อีกด้านหนึ่ง
ฉินเหยียนทำตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ เขามาที่สำนักไป๋เสี่ยวเซิง เมืองหลางหยาเพื่อตามหาฟางถังจิ้ง
ฟางถังจิ้งรออยู่ที่ประตูตั้งแต่เช้า ตั้งหน้าตั้งตารอเขา เมื่อเห็นฉินเหยียนมาที่นี่ เขารีบโค้งคำนับด้วยความเคารพ
“พี่อาหนิว”
ฉินเหยียนทักทายกลับเสียงต่ำ
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
ฟางถังจิ้งมั่นใจ เขาตกอกตนเองแล้วให้คำมั่นว่า
“จัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าแค่พาเจ้าเข้าไป เมื่อเข้าไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วล่ะ”
ฉินเหยียนยิ้มอย่างมั่นใจ
“ไม่มีปัญหา”
หลังจากนั้นหยิบเหรียญตราสัญลักษณ์อันดับสี่แห่งสำนักไป๋เสี่ยวเซิงออกจากแขนเสื้อตนเองและส่งคืนให้อีกฝ่าย
สำนักไป๋เสี่ยวเซิงเป็นสถาบันการศึกษาต้นแบบของอาณาจักรหลู่
ในจิ่วโจว อาณาจักรหลู่สนับสนุนวรรณกรรมและศิลปะการต่อสู้ มีสำนักการศึกษาหลีกสี่แห่งมีชื่อเสียงในจิ่วโจว ได้แก่ สำนักเผิงหลาย สำนักไป๋ลู่ สำนักเป่ยไห่ และสำนักหลางหยา นับตั้งแต่ก่อตั้ง ทั้งสี่สำนักได้สร้างนักปราชญ์ในอาณาจักรหลู่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม สำนักศึกษาทั้งสี่แห่งนี้รับเฉพาะคนที่มาจากตระกูลขุนนาง เทียบเท่ากับโรงเรียนของพวกชนชั้นสูง หากคนธรรมดาต้องการศึกษา พวกเขาทำได้แค่เข้าศึกษาที่สำนักไป๋เสี่ยวเซิงเท่านั้น
แน่นอนว่า หากคนธรรมดาต้องการเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาทั้งสี่แห่งเพื่อเข้าศึกษาต่อ มีเพียงทางเดียวเท่านั้นคือต้องสอบผ่านการประเมินของสำนักไป๋เสี่ยวเซิงและสอบให้ได้ถึงอันดับสาม
หากคนทั่วไปถูกเปรียบเหมือนปลาคาร์ป และการสอบประเมินเปรียบดั่งมังกร วิธีเดียวที่จะสอบผ่านได้ นั่นคือปลาคาร์ปต้องกระโดดข้ามประตูมังกร
นี่เป็นโอกาสเดียวสำหรับคนธรรมดาที่จะก้าวกระโดดไปถึงจุดนั้นได้
ทันทีที่เข้ามายังสำนักไป๋เสี่ยวเซิง พลันเห็นแผ่นหินขนาดใหญ่ที่มีตัวอักษรสีแดงสลักอยู่
“คุณค่าอื่นใดหรือจะเทียบความรู้ได้”
ฉินเหยียนแอบด่าในใจ ดูเหมือนว่าความรู้ ความนิยมเรื่องการเรียนหนังสือจะได้รับความนิยมมากในอาณาจักรหลู่จนไม่อาจหลุดพ้นคำนี้ได้
สำนักไป๋เสี่ยวเซิงมีขนาดใหญ่มาก ลานกว้างเต็มไปด้วยผู้คน ทุกที่ในลานเต็มไปด้วยคนสวมเสื้อคลุมยาวเหมือนนักวิชาการมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเรื่องพระคัมภีร์และลัทธิเต๋า
ประมาณคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่าพันคน บางคนท่องบทกวี บางคนอ่านหนังสือเสียงดัง วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน บางคนโต้ตอบกันเรื่องพระคัมภีร์และตอบคำถาม
วันนี้เป็นวันรับสมัครคนเข้าศึกษาที่สำนักไป๋เสี่ยวเซิง ประชาชนเกือบทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อมาสอบ
เมื่อสอบผ่านเข้าไปยังสำนักไป๋เสี่ยวเซิงได้ และได้รับวุฒิการศึกษาขั้นต่ำในระดับปริญญาตรีอันดับเก้า จากนั้นจะกลายเป็นนักวิชาการด้านการเกษตร
คุณค่าอื่นใดหรือจะเทียบความรู้ได้
นี่คือสิ่งที่ชาวอาณาจักรหลู่ใฝ่หามากที่สุด
ฟางถังจิ้งพาฉินเหยียนเดินผ่านเข้ามาด้านใน ชี้ไปยังห้องโถงตรงหน้าและพูดว่า
“อักสักพักหลังจากเสียงตีฆ้อง เจ้าเข้าไปได้ อาจารย์จะนำเจ้าเดินเข้าไป ฝึกฝนตัวต่อตัว ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ เจ้าต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...