เสียงของหัวหน้ากิจการพระราชวังที่ทำการอ่านเสียงดังยิ่งอ่านยิ่งสั่นคลอน เมื่อครู่นี้ฝ่าบาทเพิ่งจะชื่นชมองค์ชายสิบสี่ว่าเป็นผู้มีความสามารถล้นหลาม เป็นที่พึ่งของอาณาจักรแท้ๆ แต่สุดท้ายไท่ฟู่กลับฟ้องร้องเช่นนี้ นี่เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของฝ่าบาทชัดๆเลยไม่ใช่รึไง
อีกอย่างองค์ชายสิบสี่เป็นถึงโอรสของฝ่าบาท แม้ราชครูจะได้รับความเคารพจากผู้คนมากมาย มีบุญคุณการสั่งสอนต่อฮ่องเต้ฉินก็ตาม แต่อย่างไรเลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ แม้แต่เสือร้ายยังไม่กินลูกของตนเลย แล้วจะมีบิดาคนไหนที่จะเข้าข้างผู้อื่นมากกว่าลูกของตนเองกัน
ทันใดนั้นบรรยากาศของพระราชสำนักก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที เหล่าขุนนางต่างพากันก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดอะไร
ฮ่องเต้ฉินสีหน้ามืดมน เขาข่มความเดือดดาลในใจเอาไว้แล้วตะคอกว่า “หึ ไท่ฟู่แก่ชราแล้วจริงๆ ทั้งที่ไม่เคยยืนบนสนามรบมาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่กลับกล้าพูดคุยถึงสงครามบนกระดาษเสียได้ แถมยังกล้าชี้แนะบนสนามรบอย่างอ้อมไปอ้อมมาอีก นี่เขาคิดว่าแค่อ่านตำราพิชัยสงครามจะสามารถเอาชนะมาได้งั้นรึ ไร้สาระจริงๆ!”
เหล่าขุนนางในพระราชสำนักต่างรีบคุกเข่าลงอย่างรู้หน้าที่อย่างมาก และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ! โปรดรักษาร่างกายอันล้ำค่าด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ฉินตบโต๊ะเสียงดังแล้วลุกขึ้นพร้อมพูดว่า “เอาเถอะ เขาอยู่แนวหน้าต่อไปก็มีแต่จะก่อกวนเสียเปล่า ส่งคำสั่งของข้าไปทันที รับสั่งให้ไท่ฟู่กลับเมืองหลวงทันที!”
เมื่อสิ้นเสียงแล้วก็ได้เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เหล่าขุนนางต่างพากันโค้งตัวคำนับ “ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ!”
......
ด่านถงกวาน ในเวิ่งเฉิง
ไท่ฟู่เดินไปเดินมาอยู่ในเต็นท์ไม่หยุด เขานับนิ้วคำนวณแล้วขมวดคิ้วพูดพึมพำว่า “เอ๊ะ ตามหลักแล้วสาส์นร้องเรียนองค์ชายสิบสี่น่าจะส่งไปถึงฝ่าบาทแล้วนี่ เหตุใดจึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆนะ?”
และในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ฉินเหยียนก็ได้มาหาเขาโดยไม่บอกกล่าว ทำให้ไท่ฟู่ตกใจอย่างมาก
ไท่ฟู่ตบหน้าอกของตนเองแล้วทำแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยพร้อมพูดว่า “จะ เจ้ามาทำอะไร?”
ฉินเหยียนมองท่าทีลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูกของไท่ฟู่แล้วจึงพูดหยอกล้อว่า “อ้าว ข้ามาแล้วทำให้เจ้าตกใจมากถึงเพียงนี้เชียว นี่เจ้าทำเรื่องน่าละอายใจไปใช่ไหม”
สายตาของไท่ฟู่ว่อกแว่ก เขาพูดเสียงเย็นชาว่า “ข้ากระทำเรื่องต่างๆอย่างตรงไปตรงมา จะทำเรื่องน่าละอายใจได้อย่างไร แต่เจ้าเถอะ อยู่ดีๆมาหาข้ามีอะไรรึไง?”
ฉินเหยียนเองไม่ถามอะไรมากความ แม้จะไม่เห็นว่าไท่ฟู่เขียนอะไรไว้ในสาส์น แต่ต่อให้ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไร ที่มาก็ไม่ได้มาเพื่อถามหาความผิด ฉินเหยียนพูดตรงๆว่า “แน่นอนว่ามาหาเจ้า ไม่รู้ว่าคืนนี้ไท่ฟู่มีเวลาดูการแสดงสนุกๆกับข้าหน่อยรึไม่?”
ไท่ฟู่เหลือบมองฉินเหยียนแล้วถามกลับว่า “เจ้ามีแผนอะไรอีก?”
ฉินเหยียนยิ้มอ่อน “เดี๋ยวเจ้ามาแล้วก็รู้เอง”
......
ยามค่ำคืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...