“ว่าอย่างไรนะ! เหตุใดอู๋ซานกุ่ยจึงจะก่อกบฏ!”
จ้าวหรงจีไม่เข้าใจ เมื่อได้ยินว่าอู๋ซานกุ่ยก่อกบฏ เขาก็รู้สึกหูอื้อไปทันที แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
แน่นอนว่าหลี่ชางและเหล่าองครักษ์รู้ดีกันอยู่แล้วจึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย พวกเขารีบเปลี่ยนชุดของทหารแล้วพูดว่า
“อย่าถามมากเลย เดินทางมานี้เจ้ายังไม่เข้าใจอีกรึ ว่าอู๋ซานกุ่ยเดิมทีก็ไม่ใช่คนดีอะไร การที่เขาจะก่อกบฏก็ขึ้นอยู่กับเวลา รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิด อย่างไรก็ต้องออกจากที่นี่ก่อน”
แม้ว่าจ้าวหรงจีจะมีคำถามมากมาย แต่เขาเข้าใจว่าหากไม่ออกจากที่นี่ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกแล้ว เขาเก็บความสงสัยเอาไว้แล้วรีบเปลี่ยนชุดเครื่องแบบทหาร
เมื่อเปลี่ยนเสร็จแล้ว พวกหลี่ชางก็รีบเดินทางไปอวิ๋นเฉิงในยามค่ำคืนทันที
.......
อวิ๋นเฉิง จวนเจ้าเมือง
สีหน้าของหยางจิ่นซิ่วซีดเซียว นางกัดผ้าเช็ดหน้าเอาไว้แล้วยื่นมือไปหยิบผงยาจินฉวงมาทาบนแผลที่ไหล่ ที่ถูกลูกธนูยิง
ทันทีที่สัมผัสโดนแผลก็เจ็บจนหยางจิ่นซิ่วหน้าซีดเซียวกว่าเดิม นางเหงื่อแตกเหงื่อไหลลงมาตามโครงหน้า ตัวสั่นไปทั้งร่างจนแทบจะหมดสติไป แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นนางก็ยังคงทำต่อไป นางกัดผ้าเอาไว้แน่น จนกระทั่งบาดแผลทั้งหมดถูกผงยาทาจนทั่ว
จากนั้นนางก็คายผ้าเช็ดหน้าในปากออกมา นางใช้มือและปากในการพันแผลเอาไว้ ค่อยๆพันรอบแผลที่ไหล่ เมื่อพันแผลเสร็จแล้วหยางจิ่นซิ่วก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็สวมใส่ชุดเกราะอย่างลำบาก
เมื่อจัดการความเรียบร้อยเสร็จแล้วหยางจิ่นซิ่วก็จัดการอารมณ์และท่าทีของตนเอง นางไม่อยากให้เหล่าชาวเมืองและเหล่าหทารเห็นนางในด้านที่บาดเจ็บไร้ชีวิตชีวา นางเงยหน้ายืดออกทันที แล้วเดินออกจากจวนไปอย่างน่าเกรงขาม
นางเดินอยู่บนท้องถนน และพบชาวเมืองเร่ร่อนลำบากมากมาย สงครามในครั้งนี้อวิ๋นเฉิงพยายามอดทนมาหลายเดือนแล้ว ภายในเมืองมีสภาพทรุดโทรม เต็มไปด้วยฝุ่นควัน
เหล่าทหารเหนื่อยบ้าไปทั้งกายใจ ได้รับบาดเจ็บหนักแตกต่างกันไป พวกเขาพยายามฝืนยืนอยู่ตำแหน่งของตนเอง ชาวเมืองไม่หลงเหลืออาหารอีกแล้ว แม้แต่เปลือกไม้และใบหญ้าตามท้องถนนก็แทบจะกินจนหมดแล้ว
ทุกคนหิวโหย ซีดเซียว ผอมแห้ง เซื่องซึม และนอนอยู่ริมถนนกำลังจะตาย ยากที่จะแยกระหว่างเป็นหรือตาย หยางจิ่นซิ่วเห็นภาพที่บาดใจเหล่านี้แล้วก็ปวดใจ แต่ก็ไร้กำลัง
นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดกองสนับสนุนอยู่ใกล้แค่นี้ แต่กลับยังไม่มาช่วยเหลือ ขืนเป็นอบบนี้ต่อไป อวิ๋นเฉิงก็จะกระสุนหมดเสบียงก็เกลี้ยง แล้วฝืนต่อไปไม่ไหว!
ในขณะที่นางบ่นอยู่ในใจก็มีทหารเข้ามารายงาน “รายงานขอรับท่านแม่ทัพ ทูตกลับมาแล้วขอรับ!”
ทันใดนั้นหยางจิ่นซิ่วก็ดีใจอย่างมาก นางรีบพูดว่า “รีบพาข้าไปพบทูตเร็วเข้า!”
“ขอรับ!”
หยางจิ่นซิ่ววิ่งตามทหารที่นำทางไป และพบกับทหารที่สวมชุดเครื่องแบบในค่ายของอู๋ซานกุ่ยกำลังเข็นรถไม้มาทางนาง
หยางจิ่นซิ่วขมวดคิ้วแล้วเปิดเสื่อฟางขึ้น แล้วพบศพของทูตที่ถูกตัดศีรษะ นางตกตะลึงและถามขึ้นอย่างเหลือเชื่อว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...