แต้เดิมมีเพียงแค่สี่ห้าคนเท่านั้นที่ลงสมัครลูกเขยในครั้งนี้ แต่หลังจากที่เฉิงอาหนิวปรากฎตัว ทำให้คนที่ต้องการใช้ตระกูลจ้าวเป็นบันไดก้าวขึ้นไปนั้นต่างลงสมัครด้วยเช่นกัน
ในทางกลับกัน ตระกูลขุนนางที่ไม่เคยเปิดรับสมัครลูกเขยมาก่อน เพื่อที่จะประจบประแจงนักปราชญ์ เขาจึงทำตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ ตามฉินเหยียนเดินขึ้นเวทีด้วย
จุดประสงค์ของเขานั้นง่ายมาก เขาจะได้คุยโวกับคนในจิ่วโจวว่าเขาแย่งผู้หญิงมาจากนักปราชญ์ได้
บนเวที
ลูกชายของตระกูลขุนนางรวมตัวรอบๆ ตัวฉินเหยียน และนำตัวเองอย่างประจบประแจง
“ท่านนักปราชญ์ ข้าเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหวัง แห่งเมืองไป๋ลู่ ข้าหวังว่าท่านนักปราชญ์จะสอนความรู้ให้แก่ข้า!”
“ท่านพ่อข้าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเป่ยไห่ มีรับสั่งให้ข้าร่วมงานคัดเลือกนี้ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากทีได้ร่วมการคัดเลือกนี้กับท่าน”
นักเรียนแต่ละคนแนะนำตัว ทุกคนพยายามตีสนิทกับนักปราชญ์คนใหม่
ฉินเหยียนได้แต่ด่าในใจ เหตุผลคนพวกนี้ถึงน่ารำคาญเหมือนแมลงวันเช่นนี้นะ น่ารำคาญมาก!”
ณ ขณะนี้
จ้าวเหวินเซิงปรากฎตัวขึ้นช้าๆ เขาเดินไปที่เวที เมื่อเชาเห็นภาพคนที่เข้ามาสมัครลูกเขยที่ด้านล่าง เขาพลันรู้สึกสับสนในทันที
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดคนถึงเยอะเช่นนี้?”
ไม่น่าแปลกใจที่เขารู้สึกประหลาดใจ ในสนามมีคนเยอะมาก มองไม่เห็นนักปราชญ์เฉิงอาหนิวเลยแม้แต่น้อย
จ้าวเหวินเซิงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ตะโกนออกไปอย่างดุดันว่า
“ข้าแค่สมัครลูกเขย พวกเจ้าเป็นใครมาจากที่ใดกัน?”
ทุกคนที่ด้านล่างเวทีประสานมือตอบกลับว่า
“พวกเรามาที่นี่เพื่อลงสมัครเป็นลูกเขยของตระกูลเจ้าขอรับ!”
พูดออกไปเช่นนั้น แต่สิ่งที่คนเหล่านี้คิดในใจนั่นคือ ประการแรกเอาไว้คุยโม้โอ้อวดในอนาคต ประการที่สอง ในการแข่งขันเขาจะได้ทำให้เฉิงอาหนิวพอใจ ขายตัวเองให้เขาได้เห็น
อย่างไรก็ตามเขาและนักปราชญ์เกิดมาในยุคเดียวกัน นี้เป็นโอกาสที่สวรรค์ได้ประทาน ต้องทำอย่างเต็มที่
จ้าวเหวินเซิงมีสีหน้าสิ้นหวัง เขามองออกว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่
แต่เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว เขาเองก็ไม่สามารถไล่คนเหล่านี้ไปได้
“ในเมื่อทุกท่านมาเข้าร่วมรับสมัครลูกเขยในครั้งนี้ วันนี้ข้าจะอธิบายกฎของการรับสมัคร ขอเพียงแค่พวกเจ้าตอบคำถามทั้งหมดของข้าได้ เช่นนั้นก็สามารถแต่งงานกับจ้าวจือหย่าลูกสาวของข้าได้”
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ทั้งลานเต็มไปด้วยคำซุบซิบ
“เช่นนั้นพวกเรามาดูกันว่า ท่านคณบดีจ้าวจะถามคำถามอะไร”
“ถ้าเขาถามคำถามง่ายไป เราควรถ่อมตัวหรือไม่”
“พวกเรารอดูเถิด”
ฉินเหยียนเองก็สงสัยเช่นกันว่าชายชราผู้นี้จะเล่นอุบายอันใด
จ้าวเหวินเซิงมองไปที่เฉิงอาหนิวด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก เขาตบมือสองครั้ง
“แปะๆ”
“ฟึ่บๆๆ”
ถัดจากเวทีไป มีม้วนหนังสือขนาดใหญ่สามม้วนถูกกางลงมา มีตัวอักษรใหญ่สี่ตัวเขียนบนแต่ละม้วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...