องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 849

หลังจากเงียบไปสักพัก ฮ่องเต้หลู่พูดด้วยความโล่งใจ

“ในเมื่อเขาเต็มใจที่จะทำแทนทุกอาณาจักร เช่นนั้นพวกเราจะรอรับสมบัติที่ล้ำค่าเช่นนี้เอาไว้ รีบไปแจ้งศาลาว่าการว่า คนในยุทธภพที่ขอเข้ามาทำงานในอาณาจักรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง อาณาจักรหลู่มอบตำแหน่งสูงกว่าที่ชาวอาณาจักรฉินมอบให้”

มีเสียงคัดค้านดังขึ้นในท้องพระโรง

“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ อาณาจักรหลู่เป็นอาณาจักรแห่งวรรณกรรม หากสถานะของทหารถูกยกระดับให้สูงขึ้น กระหม่อมเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาณาจักรหลู่ และเป็นอันตรายต่อรูปแบบปกครองได้พ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้หลู่คิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“เรื่องนี้เราไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน แต่ต้องพูดว่าในช่างหลายปีที่ผ่านมา อาณาจักรฉินมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด พวกเรานั้นมีความมุ่งมั่นและยึดถือกฎเกณฑ์มาโดยตลอด ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ข้ากังวลว่าหากช้าเกินไป เราจะถูกอาณาจักรฉินครอบงำเอาได้”

“แต่หากอาณาจักรฉินเปลี่ยนแปลง อาณาจักรอื่นไม่ยอมเปลี่ยนแปลง พวกเรารีบใช้เวลานี้เปลี่ยนแปลงเสียก่อน ท้ายที่สุดจะเหลือแต่อาณาจักรฉินและอาณาจักรหลู่ เสือสองตัวเท่านั้นที่แข่งขันกัน”

ทุกคนคิดถึงเรื่องนี้ และรู้สึกว่าสิ่งที่ฮ่องเต้หลู่พูดนั้นก็มีเหตุผล

ในทุกวันนี้ ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยมีมากขึ้นในเจ็ดอาณาจักร อาณาจักรฉินนำหน้าไปไกล แต่อาณาจักรหลู่ยังคงล้าหลังในด้านเศรษฐกิจ ด้านการทหาร และความแข็งแกร่งในชาติ

อาณาจักรหลู่ยังตามหลังอาณาจักรอื่นอยู่มาก ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันของแต่ละอาณาจักรแตกต่างกันไป

สุดท้ายแล้ว เมื่อฮ่องเต้หลู่พูดเช่นนี้ ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งฮ่องเต้

ราชสำนักทั้งหมดในอาณาจักรหลู่เริ่มทำหน้าที่ของตนเอง ประกาศรับสมัครคนมีความสามารถในยุทธภพเข้าร่วมงานในราชสำนัก

ตราบใดที่ถูกคัดเลือก จะได้รับมอบหมายงานที่เหมาะสมตรงกับความสามารถ

นอกจากอาณาจักรฉินและอาณาจักรหลู่แล้ว อาณาจักรจ้าวเองก็เช่นกัน พวกเขาเริ่มปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปพร้อมกัน ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนในยุทธภพ

ต่อมาคืออาณาจักรเยว่ เพราะเป็นอาณาจักรแห่งการค้า มีอำนาจทางการค้าอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากอะไร ดังนั้นคนในยุทธภพที่เข้ามาทำงานในอาณาจักรเยว่ จะได้ทำงานค้าขาย น้อยคนนักที่จะได้ทำงานในราชสำนัก

แต่อาณาจักรสู่และอาณาจักรอู๋ไม่ยอมรับคนในยุทธภพ เมินเฉยความเจริญรุ่งเรืองนี้โดยสิ้นเชิง

แม้ว่าคนในยุทธภพอยากเข้าทำงาน แต่ราชสำนักใช้วิธีการต่างๆ ปฏิเสธพวกเขา ส่งผลให้ในใจคนในยุทธภพต่างอยากได้อยากมีและมีใจมุ่งร้าย

สุดท้ายแล้ว หากอาณาจักรไม่นำคนเหล่านี้มาใช้งาน เช่นนั้นพวกเขาจะย้ายไปยังอาณาจักรอื่น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เกิดกระแสความคิดใหม่ๆ ในที่สุดนำไปสู่การหลั่งไหลของพรสวรรค์จำนวนมากเข้ามา ส่วนอาณาจักรสู่และอาณาจักรอู๋นั้นต้องตกต่ำลงอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะอาณาจักรอู๋ กระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะความนิยมของเมืองชายแดนอย่างหัวถิง อีกทั้งยังมีการพูดผ่านปากต่อปากอย่างไม่จำกัด

คนในยุทธภพไม่อาจอยู่รอดในอาณาจักรอู๋ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไปยังเมืองหัวถิงเพื่อหางาน

หลังจากที่สำนักถังในอาณาจักรสู่กลับมา เขาต้องการร่วมมือกับราชสำนัก แต่ทางราชสำนักไม่สนใจ ทำให้สำนักถังหดหู่ใจยิ่งนัก แม้ว่าจะผ่านการเจรจาหลายต่อหลายครั้ง สำนักถังถูกคนดูถูก ทำให้คนในยุทธภพที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรสู่โกรธมาก จนเกือบจะรวบตัวกันเพื่อก่อกบฏ

...

ภูเขาไท่ซาน

หลิวเชียนเชียนกำลังอ่านรายงานสถานการณ์ล่าสุดในยุทธภพ

“มีข่าวจากวงในรายงานมาว่า คนในยุทธภพจำนวนมากรวมตัวกันมุ่งหน้าไปทางฝั่งเหนือ จากนั้นย้ายไปรวมตัวกันที่หัวถิง ฝั่งหัวถิงถามท่านอ๋องว่า จะให้รับคนในยุทธภพเหล่านี้หรือไม่เจ้าค่ะ?”

ฉินเหยียนที่กำลังเก็บของ พูดอย่างเร่งรีบ

“รับทุกคนเอาไว้ บอกพวกเขาว่า มากี่คนรับให้หมด อีกอย่างให้ที่ดินในหัวถิงแก่พวกเขาส่วนหนึ่ง ให้พวกเขาก่อตั้งสำนักของตนเอง”

หลิวเชียนเชียนไม่เข้าใจเหตุผล จึงถามด้วยความประหลาดใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์