ในขณะที่กระจายข่าวออกไปทั่วทุกพื้นที่ หลิวเชียนเชียนก็ได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว
นางอ่านจดหมายในมือและรู้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน สถาบันแพทย์หลวงมีหมอหลวงระดับสี่คนใหม่เข้ามา เป็นคนที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม
เมื่อนางอ่านให้ละเอียด เห็นว่านามสกุลของหมอหลวงที่เพิ่งได้เลื่อนขั้นทำให้นางใจเต้นแรง และทำให้นึกถึงหมอซีขึ้นมา
บวกกับได้ยินว่าจ้าวจือหย่าพูดว่าเห็นชายแขนข้าวเดียวอุ้มลูกสาวของตน นางพลันมีการคาดเดาที่หนักแน่นในใจขึ้นมาทันที
นางจำได้ว่าในใต้หล้านี้มีกฎที่เขียนเอาไว้ว่าห้ามฆ่าหมอ หรือว่าพอจะเป็นไปได้ไหมว่าพวกโจรสลัดจะตัดแขนหมอซีเหลือเพียงข้างเดียว และเขาก็หนีออกมาพร้อมกับซวงเอ๋อร์
หลิวเชียนเชียนพลันสะดุ้งกับความคิดนี้และพึมพำด้วยความไม่เชื่อ
“หรือว่าหมอซีจะยังไม่ตาย?”
เพื่อเป็นการยืนยันข้อสงสัยของตัวเอง นางจึงส่งจดหมายและสั่งให้หน่วยข่าวกรองตรวจสอบทันที และรายงานข้อมูลทุกอย่างของหมอซีให้นางทราบอย่างชัดเจน
...
วันถัดมา
ฉินเหยียนพาจ้าวจือหย่าไปล่องเรือในทะเลสาบ หลิวเชียนเชียนก็ติดตามไปด้วย
นางมองไปที่ฉินเหยียนและพี่จือหย่า ทั้งคู่มีความรักให้แก่กันจนอดรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
อีกอย่างในใจนางตอนนี้พลันคิดถึงเรื่องของหมอซี หากคำนวณระยะเวลาการเดินเท้าจากอาณาจักรฉินไปยังอาณาจักรหลู่ อย่างน้อยต้องใช้เวลาเกือบเดือน เมื่อคิดว่าต้องรอนานขนาดนี้ ใจนางพลันร้อนรน
เมื่อมองไปที่อ๋องเหยียนและพี่จือหย่า พวกเขาไม่สนใจนาง นางจึงไม่ได้แม้แต่บอกลา ได้แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาเบาะแสด้วยตัวเอง
ระหว่างทาง หลิวเชียนเชียนได้รับข้อมูลจากสายข่าวของนาง ว่าจริงๆ แล้วหมอหลวงคนนี้มีชื่อว่าซีจือหลาง พ่อชื่อซีไหลเล่อเป็นชายหน้าไม่อายที่ทอดทิ้งภรรยาและลูกๆ เอาไว้ แต่ตอนนี้เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว
เมื่อซีจือหลางได้เข้ารับการเลื่อนตำแหน่ง พ่อที่ตายไป กลับมีลูกสาวที่เกิดจากเขาเพิ่มขึ้นมาอีกคน กลับมาเยี่ยมพวกเขา และเรื่องเก่าได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ตระกูลซีต้องขายหน้า ตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน
ยิ่งหลิวเชียนเชียนอ่านมากเท่าไร นางยิ่งรู้สึกว่ามีเรื่องแปลกๆ แฝงอยู่ในนั้น
หลิวหลายเล่อถูกไฟครอกตายนานแล้ว จะมีลูกสาวได้อย่างไร?
ในหัวสมองของหลิวเชียนเชียนพลันสับสน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา นางระดมคนจากตำหนักอ๋องเหยียน จัดการให้นางและหมอหลวงซีได้เจอกันที่เมืองหลิว ในอาณาจักรจ้าว
...
ในเวลาเดียวกัน
หัวถิง
นับตั้งแต่วันที่เฉียนเชียนอี้ได้เป็นสมาชิกระดับทองในหอหม่านฮวา หลิวหรูซือเป็นเพื่อนดื่มและพูดคุยเรื่องบทกวีกับเขาทุกวัน
ทุกๆ การต่อบทกลอนของหลิวหรูซือ เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ความรู้สึกเช่นนี้เป็นเหมือนกับได้อาบน้ำฝนปรอยๆ ในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะอายุใกล้หกสิบปีแล้ว ร่างกายมีทรุดโทรมลงไปบ้าง แต่การสื่อสารระหว่างเขากับหลิวหรูซือนั้นเป็นเหมือนการสื่อสารทางจิตวิญญาณ ทำให้ต้นไม้ที่มีอายุมากเช่นเขาเบ่งบาน รู้สึกเหมือนได้เจอฝนในฤดูใบไม้ผลิครั้งที่สอง ทำให้เขารู้สึกประทับใจ
เขาวางงานทั้งหมดที่ราชสำนักมอบหมายให้ และต้องการใช้เวลากับหลิวหรูซือเพียงคนเดียวเท่านั้น
คืนนั้นหลิวหรูซือวิพากย์วิจารณ์เรื่องวรรกรรมกับเขาตามปกติ
ความรักของเฉียนเชียนอี้ที่มีต่อหลิวหรูซือนั้นมาถึงจุดที่เขาไม่สามารถสลัดมันออกไปได้อีกต่อไปแล้ว เขาจับมือและมองตรงไปที่นางด้วยสายตาจริงจัง
“แม่นางหลิว หลังจากที่พวกเราได้อยู่ใกล้ชิดกันมาหลายวัน เจ้าทำให้ข้ามีความรู้สึกที่ข้าไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
หลิวหรูซือสัมผัสได้ถึงสายตาที่เร่าร้อนของเขา แต่ใจนางกลับรู้สึกสงบ อีกทั้งยังแอบรู้สึกรังเกียจเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ แต่ต้องแสดงท่าทีมีความสุขกลับไปว่า
“ข้าเองก็รู้สึกโชคดีมากที่ทำให้ใต้เท้าเฉียนมีความสุขเจ้าค่ะ”
เฉียนเชียนอี้จับมือหลิวหรูซือเอาไว้แน่นและพูดอย่างเคร่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...