องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1409

เมื่อได้ยินดังนั้นตาของเสนาบดีกรมพิธีการพลันเป็นประกาย แต่แล้วคิ้วเขากลับต้องขมวดแน่นอีกครั้ง หลังจากเงียบไปนาน เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า

“อ๋องเหยียน พระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่าพิธีครองราชย์สมบัติมีความสำคัญเช่นไร และต้องใช้เงินจำนวนมากเพียงใด ข้าเกรงว่าเรื่องนี้ยังต้องได้รับความช่วยเหลือจากกรมพิธีการด้วย...”

“ข้าเข้าใจความหมายของท่านใต้เท้าหลี่ดี”

ฉินเหยียนยิ้มแล้วโบกมือปัด

“ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เรื่องเงินไม่เรื่องที่ท่านจะต้องเป็นกังวล กรมพิธีการของท่านเตรียมตัวจัดงานให้พร้อม ส่วนเรื่องอื่น ข้าจัดการเอง”

เมื่อได้ยินฉินเหยียนรับปากเช่นนั้น เสนาบดีกรมพิธีการถอนหายใจและพยักหน้าตอบรับ

“กระหม่อมจะทำตามคำสั่งของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ จะเริ่มเตรียมงานพิธีขึ้นครองราชย์สมบัติของฝ่าบาททันที รับรองได้ว่างานจะต้องยิ่งใหญ่สมฐานะอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

“ฮ่าๆ เยี่ยมมาก!” ฉินเหยียนยิ้ม

หลังจากร่ำลากันแล้ว ฉินเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายืนอยู่ที่กำแพงพระราชชวัง มองดูเมืองหลวงด้านล่างที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เขาถอนหายใจออกมา

“ตอนนี้ด้านหน้าอาณาจักรฉินมีเพียงกองพันพันธมิตรชาวตาดที่คอยจ้องแต่เป็นศัตรูกับพวกเราเท่านั้น ขอแค่เอาชนะพวกมันให้ได้ จากนี้ไปอาณาจักรฉินของเราจะอยู่อย่างสงบสุข ไม่มีเรื่องใหกังวลอีกต่อไป”

สายตาของฉินเหยียนมองผ่านพระราชวังไปยังทางเหนือ

“ขอแค่ขับไล่กองทัพพันธมิตรชาวตาดเหล่านั้นให้ได้ อาณาจักรฉินของข้า ถือว่าสามารถกำจัดพวกคนที่เข้ามารุกรานได้อย่างสมบูรณ์!” ฉินเหยียนกำหมัดแน่นและพูดกับตัวเอง

...

นอกเมืองหลวงที่เสียงดังเซ็งแซ่ มีพ่อลูกคู่หนึ่งมองมาที่เมืองหลวงจากระยะไกล

ชายที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อ มีชื่อว่าชายแขนข้างเดียว เอาอุ้มสาวน้อยน่ารักในอ้อมแขนของเขา

อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าของทั้งคู่ดูสกปรกมอมแมมมาก

ซวงเอ๋อร์เงยหน้าที่มอมแมมของนางขึ้นและพูดอย่างเสียใจ

“พ่อ หนูไม่อยากวิ่งไปไหนมาไหนอีกแล้ว ตกลงพวกเราจะไปที่ไหนกันแน่หรือเจ้าคะ?”

เฝิงตู่ยิ้มขนขื่น ลูบผมอันอ่อนนุ่มของซวงเอ๋อร์และพูดว่า

“ซวงเอ๋อร์ เด็กดี พ่อทำเพื่อให้เจ้ามีชีวิตที่ดี เชื่อพ่อ ครั้งนี้จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน”

“พ่อ หนูไม่อยากมีชีวิตที่ดีเจ้าค่ะ พวกเราแค่กินอิ่มนอนหลับในทุกๆ วันก็พอแล้ว”

ซวงเอ๋อร์ตาโตและกระพริบตาปริบๆ “ขอแค่พวกเราได้อยู่ด้วยกัน มีบ้านเป็นของตัวเอง มีชีวิตที่สงบ นั่นก็ถือว่าเป็นชีวิตที่ดีแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”

เฝิงตู่ถอนหายใจ เขากลับไม่พูดอะไร แต่ลูบหัวอีกฝ่ายแทน

ซงเอ๋อร์บุ้ยปากและพูดต่อ

“พ่อไม่บอกหนูอีกแล้วนะเจ้าคะว่าทำไมถึงพาซวงเอ๋อร์มาที่นี่?”

“เฮ้อ!”

เฝิงตู่ถอนหายใจอีกครั้ง ลูบหัวลูกสาวและพูดว่า

“พ่อจะพาเจ้าไปเจอพ่อแท้ๆ ของเจ้าน่ะสิ!”

ซวงเอ๋อร์อึ้งไป หลังจากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา นางกอดขาเฝิงตู่แน่นและร้องไห้

“พ่อ หนูทำอะไรผิดหรือเจ้าคะ อย่าไล่หนูไปเลย... ซวงเอ๋อร์ไม่อยากแยกกับพ่อ... ฮือๆๆ...”

เมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าสร้อยของซวงเอ๋อร์ เฝิงตู่เองก็ตาเริ่มแดงขึ้นมาเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์