จ้าวจีเอ๋อร์รีบเคลื่อนไหวทันที นางพาสิบเอ็ดปิ่นหิรัญย์และองครักษ์เงาจำนวนสิบคนออกเดินทางไปยึดที่ หลังจากเดินทางมาเกือบทั้งวันพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกแล้ว และในที่สุดก็ได้มาถึงยังพื้นที่ที่เป็นที่ดินทรัพย์สินฯของตระกูลซ่ง
รถม้าหยุดที่ประตูหน้าจวน เหล่าปิ่นหิรัญย์ก็ได้เปิดม่านประตูออกให้ จ้าวจีเอ๋อร์ที่สวมชุดกระโปรงสีขาว ศีรษะสวมหมวกไผ่สานบังใบหน้าเอาไว้ ค่อยๆเดินลงมาจากรถม้าโดยมีเหล่าปิ่นหิรัญย์คอยช่วยพยุง นางเดินเข้าไปในจวนอย่างสง่างาม
เมื่อหัวหน้าหม่าที่รับผิดชอบคอยดูแลพื้นที่ได้ข่าวว่าจ้าวจีเอ๋อร์มาเยือน ก็ได้พาเหล่าเด็กรับใช้มายืนคอยกันอยู่ตรงหน้าประตูจวนนานแล้ว เมื่อเห็นว่าจ้าวจีเอ๋อร์วางมาดแล้วก็ได้พากันลงมาจากรถม้า แล้วเดินไปต้อนรับนางโดยประสานมือคารวะแล้วพูดว่า
“องค์หญิงสามพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยแซ่หม่า เป็นหัวหน้าดูแลที่ดินทรัพย์สินฯนี้ รบกวนองค์หญิงสามเสียแล้ว”
จ้าวจีเอ๋อร์พูดขึ้นหลังผ้าคลุมหน้า “หัวหน้าหม่าเองก็ลำบากหน่อยนะ ใกล้จะมืดแล้วยังต้องให้พากันรออยู่เช่นนี้”
หัวหน้าหม่าประสานมือคารวะแล้วพูดยิ้มแย้มว่า “องค์หญิงสามนั้นสูงส่ง การที่พระองค์ยอมลดตัวมาเสวนากับชาวไร่ชาวนาอย่างเรา ถือเป็นเกียรติของเราอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”
จ้าวจีเอ๋อร์เองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนแอ นางพูดตรงๆว่า “วันนี้ฟ้ามืดแล้ว ทุกท่านรีบกลับไปพักกันเถิด ข้าจะตรวจสอบบัญชีอีกครั้งในพรุ่งนี้เช้า”
เมื่อได้ยินว่าจะตรวจสอบบัญชีพรุ่งนี้ สีหน้าของหัวหน้าหม่าก็ไม่พอใจเล็กน้อย ให้พวกเขารอนานเช่นนี้ ล้อกันเล่นรึไง
“องค์หญิงสามพ่ะย่ะค่ะ ฤดูเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงเช่นนี้ เหล่าชาวไร่ชาวนาเองก็วุ่นกับที่นาอย่างมาก การเรียกระดมเหล่าเด็กรับใช้มารายงานบัญชีนั้นไม่ง่ายดาย หรือว่าคืนนี้พระองค์จะเหนื่อย......”
ไม่รอให้หัวหน้าหม่าพูดจบ จ้าวจีเอ๋อร์ก็ปฏิเสธด้วยเสียงเย็นชาว่า “เวลากลางคืนไม่เก็บเกี่ยวพืชผลเสียหน่อย เสียเวลาที่นี่คืนเดียวก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร ถอยกันไปเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็เดินเข้าไปยังห้องพักโดยไม่หันกลับมามองอีก
หัวหน้าหม่าตากระตุก เขาไม่พอใจอย่างมากแต่ก็ทำได้เพียงพูดอย่างเคารพว่า “เชิญองค์หญิงสามพ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าปิ่นหิรัญย์เดินตามหลังจ้าวจีเอ๋อร์ไป ปิ่นหิรัญย์เสี่ยวชุนมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังแล้วพูดพึมพำว่า
“จวนหลงเหยียนและจวนหู่เหยียนที่อยู่ด้านหลังล้วนเป็นที่ดินทรัพย์สินของตระกูลซ่ง เจ้าหัวหน้าหม่าก็ท่าทีหน้าไหว้หลังหลอก ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร น่ากลัวจริงๆ”
ปิ่นหิรัญย์เสี่ยวซย่าพูดปลอบใจเบาๆว่า “เจ้าเองก็รู้ว่าองค์หญิงให้เราเตรียมอะไรกันมา วางใจเถิด อย่ากลัวไปเลย”
เหล่าปิ่นหิรัญย์เดินตามจ้าวจีเอ๋อร์เข้าไปในห้องอย่างประชิด
เมื่อยืนส่งจ้าวจีเอ๋อร์เข้าไปในห้องแล้ว หัวหน้าหม่าก็เปลี่ยนสีหน้าไป เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินนำอยู่ข้างหน้าพร้อมพูดว่า
“ไปกัน”
เด็กรับใช้ข้างๆรีบวิ่งมาข้างๆแล้วพูดพึมพำว่า “อย่างไรก็เป็นถึงองค์หญิง ช่างมีมาดเสียจริง”
หัวหน้าหม่าพูดเสียงเย็นชาอย่างเหยียดหยามว่า “ต่อให้มีมาดแค่ไหนก็เป็นเพียงผู้หญิง ผู้สูงศักดิ์เช่นนาง จะมาเข้าใจวิถีแห่งท้องทุ่งได้อย่างไร ก็แค่ใช้อำนาจแล้วดำเนินพอพิธี โอ้อวดความน่าเกรงขามก็เท่านั้น เราก็แค่ยกยอ เอาใจ พูดเกลี้ยกล่อมให้ผ่านๆไปก็ได้แล้ว พรุ่งนี้ก็รายงานตามที่ได้หารือกันเอาไว้ก็พอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...