ฉินเหยียนอธิบายว่า
“ในตอนที่เรามองเห็นน้ำเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ในตอนที่แสงเคลื่อนที่ขึ้นลงทำให้เห็นน้ำเคลื่อนที่ขึ้นไป นี่เป็นภาพลวงตาที่เกิดจากแสง ไม่ใช่หยดน้ำจริงไหลย้อนกลับ”
หลังจากแสดงการสาธิตและอธิบายแล้ว ทุกคนก็เข้าใจในหลักการนี้
เถาซงจือยังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านนักปราชญ์ถึงให้เขาตีกลอง
“ท่านนักปราชญ์ แล้วการตีกลองมีประโยชน์อันใดหรือ?”
ฉินเหยียนตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“ถ้าเจ้าต้องการหลอกสมองให้เชื่อ มีเพียงภาพลวงตาเท่านั้นที่ทำให้ไขว้เขว หากสังเกตดีๆ จะเห็นอุบายที่ข้าใช้”
“เนื่องจากสมองสามารถรับรู้ข้อผิดพลาดและแก้ไขโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่สามารถสร้างภาพน้ำไหลย้อนกลับได้”
“ดังนั้นเราต้องเพิ่มเสียงเข้าไป ใช้กลองให้จังหวะเพื่อรบกวนความคิดของสมอง”
“ปล่อยให้สมองประมวลผลมากเกินไป และให้เสียงในการหลอกภาพลวงตตาเข้าด้วยกัน เพื่อที่ว่าสมองไม่อาจแยกแยะเรื่องจริงและเรื่องโกหกได้”
ทุกคนในห้องพยักหน้าอย่างเข้าใจ ฉินเหยียนขอให้เถาซงจือจุดเทียนในห้อง และใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาแสดงการสาธิตการประมวลผลของสมอง
เขาหยิบพู่กันบนโต๊ะและเขียนคำลงบนกระดาษ หลังจากเขียนเสร็จเขาก็หยิบขึ้นมาแสดงให้ทุกคนดูและถามว่า
“เจ้ารู้หรือไม่ว่านี้ตัวอักษรตัวนี้คือตัวใด?”
หยางจิ่นซิ่วตอบโดยไม่คิด
“ไม่ใช่คำว่า “ฉิน” หรอกหรือ!”
ฉินเหยียนกล่าวต่อ
“ถูกต้อง พวกเจ้ามองเพียงแค่แวบเดียวก็รู้ว่าเป็นตัวอักษรตัวใด”
หลังจจากพูดจบ เขาก็หยิบหนังสือบนโต๊ะขึ้นมาและเปิดทันที ด้านบนมีตัวอักษรมากมายบนนั้น เขาให้ทุกคนดู จากนั้นปิดหนังสือและถามว่า
“บอกข้ามาว่าคำที่สี่ในบรรทัดที่สามคือตัวอักษรคำว่าอะไร?”
หลายคนต่างพากันอึ้ง หยางจิ่นซิ่วพูดอย่างหมดหนทาง
“ตัวอักษรเยอะขนาดนั้น ใครจะไปจำได้ล่ะเจ้าคะ”
ฉินเหยียนยิ้มและอธิบายว่า
“พูดได้ว่า ในเวลาเดียวกัน การอ่านตัวอักษรตัวเดียวกับตัวอักษรหลายตัว สมองประมวลผลแตกต่างกัน”
“เมื่อตามองเห็นภาพ สมองจะจดจำได้ง่าย แต่เมื่อตามองเห็นหลายภาพ สมองที่คิดซับซ้อนนั้นไม่อาจประมวลผลได้”
“ในทำน้องเดียวกัน ตาและหูส่งสัญญาณให้สมองประมวลผล ในเวลาเดียวกันสมองประมวลผลแค่การรับรู้ของประสาทสัมผัสเดียวเท่านั้น และสับสนกับการรับรู้ของประสาทสัมผัสอื่น ทำให้อาจแยกแยะเรื่องจริงและเรื่องโกหกได้”
หลังจากอธิบายโดยละเอียดแล้ว ทุกคนก็เข้าใจการทำงานของกลอุบายนี้
ในใจชื่นชมในความรู้รอบตัวของฉินเหยียน ทำให้ยอมรับเขาอย่างสุดใจ
เถาซงจือพูดอย่างไม่ลังเลว่า
“ความสามารถของท่านนักปราชญ์ เปิดโลกให้ข้าจริงๆ การที่ข้าได้มาทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ท่านช่างเป็นโชคดีของข้าจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“หลังจากนี้เจ้ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ตอนนี้คำถามแรกได้รับการไขปัญหาแล้ว ยังเหลือคำถามอีกสองข้อที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข สองสามวันมานี้พวกเจ้าทำงานหนักกันมากแล้ว รีบไปในเมืองเปิดรับสมัครคนเถิด”
เฉิงเซินยกมือขึ้นถาม
“นายท่านอยากรับสมัครคนงานกี่คนหรือ?”
ฉินเหยียนโบกมือปัด
“รับสมัครมาสักห้าร้อยคนเถิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...