องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 490

สรุปบท ตอนที่ 490 คำพูดที่น่าเหลือเชื่อ: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

อ่านสรุป ตอนที่ 490 คำพูดที่น่าเหลือเชื่อ จาก องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

บทที่ ตอนที่ 490 คำพูดที่น่าเหลือเชื่อ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Namfon อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คนที่ถูกถามตอบกลับอย่างมั่นใจ

“ข้าเป็นคนของตระกูลขุนนาง เจ้าเป็นแค่ลูกที่เกิดจากหญิงรับใช้ในวัง ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับองค์ชายคนอื่นในราชวงศ์ฉิน เจ้าไม่คู่ควร”

“บังอาจ!”

ขณะที่ต้าหย่งกำลังจะลงมือ ฉินเหยียนหยุดเขาทันที

เขาไม่โกรธและพูดอย่างจริงจัง

“ข้าไม่ปฏิเสธเรื่องผู้ให้กำเนิดข้า แต่ข้าเองก็เป็นประชาชนในอาณาจักรฉินและเป็นสมาชิกในราชวงศ์ฉิน!”

“เจ้าเป็นประชาชนในอาณาจักรฉินเช่นกันกับข้า แต่เจ้าไม่ใช่ลูกหลานในราชวงศ์ฉิน อีกทั้งมีสถานะต่ำต้อยกว่าข้า เหตุใดถึงต้องดูถูกกันและกันด้วย?”

ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ทหารที่มองเหตุการณ์อยู่นั้นก็ลังเลอยู่นาน แต่กลับไม่อาจหาเรื่องมาหักล้างได้

ฉินเหยียนกล่าวต่อ

“เมื่อครั้งที่พวกเจ้าเข้ามาในกองทัพ เจ้าไม่มีปฏิเสธคำสั่งทางทหารได้”

“เลือดของเจ้าหลั่งในสนามรบ นอนบนน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง เผชิญหน้ากับหิมะ เดินทางหลายพันลี้ บุกน้ำลุยไฟ ไม่เพียงแต่ต้องจงรักภักดีต่อกษัตริย์ ปกป้องครอบครัวและปกป้องอาณาจักรของเจ้า ยิ่งทำให้ชีวิตของพวกเจ้าหลังจากนี้สดใสขึ้น”

“สิ่งที่พวกเจ้าทำในสนามรบ ส่งผลต่อคนในครอบครัวของเจ้า หากเจ้าประสบความสำเร็จ คนในครอบครัวเจ้าจะมองเจ้าด้วยสายตาชื่นชมและยกย่อง ใช่หรือไม่?”

บางคนในกองทัพก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ

ในตอนแรกที่พวกเขาเลือกเข้าร่วมเข้ากองทัพ ไม่ใช่เพราะต้องการเป็นที่ชื่นชมต่อหน้าคนอื่น

ฉินเหยียนกล่าวต่อ

“ผู้ที่ยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ ล้วนเป็นความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรฉิน และเป็นอนาคตให้แก่อาณาจักรฉิน!”

คำพูดเหล่านี้มีพลังอย่างมาก ทำให้ทหารต่างก้มหน้าลง

ฉินเหยียนเดินเข้าไปในฝูงชนและพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า

“พวกเราได้สถาปนาอาณาจักรฉินด้วยกำลังทั้งหมดของพวกเรา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำให้อาณาจักรอื่นต้องหวาดกลัว”

“แต่ตอนนี้ สงครามระหว่างอาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวนั้นดุเดือดกว่าที่คดคิด แต่พวกเจ้ากลับไม่ปรองดอง ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่นนั้นข้าจึงไม่แปลกใจเลยที่เจ้าพ่ายแพ้ในการยึดเมืองอวิ๋นเฉิง!”

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่า ทหารที่เคยควบม้าไปในสนามรบและเอาชนะสิบห้าเขตการปกครองแห่งเยี่ยนหยุนในวันนั้น วันนี้พวกเขาไปอยู่ที่ใดแล้ว?”

