จากการแนะนำของชาวเมืองในพื้นที่ รถม้าของฉินเหยียนก็ได้มาถึงชานเมืองที่ห่างไกลมาก เมื่อลงจากรถม้าแล้วก็เห็นกระท่อมเอียงๆที่ทรุดโทรม ราวกับว่าหากมีลมพัดก็แทบจะถล่มลง
ในที่นาที่สร้างเองในลานกระท่อมนั้น มีชายชราผิวดำสวมชุดขาดๆอยู่ มือทั้งสองข้างของเขาจับไม้เท้าเอาไว้ และแบกคันไถนาเอาไว้บนหลัง แล้วมุ่งหน้าอย่างยากลำบาก
ขาทั้งสองข้างของเขาพิการ เขาจับไม้เท้าเอาไว้แล้วนอนคว่ำกับพื้น ออกแรงอย่างสุดกำลังท่าทางเงอะงะกว่าจะทำให้คันไถนาเคลื่อนที่ได้เล็กน้อย
แต่ทว่า ขอทานเฒ่าที่นอนคว่ำอยู่คนนี้ คือผู้อาวุโสแห่งตระกูลอู๋ที่เคยเลื่องอำนาจเทียบเคียงตระกูลซ่ง ผู่เฒ่าอู๋จวิ้นซานผู้เป็นบรรพจารย์ของไท่ฟู่
ฉินเหยียนมองไปด้านหน้า ผู้เฒ่าอู๋ที่มีเหงื่อท่วมตัว ผอมแห้งราวกับกิ่งไม้ ที่กำลังออกแรงอย่างสุดกำลังเพื่อไถนา ไม่อาจจะคิดว่าเขาคือคนที่ได้รับการสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมเลย ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้ารันทดขึ้นมา
เจ้าพวกตระกูลซ่งที่ไร้ความเป็นคน ได้รับผลประโยชน์แล้วถีบหัวส่ง หักหลังทรยศละทิ้งคุณธรรม ทำร้ายได้แม้กระทั่งบรรพจารย์ของตนเอง ช่างสติฟั่นเฟือนเสียจริง
ฉินเหยียนถอนหายใจแล้วเดินหน้าเข้าไปโค้งตัวประสานมือคารวะต่ออู๋จวิ้นซานอย่างเคารพ พร้อมพูดว่า
“ผู้น้อยขอทำความเคารพท่านผู้เฒ่าขอรับ”
อาจเป็นเพราะไม่มีใครมาเยี่ยมเขาเป็นเวลานาน อู๋จวิ้นซานสะดุ้งแล้วหยุดการเคลื่อนไหวลง เขาเช็ดเหงื่ออย่างหอบหืดแล้วถามว่า “ท่านผู้เฒ่าอะไรกันเล่า ก็แค่ชาวนาขาพิการที่ต่ำต้อยเท่านั้น”
ผู้เฒ่าอู๋ไม่หลงเหลือความภาคภูมิใจใดๆอีกแล้ว แววตาของเขามีความผันผวนของชีวิตและความเศร้ารันทดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดอย่างถ่อมตัวสุภาพและอ่อนโยนว่า “ท่านกล่าวผิดแล้วขอรับ”
เขามองไปยังกระท่อมที่อยู่ไม่ไกลแล้วเอามือไพล่หลังพร้อมท่องว่า
“ภูผา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสูง ขอเพียงมีเทพยดาก็เลื่องลือได้ วารี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความลึก ขอเพียงมีพญามังกรก็ศักดิ์สิทธิ์ได้บ้านน้อยนี้ซอมซ่อ มีเพียงคุณธรรมข้าเลื่องลือ ตะไคร่น้ำคลุมชานบ้าน หญ้าเขียวสดส่องม่านเขียว”
“ในเสียงสนทนาเป็นผู้รู้ คนไปมาหาสู่ไร้ความเขลา ดีดพิณไร้สิ่งประดับ อ่านคัมภีร์ล้ำค่า ไร้เสียงปี่กลองระคายหู ไร้หนังสือทางการหนักสมอง ซอมซ่อตรงไหนรึ?”
เมื่อฉินเหยียนท่องจารึกเรือนซอมซ่อออกมา ก็ทำให้อู๋จวิ้นซานตะลึงทันที เขาจับจ้องฉินเหยียนและพรรคพวกด้วยสายตาที่เป็นประกาย คิดไม่ถึงเลยว่าคนตรงหน้านี้จะกล่าวถึงกระท่อมที่ทรุดโทรมนี้ เป็นสถานที่สูงส่งอันสงบและงดงาม
เขาพูดอย่างดีใจว่า “ท่านชายช่างมีความสามารถด้านวรรณคดียิ่งนัก พอเจ้าพูดเช่นนี้แล้ว กระท่อมของข้าก็ดูงดงามขึ้นทันทีเลย ไม่ทราบว่าท่านชายคือใครรึ?”
ฉินเหยียนยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ แล้วประสานมือคารวะพูดว่า “องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉิน ฉินเหยียน ขอทำความเคารพท่านผู้เฒ่า”
อู๋จวิ้นซานเคยได้ยินชื่อเสียงของฉินเหยียนมาบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จะย่างเท้าเข้ามาในกระท่อมเล็กๆของเขา เขาเช็ดมือบนเสื้ออย่างทำอะไรไม่ถูก แล้วประสานมือคารวะว่า
“ท่านคือองค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินรึเนี่ย! ยินที่ได้รู้จัก ยินที่ได้รู้จักพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...