ต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ หากพวกเราชาวตาดฉวยโอกาสนี้โจมตี ถือเป็นเรื่องน่าอายอย่างยิ่ง”
“หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป อาณาจักรเพื่อนบ้านจะต้องเกลียดชังและจ้องเป็นศัตรูกับเราแน่ พวกเจ้าอยากให้ชาวตาดโดนเพ่งเล็งอย่างนั้นหรือ? ตราบใดที่อาณาจักรฉินให้การช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ และมีผลประโยชน์ให้ ยิ่งมีโอกาสทำให้พวกเรากลายเป็นศัตรูกับคนอื่น!”
“ประการที่สาม!”
หลี่เยี่ยนคังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนเขากำลังเรียกคนทั้งห้องว่าเจ้าพวกโง่ แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่กัดฟันพูดว่า
“พวกเจ้าไม่สังเกตกันบ้างหรือว่าวิธีจัดการของอาณาจักรฉินดีเพียงใด? เมื่อพื้นที่หนึ่งในอาณาจักรเกิดภัยพิบัติขึ้น ประชาชนทั่วทุกแคว้นต่างร่วมกันช่วยเหลือ หลายคนช่วยจัดกลุ่มบรรเทาภัย รู้หรือไม่ว่านี่หมายความว่าอะไร หมายความว่าหากเจ้ากล้าเข้าไปยังพื้นที่ราบภาคกลางตอนนี้ ประชาชนเหล่านั้นจะลุกขึ้นมาหยิบอาวุธพร้อมต่อสู้เฉกเช่นทหารอย่างแน่นอน!”
“ในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ อาณาจักรฉินสามารถเกณฑ์ทหารใหม่ได้ถึงสามสี่ล้านคน เพียงแค่อาณาจักรฉินถ่วงเวลาเราไว้สักครึ่งปี ทหารใหม่เหล่านั้นจะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี พวกเราจะหยุดอะไรพวกมันได้ล่ะ?”
หลังจากที่หลี่เยี่ยนคังพูดจบ ทั้งเต็นท์ก็เงียบลงทันที
สีหน้าของขุนนางทุกคนต่างตกใจ
แม้ว่าพวกเขาจะหยาบคาย แต่ก็ไม่ใช่คนโง่
หลี่เยี่ยนคังพูดถูก ทุกประโยคที่เขาพูดเหมือนค้อนทุบเข้าที่หน้าอกพวกเขา ทำให้ใจพวกเขาหนักอึ้ง
แม้แต่ทั่วป๋าหงเลี่ยเองก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ราวกับว่ามีถังน้ำเย็นที่มองไม่เห็นถูกราดลงมาที่หัวในตอนนี้
“คุณหลี่คิดรอบคอบมาก ครั้งนี้เป็นข้าเองที่ประมาทเกินไป โชคดีที่เตือนพวกเรา มิฉะนั้นพวกเราคงทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงแล้ว!”
ทั่วป๋าหงเลี่ยโค้งคำนับหลี่เยี่ยนคังด้วยความจริงใจ ท่าทีของเขาเคารพอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้ ขุนนางเหล่านั้นต่างรู้สึกตัวขึ้นมา
แม้ว่าพวกเขาจะเมินคำพูดของหลี่เยี่ยนคัง แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าความคิดของอีกฝ่ายนั้นรอบคอบและครอบคลุม ความไม่พอใจของพวกเขาลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม บางคนยังคงพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
“ชาวที่ราบภาคกลางนี่ช่างพูดเสียจริง เช่นนั้นเจ้าบอกข้ามาสิว่าชาวตาดต้องทำเช่นไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...