ทหารกองทัพส่วนตัวก้มศีรษะลงเงียบๆ ทีละคน นึกถึงความกล้าหาญของตนเองที่เคยมีในสนามรบครั้งที่ผ่านๆ มา เมื่อคิดถึงตอนนี้กลับไม่มีสิ่งที่ทหารควรมีเอาเสียเลย

เขารู้สึกเริ่มร้อนขึ้น และได้ยินเสียงตำหนิของฉินเหยียน

“เมื่อศัตรูเข้ามาในเมือง พวกเจ้าไม่ขวางทางข้าศึกและไม่สู้รบเพื่อประเทศ แต่เจ้ากลับต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอำนาจและสงสัยขึ้นกันและกัน นี่คือสิ่งที่เจ้าทำหรือ!”

“ข้า! อ๋องเหยียนแห่งราชวงศ์ฉิน เกิดจากหญิงรับใช้ในวัง ถูกคนในราชวงศ์เรียกว่าคนไม่เอาไหน”

“แต่ข้าเชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกัน คนในอาณาจักรฉินต่างได้ครองตำแหน่งกษัตริย์และขุนนางโดยพิจารณาจากความสามารถทางการทหาร!”

“เฉพาะทหารที่ช่วยเหลืออาณาจักรเท่านั้นที่จะได้ยศ ผู้ที่ไม่มีความสามารถจะไม่ได้รับยศ ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับเกียรติ ส่วนผู้ที่ไม่ทำความดีย่อมไร้ซึ่งเกียรติ”

“แต่พวกเจ้าบางคนกลับอยากเป็นสุนัขรับใช้ให้กับพวกตระกูลขุนนางมากกว่าที่จะสร้างความคุณงามความดีและชื่อเสียงให้กับตนเอง”

“การได้แต่งตั้งให้เป็นขุนนางนั้นไม่หอมหวานหรือ!”

“เป็นสุนัขรับใช้ให้แก่พวกตระกูลขุนนาง สบายหรือ?”

“ใช่หรือไม่?”

ในขณะนี้สีหน้าของทหารกองทัพส่วนตัวต่างแดงก่ำ พวกเขาก้มหน้าลงด้วยความอับอาย

“อนาคตของอาณาจักรฉินจะเป็นของพวกเจ้าไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน!”

“ขอเพียงแค่วันนี้พวกเจ้ามอบความไว้ใจมาที่ข้า”

“ในอนาคต ถ้าพวกเจ้าได้ทำผลงานที่ยิ่งใหญ่ จะถูกแต่งตั้งให้เป็นขุนนางข้าราชการ ทหารและแม่ทัพ หัวหน้าเมืองฝ่ายขวาฝ่ายซ้าย และได้มีศักดินาเป็นของตนเอง!

ตึง!

ทั้งหมดนี้สร้างแรงบันดาลใจมาก จนทุกคนต่างพากันตะลึง

“อนาคตอยู่ในมือพวกเจ้า พวกเจ้ากล้าพอที่จะสู้เพื่อให้ได้มาหรือไม่?”

เมื่อได้ยินการสร้างขวัญกำลังใจเช่นนี้ ทหารกองทัพส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานตะโกนกลับมาว่า

“ทำได้ พวกเราทำได้!”

ทหารกองทัพส่วนตัวคุกเข่าลงทันที หวังว่าจะสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเองไปได้ พวกเขายกมือขึ้นอย่างละอายใจ

“ข้า! ยอมตายเพื่ออาณาจักรฉิน ข้าจะทำให้ดีที่สุดขอรับ!”

ทั้งกองทัพตระโกนออกมาพร้อมกัน

ฉินเหยียนยิ้มอย่างมั่นใจและเลิกคิ้วมองไปทางองค์ชายใหญ่

องค์ชายใหญ่ฉินชงอดไม่ได้ที่จะแอบยกนิ้วให้ฉินเหยียน วันนี้เขาได้เปิดโลกใหม่ และยอมรับสุดใจ

ด้วยขวัญกำลังใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ฉินเหยียนสั่งทันที

“กองทัพทั้งสามรวมตัวกันเพื่อจัดกลุ่มทหารใหม่และโจมตีอวิ๋นเฉิง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์