องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 417

ฉินเหยียนยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสอง ถือม้วนกระดาษสีแดงในมือ เลียนแบบวิธีการพูดอย่างพิธีกรในสมัยปัจจุบัน ถามเจ้าบ่าวอย่างจริงจังว่า

“เจ้าบ่าวหลิน ไม่ว่าจะยามป่วย ยามจน หรือยามพิการ เจ้าจะรักและซื่อสัตย์ต่อนางไปจนวันตาย เจ้ายินดีรับหลู่เจาเป็นเจ้าสาวของเจ้าหรือไม่?”

เจ้าบ่าวหลินมองไปที่หลู่เจาอย่างลึกซึ้งและตอบว่า

“รับขอรับ!”

ฉินเหยียนหันไปถามเจ้าสาวอีกครั้ง

“หลู่เจา เจ้าจะรักและภักดีต่อเขา ไม่ว่าในยามยากจน เจ็บป่วยหรือพิการ เจ้ายินดีแต่งงานกับหลินซิ่วไฉหรือไม่?”

หลู่เจาพยักหน้าอย่างหนักแน่นแล้วพูดว่า

“รับเจ้าค่ะ!”

ฉินเหยียนเก็บกระดาษสีแดงในมือ แล้วพูดเสียงดังว่า

“ทะเบียนสมรสแผ่นนี้ จะถูกจารึกทั่วฟ้าสู้แดนดิน”

“เทพเจ้าได้รับคำขอนี้แล้ว จะรายงานไปทั่วทั้งสามอาณาจักร สวรรค์รับรู้คำขอนี้”

“สวรรค์และโลกเป็นดั่งกระจก ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มีใจเดียวกัน”

“ถ้าเจ้ากล้าทรยศต่อหญิงงามท่านนี้ เจ้าจะถูกสวรรค์ลงโทษ”

“ความผิดที่กล้าหลอกลวงสวรรค์ แม้ตายไป จะไม่มีวันกลับชาติมาเกิดอีก...”

หลังจากอ่านทุกอย่างเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจุ่มชาดสีแดงและกดนิ้วของเขาลงไปในคำสัญญาหมั้นหมาย

ฉินเหยียนยกสัญญาหมั้นหมายในมือของเขา แสดงให้ประชาชนได้เห็นและพูดเสียงดังว่า

“แต่งงานเสร็จสิ้นแล้ว!”

ประชาชนที่เข้ามาร่วมงานต่างปรบมือดังสนั่น โห่ร้องเฉลิมฉลองให้แก่เจ้าบ่าวและเจ้าสาว บรรยากาศทั้งจังหวัดหลินอวี๋มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก!

ด้านหนึ่งมีงานรื่นเริงและประชาชนต่างร่วมฉลองกัน

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ในสนามรบ ท้องฟ้าลุกเป็นไฟ มีม้ารบและดาบประจันหน้าเข้าหากัน

กองทัพฉินแข็งแกร่งมากและใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนในการเอาชนะเมืองทั้งหกของอาณาจักรจ้าว

ชัยชนะที่ได้มาอย่างเต็มภาคภูมินี้ได้เพิ่มขวัญกำลังใจของทหารฝั่งอาณาจักรฉิน แต่ในทางกลับกันฝั่งอาณาจักรจ้าวกลับรู้สึกได้ถึงอันตราย

ในความเป็นจริง อาณาจักรจ้าวได้คิดเอาไว้แล้วว่าอาณาจักรฉินจะต้องส่งกองกำลังบุกเข้ามาอย่างแน่นอน เพราะความบาดหมางของทั้งสองอาณาจักรนั้นได้ก่อตัวขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว

เพียงแต่อาณาจักรจ้าวไม่คาดคิดว่ากองทัพอาณาจักรฉินจะบุกเข้ามารวดเร็วถึงเพียงนี้ และสามารถเอาชนะพวกเขาได้ในเพียงแค่ช่วงเวลาอันสั้น

ก่อนหน้านี้อาณาจักรจ้าวเองตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน เกิดภาวะขาดอาหารขึ้นทั่วทุกแห่ง ประชาชนต้องรีบหนีลี้ภัยออกจากถิ่นที่อยู่เดิม

ประกอบกับสงครามในเขตชายแดนที่ตึงเครียก อาณาจักรจ้าวในเวลานี้ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

หลังจากหารือกับขุนนาระดับสูงแล้ว เขาได้สั่งหิปิดพรมแดน เพิ่มภาษี เปิดรับสมัครทหารหนุ่มเข้ากองทหาร เตรียมเสบียงอาหารให้พร้อมสำหรับการทำสงครามกับอาณาจักรฉิน

...

อีกด้านหนึ่ง

จ้าวจือหน้าที่แต่เดิมอยู่ที่อาณาจักรหลู่ เนื่องจากสงครามระหว่างอาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวได้เริ่มต้นขึ้น ทำให้พรมแดนอาณาจักรจ้าวถูกปิดลง หลังจากที่เกิดเหตุพลิกผันขึ้นหลายครั้ง ต้องกลับไปยังเมืองหลวงอาณาจักรจ้าวหลบหนีอันตรายไปยังเมืองเปียนจิงชั่วคราว

เมืองเปียนจิงของอาณาจักรจ้าวนั้นเต็มไปด้วยตึกและดอกไม้

แม้ว่าจะมีควันตลบอบอวลไปทุกที่ แต่หอหม่านโหลวกลับเต็มไปด้วยบุคคลสำคัญของอาณาจักรจ้าวที่เข้ามาใช้เงินที่นี่ตลอดทั้งวันทั้งคืน

จ้าวจือหย่าที่สวมชุดธรรมดาพร้อมด้วยหมวกไม้ไผ่เดินเข้าไปยังอาคารภายใต้การคุ้มครองของเจ้าหน้าที่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์