เมืองใหม่
จวนเจ้าเมือง
ฉินเหยียนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างยกมือขึ้นแล้วออกคำสั่งว่า
“รีบส่งนกพิราบส่งจดหมายออกไปบอกให้พวกเขาแย่งเสบียงอาหารมาให้หมด รีบลงมือเสีย แล้วขายให้กับพวกคนรวยท้องถิ่นในราคาต่ำ”
“รับทราบ!”
กลุ่มองครักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่ตอบรับทันทีและจากไปอย่างรวดเร็ว
ฉินเหยียนเหล่ตาและมองไปไกล อาณาจักรจ้าวเริ่มมีการตอบสนองมากขึ้น
จากนั้นเรียกตัวจ้าวจือหย่ามาสอบถาม
“ข้าสั่งให้เจ้าเตรียมตัวและแอบซุ่มกำลังคนจากภายในอาณาจักรจ้าว เจ้าดำเนินการไปถึงขั้นใดแล้ว?”
จ้าวจือหย่าประสานมือไว้ข้างหน้า โค้งคำนับกล่าวว่า
“กราบทูลรายงานต่อองค์ชาย เตรียมการใกล้เสร็จแล้วเจ้าค่ะ รอแค่อ๋องเหยียนมีรับสั่ง”
ฉินเหยียนพยักหน้าและพูดว่า
“ให้พวกเขามาที่จวน ข้าจะสั่งพวกเขาเอง อีกอย่าง มื้อเที่ยงวันนี้...”
หลังจากที่กระซิบออกมาสองสามคำ จ้าวจือหย่าก็พยักหน้าเข้าใจในทันที
“รับทราบเจ้าค่ะ”
หลังจากที่ได้รับคำสั่งแล้ว นางก็ออกมาทันทีเพื่อเตรียมตัวเรียกกองกำลังเข้ามา
...
ทหารชั้นดีทำตามคำสั่งของฉินเหยียน และนำทหารในหมู่เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวที่ดูมีแววให้เข้ามารับการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง ถูกพาตัวมาที่ด้านหลังจวน
“นี่คือห้องหนังสือของอ๋องเหยียน เจ้ารอที่นี่เถิด”
“รับทราบ”
หลังจากที่ทหารชั้นดีเดินจากไปแล้ว ทหารของอาณาจักรจ้าวพลันรู้สึกไม่สบายใจ กระสับกระส่าย
เขาถูกอ๋องเหยียนเรียกตัวเข้าไปพบอย่างลับๆ อย่างกะทันหันเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเจออ๋องเหยียนมาก่อน แต่การที่ผู้คนต่างพูดถึงอ๋องเหยียนว่าเป็นดั่งเทพเจ้านั่นทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเคารพนับถือ
เรียกคนต่ำต้อยอย่างพวกเขามาที่นี่ มีเรื่องอันใดหรือ?
พวกเขารู้สึกประหม่าและกระวนกระวายใจ เดินพึมพำไปมาไม่หยุดหย่อน
“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียน กระหม่อม ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าข้าน้อยผู้ต่ำต้อย ใช่ ข้าน้อยผู้ต่ำต้อยชื่อว่าสือเหล่ย บ้านเกิดอยู่ที่อวิ๋นเฉิง อาณาจักรจ้าวขอรับ”
“ตอนนี้ข้าน้อยได้ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองใหม่ ขอบพระทัยในความเมตตาของท่าน ข้าน้อยรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก...”
“ไม่ได้ๆ ข้าน้อยพูดจากับอ๋องเหยียนเช่นนี้ ท่านจะคิดว่าข้าน้อยพูดเยินยอจนเกินงามหรือไม่ ต้องรอให้อ๋องเหยียนถามก่อนใช่หรือไม่? แต่แบบนั้นดูไม่มีกาลเทศะจนเกินไป เอ่อ...”
นายพลแห่งอาณาจักรจ้าว สือเหล่ยพูดในสิ่งที่เขาเตรียมมาเพื่อพูดต่อหน้าอ๋องเหยียนไม่หยุด ในใจเขาประหม่ามาก
“หรือว่าหาคนถามดีหรือไม่?”
“ไม่ได้ๆ นี่เป็นจวนของอ๋องเหยียน เจ้าจะเดินมั่วซั่วไม่ได้”
ตอนที่สือเหล่ยทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น พลันมีควันพวยพุ่งออกมาจากจวน
“เกิดเพลิงไหม้อย่างนั้นหรือ?”
สือเหล่ยสูดหายใจเข้า พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงรีบไปยังจุดที่มีควันพุ่งขึ้นมา
ไม่ไกลนัก เห็นคนจุดไฟที่ลานบ้าน มีควันหนาทึบปกคลุมเต็มลานบ้านด้านหลัง
สือเหล่ยก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ และถามด้วยท่าทีจริงจังว่า
“สหาย เจ้ากำลังทำอะไร จุดไฟในจวนของอ๋องเหยียน เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรือ?”
ชายคนนั้นค่อยๆ หันหน้ามา สีหน้าของสือเหล่ยเปลี่ยนไปทันที
“เจ้า หน้าของเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...