เรือนจำหลวง อาณาจักรฉิน
ในเวลานี้ จ้าวจือหย่าถูกขึงไว้กับเสา บนร่างกายมีรอยบาดผลและรอยเลือดไหลซึมลงมา
บรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราที่เข้าออกคุกไปมา เมื่อเห็นรอยแลผบนร่างกายจ้าวจือหย่า พวกเขาโกรธมากจนหน้าซีด
ในใจบรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราต่างตกใจ ความโกรธปะทุขึ้นอยู่ในอก
“ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย นางถูกทุบตีถึงขนาดนี้แล้ว ไท่ฟู่ยังจะกล้าพูดว่าเขาแค่ถามคำถามทั่วไป!”
“บันทึกลงไป อย่าให้พลาดแม้แต่อย่างเดียว บันทึกลงไปให้หมด!”
จ้าวจือหย่าเงยหน้าขึ้นมองอย่างหมดแรง เห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราแค้นใจแทนนาง นางจึงพูดออกมาเบาๆ ว่า
“รบ รบกวนพวกท่านแล้ว ที่มาหาข้าในสถานที่สกปรกแห่งนี้ จือหย่า ขอบคุณพวกท่านมาก...”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราคนหนึ่งขมวดคิ้วและพูดอย่างเศร้าโศก
“เหตุใดพวกเขาถึงทำเช่นนี้กับท่าน?”
จ้าวจือหย่ายิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า
“ไท่ฟู่ต้องการให้ข้าใส่ร้ายอ๋องเหยียนว่ามีใจเป็นอื่น ไม่ยอมเชื่อฟัง ข้าในฐานะที่เป็นผู้ตรวจตรา จะพูดโกหกเพื่อบิดเบือนความจริงนี้ได้อย่างไรกัน”
“ข้าไม่พูด พวกเขาก็เอาแต่ทรมานข้า ได้ยินว่าไท่ฟู่ต้องการกำจัดคนที่เห็นต่าง เขาจึงไม่ลังเลที่จะลงโทษข้า คิดอยากเอาชนะข้า ความโกรธในใจของเขาช่างมากเสียเหลือเกิน”
“นี่มันช่างไร้เหตุผลเสียจริง!”
“ไท่ฟู่ฉวยโอกาสจากพระอาการประชวนของฮ่องเต้ฉินเพื่อทำเรื่องผิด กระทำโดยมิชอบ ไม่เห็นแก่กฎหมายและฟ้าดิน!”
“จ้าวปั๋วซื่ออดทนก่อน พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องท่าน พวกเราจะร่วมกันเขียนจดหมายเพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้สถานศึกษาไป๋ลู่ทราบ!”
จ้าวจือหย่ามั่นใจอย่างมากว่าความชั่วไม่อาจเอาชนะความดีได้ ดังนั้นนางจึงพยายามยิ้มและขอบคุณ
“จือหย่า ขอบคุณพวกท่านทุกคน”
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราเดินออกไป ได้มีหญิงส่งอาหารเข้ามาอีกหนึ่งคน นางเสื้อคลุมปิดหน้าปิดตา พูดขึ้นว่า
“นายท่าน อาหารและเครื่องดื่มมาถึงแล้ว รีบกินตอนยังร้อนอยู่เถิดเจ้าค่ะ”
“โอ้ วันนี้อาหารมาไวเชียว!”
ทันทีที่บรรดาผู้คุมได้ยินว่าอาหารมาถึงแล้ว พวกเขาจึงวางอาวุธและออกไปทานอาหารพร้อมกัน
หญิงที่สวมเสื้อคลุมปิดหน้าปิดตาฉวยโอกาสนี้มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวังว่าไม่มีใครสนใจ และรีบไปหาจ้าวจือหย่าอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นรอยแผลบนร่างกายของจ้าวจือหย่า นางรู้สึกเจ็บปวดจนน้ำตาไหลออกมา
“ท่านถูกทุบตีเช่นนี้ พวกคนทรยศในราชสำนักต้องการให้อ๋องเหยียนรับโทษอย่างไม่เป็นธรรม!”
จ้าวจือหย่าได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ลืมตาอย่างพร่าเลือน
“เป็นเจ้านี่เอง...”
...
จงเหรินฝู่
เหลือเพียงฉินเหยียนแค่สองคน ฉินเหยียนเองก็ไม่ได้รู้สึกสงบเท่าไร เขายืนขึ้นมองไปที่หน้าต่าง มองตรงไปยังท้องฟ้า แล้วพูดว่า
“ข้าไม่รู้ว่าฝั่งสถานศึกษาไป๋ลู่นั้นจะได้รับจดหมายที่ข้าส่งไปแล้วหรือยัง”
จ้าวจีเอ๋อร์ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงพูดเดาออกมาอย่างมั่นใจ
“องค์ชาย ครั้งก่อนที่ข้าได้รับบาดเจ็บ เป็นจ้าวจือหย่าที่ให้เลือดกับข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...