องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1364

สรุปบท ตอนที่ 1364 ถูกต่อว่าไปตลอดกาล: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1364 ถูกต่อว่าไปตลอดกาล – องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

บท ตอนที่ 1364 ถูกต่อว่าไปตลอดกาล ของ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Namfon อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“แต่มนุษย์ย่อมมองการณ์ไกล หนังสือประวัติศาสตร์จะต้องลงบันทึกเอาไว้ว่า ทุกการขัดขวางในอาณาจักรฉินและจิ่วโจว มีเจ้าเป็นคนยื่นมือเข้ามาคอบขัดขวาง!”

“เจ้าจะถูกต่อว่าไปตลอดกาล สมาชิกคนรุ่นหลังของเจ้า ไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปาก!”

เสนาบดีกรมพิธีการยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น

จากทั้งคู่แดงก่ำ ร่างสั่นไปทั้งตัว

หลิวอวี่หลินมองไปที่เขา แต่ยังคงยืนนิ่ง ถามกลับว่า

“ดังนั้นสิ่งที่ท่านเสนาบดีหวังไว้ก็คือ เพราะเรื่องนี้อาณาจักรฉินจึงทำสงครามครั้งใหญ่โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพื่อผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่สมัครใจไปกับพวกชาวตาดเองอย่างนั้นหรือ? ไร้สาระเสียจริง!”

สายตาของหลิวอวี่หลินอย่างกับสายฟ้าฟาด เขามองไปรอบๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา

“หากทุกท่านอยากเห็นเหตุการณ์นี้ กคือทหารจำนวนนับไม่ถ้วนที่เขตชายแดนอาณาจักรฉินเสียแขนขาตัวเอง สิ่งที่พวกท่านต้องการเห็นคือผู้หญิงทั่วทั้งจิ่วโจว คิดว่าตนถูกพวกท่านดูหมิ่น จึงรวมตัวกันขึ้นเพื่อประท้วง?”

“วันนี้ มีหนังสือประชาชน แต่วันพรุ่งนี้เล่า? ขนาดหนังสือประชาชนยังไม่สามารถทำให้พวกท่านเห็นภาพชัดขึ้นมาบ้างหรือไร?”

“อุดมการณ์ไม่เหมือนกัน อย่ามาพูดคุยกันเลย!”

เสนาบดีกรมพิธีการหัวเราะ จากนั้นพยุงร่างที่สั่นเทาของตนเอง โค้งคำนับให้ฉินชงบนบัลลังก์มังกร

“ฝ่าบาท กระหม่อมอายุก็มากแล้ว ทรงอนุญาตให้กระหม่อมเกษียณอายุและกลับบ้านเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ตึง

นี่คือความคิดของเขาอย่างนั้นหรือ ขอเกษียณตัวเองกลับไปอยุ่บ้าน?

ขุนนางทุกคนมองไปที่เสนาบดีกรมพิธีการด้วยสีหน้าเปลี่ยนไป นี่ถือว่าเป็นการบังคับฝ่าบาทมิใช่หรือ

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วยกับหลิวอวี่หลิน แต่พวกเขาเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในจิ่วโจว พวกเขายังคงหวังว่าอาณาจักรฉินจะแข็งแกร่งขึ้น

ดังนั้นในเวลานี้จึงไม่มีใครทำตามอีกฝ่าย

“เฮอะ ทำตัวเป็นเด็กไปได้!”

ไม่น่าเชื่อว่าประโยคนี้จะมาจากปากของชายอายุยี่สิบปี และกำลังพูดกับชายวัยหกสิบปี

เสนาบดีกรมพิธีการหันหน้าจ้องเขาทันที

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

หลิวอวี่หลินไม่ตอบคำถามเชา แต่ถามเสียงดังว่า

“ท่านเสนาบดีไม่ทราบหรือว่า ในอาณาจักรฉินมีผู้หญิงจำนวนเท่าใด?”

เสนาบดีกรมพิธีการอึ้งไป ไม่เข้าใจความหมายของคำถามอีกฝ่าย

หลิวอวี่หลินพูดต่อ

“จำวนผู้หญิงในจิ่วโจวมีจำนวนหลายสิบล้านคน

เสนาบดีทุกคนต่างพากันขมวดคิ้ว

คำพูดของหลิวอวี่หลินเหมือนค้อนอันใหญ่ฟาดเข้าไปที่ใจทุกคน

ทำให้ทุกคนใจเต้นแรง

แม้แต่เสนาบดีกรมพิธีการที่แต่เติมใจเต็มไปด้วยความโกรธ ยังอึ้งไป

เสนาบดีกรมกลาโหมเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา อดถามออกมาไม่ได้ว่า

“เช่นนั้นเจ้าจะพูดว่า พวกเราอาณาจักรฉินไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายหรือ? ปล่อยให้ผู้หญิงเหล่านั้นทนทุกข์ทรมานต่อไป?”

“ข้าพูดตั้งแต่แรกแล้วว่า พวกนางมิใช่เด็กแล้ว พวกนางทำไปด้วยความสมัครใจ ย่อมยอมรับผลที่ตามมาเอง ท่านจะไปสนใจทำไมกัน?”

“หากพวกท่านเข้าไปก้าวก่ายมากนัก เช่นเดียวกับวันนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีใครชอบพวกท่าน แต่จะมีหนังสือฟ้องร้องพวกท่านอีกด้วย!”

หลิวอวี่หลินมองไปรอบๆ ในที่สุดสายตาเขาก็ไปหยุดอยู่ที่เสนาบดีกรมกลาโหม แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“ท่านเสนาบดีคงจะว่างมากจริงๆ ข้ากลับรู้มาว่าในจิ่วโจวมีบรรดาพ่อค้า นักธุรกิจต่างเดินทางไปอาณาจักรอื่นเพื่อทำการค้าขาย มีผู้ชายบางคนถึงกับพูดออกมาว่าอาณาจักรอื่นดีกว่าอาณาจักรฉิน พวกท่านไม่คิดจะสนใจกันบ้างหรือ?”

เสนาบดีกรมกลาโหมทำท่าจะพูด แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา เขาไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร

เขารู้สึกเพียงว่า เขาอึดอัดใจมาก

ฉินชงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในใจเองก็ไม่ได้มีความสุข เขามองไปที่ฉินเหยียน เห็นว่าฉินเหยีนยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง ในที่สุดเขาก็ยอมกลืนคำพูดของเขากลับลงไป

เขาตัดสินใจเชื่อหลิวอวี่หลิน เพราะน้องสิบสี่เชื่อในตัวเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์