ผู้หญิงที่ดูแลฉินเหยียนล้วนแต่หน้าตาสะสวย ฉินเหยียนหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยตำลึงออกมาและให้รางวัลพวกนางทีละคน
“มา นี่เป็นรางวัลสำหรับพวกเจ้า!
ผู้หญิงที่อยู่รอบข้างเขาตกตะลึงในทันที
เงินหนึ่งร้อยตำลึง!
เงินค่าตอบแทนที่ได้ในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่สิบตำลึง แต่นักปราชญ์คนนี้กลับให้เงินพวกนางถึงหนึ่งร้อยตำลึง!
พวกนางทั้งหมดต่างชื่นชมยินดี แต่ก็ปฏิเสธออกไปว่า
“รางวัลที่ท่านมอบให้นั้นมากเกินไปเจ้าค่ะ พวกข้าไม่กล้ารับไว้หรอกเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนตอบกลับอย่างจริงจัง
“เจ้าคอยปรนนิบัติข้าดีขนาดนี้ เงินที่พวกนี้ถือเป็นค่าเสียเวลาของเจ้า เหตุใดถึงไม่รับไว้ รีบรับไปเสียสิ!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็วางธนบัตรทั้งหมดไว้ในมือพวกนาง
พวกนางรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาด้วยความตื่นเต้น และก็ขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ขอบคุณท่านนักปราชญ์เจ้าค่ะ!”
ชั่วเวลาหนึ่ง คนที่เข้ามาลงทุนในอาณาจักรลู่ต่างหลงใหลไปกับความหรูหรา
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้กินดื่มกันอย่างสนุกสนาน ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน
เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มตระกูลขุนนาง นอกจากให้เงินรางวัลในแต่ละวันแล้ว ทุกเรื่องต้องมีหญิงงามคอยปรนนิบัติ คอยดูแลเรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้า อาหาร
ภายใต้เสียงชมเชยและคำพูดเยินยออย่างต่อเนื่อง หลงใหลไปกับการใช้ชีวิตที่หรูหราและฟุ่มเฟือยในหัวถิง หลงระเรืองจนขาดสติ
จนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง ทุกตระกูลได้ส่งจดหมายขอให้เขากลับมา คนเหล่านี้จึงต้องจำใจยอมออกจากหัวถิงด้วยความไม่พอใจ
แม้กระทั่งระหว่างทางกลับ พวกตระกูลขุนนางเหล่านี้ยังคงนึกถึงชีวิตที่หรูหราและสะดวกสบายในหัวถิง อดไม่ได้ที่จะเสียดาย
“แม้ว่าจะเป็นแค่ตำหนักที่ยังสร้างไม่เสร็จดี แต่ชีวิตที่นั่นดีมาก!”
“นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตข้าที่ได้รับการปรนนิบัติดุจฮ่องเต้”
“ตระกูลขุนนางในหัวถิงได้รับการดูแลเหมือนพวกเชื้อพระวงศ์ไปแล้วจริงๆ จะไม่หลงระเริงไปกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรกัน!”
“กลับไปต้องบอกคนอื่นว่าที่นี่เป็นอย่างไร เมื่อมาถึงแล้วจะไม่อยากกลับไปอีก!”
ในเวลาเดียวกัน
หลังจากที่ตระกูลขุนนางเหล่านี้กลับไป ฉินเหยียนก็กลับไปที่วังเจ้าเมือง เรียกหญิงรับใช้ทุกคนในหอหม่านฮวาให้เข้าเฝ้าและถามว่า
“ใครทำเงินได้มากที่สุด?”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทดีก้าวขึ้นไปข้างหน้าและรายงานว่า
“กราบทูลรายงานอ๋องเหยียน หม่อมฉันทำรายได้ได้ดีที่สุดในบรรดาพี่น้อง เงินรางวัลทั้งหมดรวมกันมากถึงหนึ่งหมื่นตำลึงเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนพึงพอใจเป็นอย่างมาก โบกมือแล้วพูดว่า
“ดีมาก น่าชื่นชม!”
เสี่ยวเย่ว์แห่งสิบสองปิ่นหิรัญย์ยื่นแจกันเคลือบสีหลิวหลีให้แก่นักแสดงหญิงตรงหน้า
หญิงคนนั้นรับแจกันแก้วมาด้วยความประหลาดใจและโค้งคำนับอย่างตื่นเต้น
“ขอบคุณท่านนักปราชญ์สำหรับรางวัลเจ้าค่ะ!”
ฉินเหยียนยังคงถามต่อ
“ใครมาเป็นอันดับสอง?”
ผู้หญิงที่มีหน้าตาใจดีเดินออกมา ฉินเหยียนให้รางวัลเป็นแจกันเคลือบสีหลิวหลีเช่นกัน แต่คุณภาพอาจจะไม่ดีเท่าแจกันใบแรก
“ใครเป็นอันดับสาม จงยกมือขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...