องค์ชายเจ็ดฉินหยู่ก็มีความตั้งใจเช่นนี้ จึงรีบสนับสนุนทันที
"ไท่ฟู่กล่าวได้อย่างถูกต้อง เวลานี้ทัพของเราได้ยึดครองด่านถงกวานแล้ว เหล่าทหารมีขวัญและกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หากเคลื่อนทัพไปยังทิศตะวันออกในเวลานี้จะต้องได้รับชัยชนะอีกครั้งอย่างแน่นอน"
ไท่ฟู่พยักหน้าเห็นด้วย
"ฝ่าบาททรงสนพระทัยเรื่องนี้เช่นกันและต้องการตีเหล็กในขณะที่ยังร้อน ยิ่งไปกว่านั้นอาณาจักรจ้าวคงไม่คิดว่ากองทัพของเราจะโจมตีเมืองหลวง เมื่อถึงเวลานั้นเราจะลงมือสังหารโดยที่พวกเขาไม่ทันระวัง"
องค์ชายเจ็ดฉินหยู่ยิ่งฟังก็ยิ่งตื่นเต้น นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะคว้าชัยชนะ หากโจมตีอาณาจักรจ้าวสำเร็จจริงๆมันจะเป็นตำนานที่ต้องจารึกไว้ตลอดไป เหตุใดจึงจะไม่ทำเล่า
องค์ชายเจ็ดฉินหยู่จูงม้าของไท่ฟู่ไปตลอดทางจนถึงเมือง
ไท่ฟู่ยกมือขึ้นเพื่อบังแดด และเมื่อเห็นฉินเหยียนอยู่บนยอดเมือง เขาก็อดมิได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
จ้าวจือหย่าก็อยู่บนกำแพงเมืองเช่นกัน เมื่อนางเห็นไท่ฟู่มาพร้อมกองทัพและคนจำนวนมากก็มิกล้าที่จะเพิกเฉย จึงรายงานฉินเหยียนว่า
"ไท่ฟู่เป็นราชครูของฮ่องเต้ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ในระดับซานกง เมื่อเขามาถึงแนวหน้าก็เสมือนกับว่าฝ่าบาทเสด็จมา ตามธรรมเนียมแล้วอ๋องเยียนท่านควรจะออกไปต้อนรับนะเพคะ"
ฉินเหยียนดื่มชาอย่างสบายใจและกล่าวว่า
"ต้อนรับเขาหรือ สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือเสนาบดีที่ชอบประจบสอพลอประเภทนี้ นอกจากจะไม่ทำอะไรแล้วยังเก่งแต่วิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น"
"เจ้าคอยดูเถิด ครั้งนี้ที่เขามามิได้มาดีอย่างแน่นอน"
ฉินเหยียนค่อยๆย่างเท้าเดิน ส่วนไท่ฟู่และคนอื่นๆเดินเข้ามาอย่างทรงพลัง
"อ๋องเหยียน ท่านช่างสบายนักนะ"
เสียงดังลอยมาก่อนที่คนจะปรากฏตัว พร้อมกับนำความรู้สึกกดขี่อย่างเต็มที่มาด้วย
จ้าวจือหย่าคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วเพื่อต้อนรับไท่ฟู่
"คารวะไท่ฟู่เจ้าค่ะ"
ไท่ฟู่ไม่มีที่ที่จะระบายความโกรธ เมื่อเห็นจ้าวจือหย่าจึงชักสีหน้าใส่
"จ้าวปั๋วซื่อช่างมีความสุขนัก คิดว่าประจบประแจงองค์ชายแล้วจะขึ้นสู่ตำแหน่งสูงเช่นนั้นหรือ?"
ร่างกายของจ้าวจือหย่าสั่นเทา
"มิกล้าเจ้าค่ะ มิกล้า"
ฉินเหยียนขมวดคิ้ว และมองไปที่ไท่ฟู่
ในบรรยากาศมีกลิ่นอายของการวิวาทะเจือจางอยู่
"ฮึ ไม่รู้จักประพฤติตัว ช่างน่าขายหน้า"
ไท่ฟู่ยืนเอามือไพล่หลัง และกวาดตามองไปรอบๆผู้คนทั้งหมดในเมือง
"ทั้งสามทัพได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่อย่างยากที่จะจินตนาการ เป็นเจ้าคนเสเพลผู้นี้ที่เรียกอสนีบาตและวารีแห่งสวรรค์จนเอาชนะทั้งสามกองทัพของอาณาจักรจ้าวได้ ดูเหมือนว่าคำเล่าลือยังคงเป็นคำเล่าลือ"
ฉินเหยียนเม้มริมฝีปากและกล่าวอย่างเย็นชาว่า
"มัวแต่พูดพล่ามอะไร มีอะไรก็ว่ามา!"
"เจ้า!"
ไท่ฟู่ชี้ไปที่ฉินเหยียนด้วยความโกรธจนมือของเขาสั่นเทา
ทว่าฉินเหยียนมิได้สนใจเขาและปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นอากาศธาตุ
"ยโส! เจ้าแน่นักนะ!"
ไท่ฟู่โบกมือและตะโกนทันที
"องค์ชายสิบสี่ฉินเหยียนรับราชโองการ!"
มีผู้ใต้บังคับบัญชานำกล่องผ้ามาเปิดออกและหยิบราชโองการออกมาแล้วมอบให้ไท่ฟู่ด้วยความเคารพ
เมื่อคนอื่นได้ยินว่ารับราชโองการต่างก็คุกเข่าและก้มศีรษะลงกับพื้นทันที นี่คือกฎ
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนคุกเข่าลงไม่ว่าจะเป็นองค์ชายหรือทหาร แม้แต่เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวก็คุกเข่าลงเช่นกัน
ไท่ฟู่รู้สึกพึงพอใจมาก และในขณะที่กำลังจะอ่านราชโองการอย่างอหังการนั้นเอง
เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าองค์ชายสิบสี่ฉินเหยียนไม่ขยับ เขายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์และไม่สนใจราชโองการเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...