ฉินเหยียนไม่ได้สนใจคำขู่ของหยางจิ่นซิ่วเลยแม้แต่น้อย เขาก้าวไปข้างหน้าและยกปลายหอกขึ้น
“หากเจ้าอยากฆ่าข้า เจ้าคงฆ่าไปนานแล้ว เหตุใดถึงต้องรอให้ถึงวันนี้เล่า”
หยางจิ่นซิ่ววางหอกลงอย่างประหม่า และก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความกลัว
“เจ้ามันคนชั่ว กลับกลอก คนเลว”
นางพูดไปหน้ายิ่งแดง คิดอยากจะหันหลังวิ่งหนีไป แต่ในวินาทีถัดมา
ฉินเหยียนก้าวไปข้างหน้าจับไหล่นางเอาไว้
“ด่าว่าข้าอีกแล้ว ข้าเป็นคนชั่วหรือ ข้าเป็นคนเลวอย่างนั้นหรือ เจ้าพูดเป็นแค่สองคำนี้หรืออย่างไร?”
“เจ้า!”
อย่างไรก็ตามหยางจิ่นซิ่วก็เป็นหญิงสาววัยเกือบยี่สิบที่ยังไม่ได้แต่งงาน เมื่อถูกพูดจาเช่นนี้นางจึงหน้าแดงก่ำด้วยความเขินและโกรธ
“หน้าไม่อาย! หากเจ้ายังกล้าหยาบคายต่อหน้าข้าอีก ข้าฆ่าเจ้าแน่!”
หยางจิ่นซิ่วยกหอกเงินขึ้นมา ปลายหอกอยู่ใกล้คอของฉินเหยียนมากขึ้น
ฉินเหยียนไม่สนใจคำขู่ของนาง พูดอย่างไม่แยแสว่า
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้? เมื่อวานตอนดื่มเหล้าพวกเราสนิทสนมกันมากไม่ใช่หรือ? ไม่เห็นว่าเจ้าจะมีท่าทีเช่นนี้เลย!”
“หุบปากของเจ้าเสีย! ข้าจะฆ่าเจ้า! ดูกันว่าเจ้าจะทำเช่นไร!”
นางยืดตัวขึ้น หอกเงินในมือที่สว่างวาบจ่อไปที่คอของฉินเหยียน
ฉินเหยียนหลบและพูดด้วยความตกใจว่า
“โอ้ เจ้าจริงจังหรือนี่?”
หยางจิ่นซิ่วถอนหอกสีเงินออก เปลี่ยนท่าทีและพูดอย่างเย็นชา
“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ถ้าเจ้ายังกล้าเล่นลูกไม้กับข้าอีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
นางก้มลงปัดเศษหินดินทรายไปทางฉินเหยียน
ฉินเหยียนเองก็กระโดดขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้นเหยียบไปที่หอกของหยางจิ่นซิ่วอย่างมั่นคง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“เจ้าอยากสู้กับข้า ข้าจะสู้เป็นเพื่อนเจ้าเอง แต่ที่นี่ไม่เหมาะแก่การสู้ เอาเป็นว่าพวกเราออกไปนอกเมืองและสู้สักสามร้อยเพลง ให้รู้กันไปเลยว่าใครกันแน่ที่แข็งแกร่ง!”
“หากฝ่ายใดยอมแพ้ก่อน ต้องทำตามคำขอของอีกฝ่าย เจ้ากล้ารับคำท้าหรือไม่?”
หยางจิ่นซิ่วสะบัดมือของนาง หยิบหอกเงินขึ้นและพูดว่า
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสู้สามร้อยเพลงหรอก เจ้ารอดชีวติจากสิบกระบวนท่าของข้าได้ ข้าจะทำตามคำขอของเจ้า!”
ฉินเหยียนยิ้มชั่วร้าย
“ได้ ไปเปลี่ยนเป็นชุดเกราะแล้วไปรวมตัวกันที่นอกเมือง ถ้าเจ้าไม่มาก็ถือว่าเจ้าเป็นแค่ลูกหมาก็แล้วกัน!”
หยางจิ่นซิ่วตะคอกอย่างเย็นชา
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่มีวันทิ้งโอกาสที่หายากเช่นนี้ไปแน่นอน ข้าไม่มีทางยอมแพ้ หากข้าไม่จัดการเจ้า อย่าหาว่าข้าใจจืดใจดำที่ทุบตีเจ้าจนต้องรอขอชีวิต!”
หลังจากพูดเช่นนั้น นางก็หยิบหอกขึ้น หันหลังกลับไป
ฉินเหยียนที่มีท่าทีราวกับว่าแผนชั่วร้ายของเขาได้บรรลุผลสำเร็จแล้ว ยืนมองหยางจิ่นซิ่วเดินจากไปจนลับสายตาไป!
องครักษ์เงาปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ด้านหลังฉินเหยียน และรายงานด้วยท่าทีเป็นกังวล
“อ๋องเหยียน อย่าทรงประเมินความสามารถของหยางจิ่นซิ่วต่ำไปเลยขอรับ หรือว่าให้ข้าน้อยแอบจัดการนางอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้ท่านต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน?”
ฉินเหยียนมองไปที่องครักษ์เงาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“ในสายตาของเจ้า ข้าไร้ความสามารถเช่นนั้นเลยหรือ แค่นางคิดอยากจะทำร้ายข้า เป็นเพราะพวกเจ้ากังวลเรื่องนางมากเกินไป หรือว่าเป็นข้าเองที่คิดน้อยเกินไป?”
“เอ่อ เรื่องนี้ข้าน้อยมิบังอาจขอรับ!”
ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจัง
“พวกเจ้าฟังให้ดี วันนี้ไม่ต้องมีใครตามข้า มีธุระอะไรก็ไปทำเสียเถอะ อย่ามาเสียเวลากับข้าที่ต้องออกไปกับหญิงสาวเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...