องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 196

เมื่อฝูงชนแยกย้ายก็มีเสียงกระซิบเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ

ไส้ศึกที่ปลอมเป็นประชาชนธรรมดาคนนั้นก็สบโอกาสหลบหนี

เมื่อมาถึงในป่าเขามองไปรอบๆอย่างระมัดระวังจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แล้วจึงปล่อยพิราบสื่อสารเพื่อส่งข่าว

ตั๊กแตนตำข้าวกำลังจะจับจั๊กจั่นกินเป็นอาหารหารู้ไม่ว่าข้างหลังยังมีนกกระจอกเหลือง ทันทีที่นกพิราบบินเข้าไปในป่าต้าซานก็ยิงธนูเพื่อขัดขวางการส่งข่าวของไส้ศึก

..........

องค์ชายใหญ่ฉินชงและองค์ชายเจ็ดฉินหยู่กำลังรับประทานอาหารกับฉินเหยียนในจวนของเจ้าเมือง

พวกเขาทั้งสามกำลังคุยกัน องค์ชายใหญ่และองค์ชายเจ็ดลังเลอยู่หลายครั้ง ดูเหมือนว่าพวกเขามีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่กล้าถาม

ฉินเหยียนเห็นความกระสับกระส่ายของทั้งสองมานานแล้ว แต่เขากลับยิ้มในใจโดยไม่พูดอะไร

ต้าซานกลับมาอย่างรีบร้อนเพื่อรายงาน

"ท่านอ๋องพะยะค่ะ สารนกพิราบของไส้ศึก ขอท่านโปรดทอดพระเนตร"

ฉินเหยียนรับมาและยิ้มพลางกล่าวว่า

"อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นชายแดนหูตามากมาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นไส้ศึกของอาณาจักรจ้าวที่ซุกซ่อนอยู่หรือเป็นเชลยศึกเหล่านั้นกันนะ"

เมื่อเขาเปิดจดหมายออกอ่านก็ฝืนยิ้ม และมองไปทางองค์ชายเจ็ดฉินหยู่

องค์ชายเจ็ดฉินหยู่ผงะ

"มีอะไรหรือ?"

"ไม่มีอะไร"

ฉินเหยียนฝืนยิ้มและนำสารนกพิราบของไส้ศึกมอบให้แก่เขา

ใจขององค์ชายเจ็ดฉินหยู่ดัง “ตึกตัก” เขาเปิดจดหมายด้วยความตื่นตระหนก ทันทีที่อ่านเขาก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ที่แท้ไส้ศึกที่ก่อกวนผู้นั้นถูกส่งมาโดยฝั่งพระมารดาขององค์ชายเจ็ดฉินหยู่เพื่อมาก่อความวุ่นวาย

"ที่แท้ก็คนกันเองที่แทงข้างหลัง ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ"

ฉินเหยียนแสร้งทำเป็นล้อเล่น

องค์ชายเจ็ดฉินหยู่เหงื่อออกเต็มศีรษะ เขาหน้าแดงพลางอธิบายอย่างกระอักกระอ่วนว่า

"เสด็จพี่สิบสี่ ข้าไม่รู้จริงๆว่านี่มันเรื่องอะไร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้านะ!"

องค์ชายเจ็ดฉินหยู่นับว่าเชื่อแล้วที่ญาติทางตระกูลพระมารดาฉลาดถึงเพียงนี้ที่กล้าทำอะไรต่อหน้าฉินเหยียน รนหาที่ตายหรือ?

"เสด็จพี่สิบสี่อย่าเพิ่งโมโห ข้าจะเขียนจดหมายไปต่อว่าพวกเขาเดี๋ยวนี้!"

ฉินเหยียนสังเกตสีหน้าขององค์ชายเจ็ด ดูเหมือนว่าเขาจะพูดความจริง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาจริงๆ

"ช่างเถอะ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย อย่าไปพูดถึงมันเลย มา พวกเรามาดื่มกันเถอะ!"

องค์ชายเจ็ดฉินหยู่จึงคลายความกังวลในที่สุด และยกจอกสุราขึ้นมาพลางกล่าวว่า

"เสด็จพี่สิบสี่โมโห ข้าคารวะท่านหนึ่งจอกเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ!"

องค์ชายใหญ่ฉินชงรู้สึกสับสนกับทั้งสองคนและดื่มสุราด้วยความงุนงง ในที่สุดก็กล่าวความสงสัยที่เก็บงำอยู่ในใจมาเป็นเวลานานออกมา

"น้องสิบสี่ มิใช่ว่าพี่จะว่าเจ้านะ"

"อยู่ดีๆเหตุใดจึงต้องใช้เงินมากมายในการรับสมัครคนสร้างบ้านและเพาะปลูก พื้นที่ชายแดนก็มิใช่ที่ศักดินาของเจ้า เจ้าทำเช่นนี้มันไม่จำเป็นเลยสักนิด!"

องค์ชายเจ็ดฉินหยู่ก็สำทับด้วยเช่นกันว่า

"นั่นน่ะสิ วันละสามสิบอีแปะ นี่ไม่ใช่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือ เจ้ามีแผนอะไรเช่นนั้นหรือ?"

ฉินเหยียนรินสุราอีกจอกและกล่าวอย่างสบายใจว่า

"เสด็จพี่ใหญ่ เสด็จพี่เจ็ด พวกท่านไม่เข้าใจ"

"ข้าต้องการต่อสู้โดยไม่นองเลือด และเตรียมพร้อมสยบทหารของข้าศึกโดยไม่ต้องสู้รบ"

ทั้งสองรู้สึกสนใจจึงเอ่ยปากพร้อมกันว่า

"ขอโปรดชี้แนะ!"

ฉินเหยียนวางมาด และกล่าวว่า

"พวกท่านรู้หรือไม่ว่าสงครามการค้าและเศรษฐกิจคืออะไร?"

ทั้งสองส่ายศีรษะพร้อมกันต่อหน้าฉินเหยียนพวกเขาทั้งสองดูเหมือนกับคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย

ฉินเหยียนเริ่มร่ายยาว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์