“ข้ารู้ว่าแค่ว่าพวกชาวตาดไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินพวกมันต่ำไป พวกมันเป็นได้แค่หมาป่าเจ้าเล่ห์ก็เท่านั้น”
ฉินชงกัดฟันพูดอย่างเกลียดชัง
จดหมายฉบับนี้เขียนอย่างละเอียด แจ้งว่าพวกชาวตาดส่งวัวและแกะมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อชาวอาณาจักรฉิน และพวกเขาอาจจะลงมือทำอะไรบางอยย่างในอนาคตก็เป็นได้
หลังจากที่วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้ว ยังถือว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ หากอาณาจักรฉินพลาดท่าไป แน่นอนว่าต้องได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน
อาณาจักรฉินอาจจะตกอยู่ในภัยพิบัติอีกครั้งด้วยซ้ำ
ในเวลานี้ จู่ๆ ฉินชงก็สงบนิ่งขึ้น ขมวดคิ้วแล้วถามว่า
“เจ้าสิบสี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
ฉินเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยๆ พูดออกมาว่า
“ข้ารู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกชาวตาดไม่ได้มีเจตนาดีตั้งแต่แรก จดหมายฉบับนี้ช่วยคลายความสงสัยของข้าให้กระจ่างในทันที ในเมื่อตอนนี้เข้าใจวัตถุประสงค์ของพวกมันแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องให้กังวลอีกต่อไป”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และยิ้มออกมา
“พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่าครั้งนี้พวกชาวตาดจะฉวยโอกาสนี้ไม่สำเร็จอีกทั้งยังขาดทุนอีกด้วย!”
ฉินชงเหลือบมองฉินเหยียนด้วยสายตาสงสัย
ฉินเหยียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า
“พวกเขาไม่ได้อยากทำสงครามทางวาจากับพวกเราหรือ? ดีเลย พวกเราค่อยๆ เล่นกับพวกมันเถิด ตอนนี้อาณาจักรฉินของเราก็ไม่มีหน่วยรับมือที่เหมาะสม พี่ใหญ่ ข้าอยากแนะนำให้สร้างแผนกใหม่ขึ้นมา”
“อ้อ เจ้าสิบสี่พูดให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่?” ฉินชงมองฉินเหยียนด้วยสายตาสนใจ
“แผนกโฆษก” ฉินเหยียนตอบ
“พวกเรากสามารถยึดตามโครงสร้างพื้นฐานของกรมพิธีการได้ และเพิ่มแผนกโฆษกเข้าไปในกรมพิธีการใช้เป็นตัวแทนอาณาจักรฉิน จากนั้นคอยประกาศข่าวให้ทุกคนทั่วโลกทราบว่าพวกชาวตาดต้องการกลั่นแกล้งพวกเรา พวกเราไม่กล้าสู้กลับ หรือประกาศไปว่าพวกมันกำลังรอให้พวกเราตอบโต้กลับและใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ”
“ในกรณีนี้ พวกเราจะไม่ตอบโต้กลับ แต่จะเน้นป้องกัน พวกมันมีกี่คนพวกเราค่อยๆ จัดการให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกัน ก่อนที่พวกมันจะเปลี่ยนเรื่องโกหกให้เป็นเรื่องจริง ให้แผนกโฆษกของกรมพิธีการประณามการกระทำของพวกมันต่อหน้าอาณาจักรอื่น และขัดขวางทุกวิธีการที่พวกมันต้องการกลับเรื่องโกหกให้เป็นเรื่องจริง”
“หากยังเป็นเช่นนี้ ทุกอาณาจักรจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่พูดเรื่องจริง”
ฉินเหยียนที่พูดออกมาแต่ละประโยค สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ฉินชงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตามอย่างชื่นชม
“เอาล่ะ น้องสิบสี่ เช่นนั้นทำตามที่เจ้าพูด ข้าจะตั้งแผนกโฆษกและทำตามที่เจ้าว่ามาทันที” ฉินชงพูดอย่างเคร่งขรึม
หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันอีกนิดหน่อย จากนั้นฉินเหยียนก็กลับไป
ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง เขาเห็นจ้าวจือหย่าเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า
“เจ้าอ่านจดหมายฉบับนั้นแล้วหรือ?”
จ้าวจือหย่าพยักหน้าและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“หากพี่หลิวมั่นใจเช่นนี้ ข้าเกรงว่าสิ่งที่นางพูดในจดหมายจะเป็นเรื่องจริงเพคะ”
ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...