องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 907

สรุปบท ตอนที่ 907 รับน้ำใจจากผู้อื่น จะได้รับประโยชน์เอง: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 907 รับน้ำใจจากผู้อื่น จะได้รับประโยชน์เอง – องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

บท ตอนที่ 907 รับน้ำใจจากผู้อื่น จะได้รับประโยชน์เอง ของ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Namfon อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ต่งเซียวหว่านจงใจพูดเสียงเบาว่า “ท่านสามีเลอะเลือนไปแล้ว ใครๆก็ว่า การยึดครองอาณาจักรนั้นง่ายดาย แต่รักษามันยาก ใช่ว่าท่านจะไม่เข้าใจถึงความหมายของมัน!”

หวังไข่กลับพูดอย่างนิ่งเฉยว่า “กลัวอะไรเล่า อย่างไรอำนาจทหารก็อยู่ในกำมือของข้า อีกฝ่ายก็แค่อัครเสนาบดีและเสนาบดีกองพระคลังคนก่อน ใครจะสู้ข้าได้?”

ต่งเซียวหว่านพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านสามี ข้าขอถามท่าน ท่านยังจำได้รึไม่ว่าอาณาจักรจ้าวล่มสลายได้อย่างไร?”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วหวังไข่ก็เลิกเหิมเกริมทันที เรื่องเล่าความรักของอู๋ซานกุ่ยและเฉินหย้วนหย้วนในตอนนั้นเป็นที่รู้กันไปทั่ว ถึงขั้นที่ว่า แม้ว่าอู๋ซานกุ่ยจะเป็นกบฏของอาณาจักรจ้าว แต่การที่เขาโกรธเกศาชันเพื่อโฉมงาม กลับเป็นแบบอย่างของเหล่าทหารหลายคน

แต่เรื่องราวที่แสนวิเศษเช่นนี้กลับถูกใช้เป็นเบี้ย ค่อยๆเดินไปจนถึงทางตัน สิ่งที่ทำทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ จนสุดท้ายถูกสังหารโดยหญิงสาวที่ตนเองรักที่สุด

เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านั้นแล้วหวังไข่ก็ขนลุกขึ้นมา

เมื่อต่งเซียวหว่านเห็นว่าหวังไข่ครุ่นคิด นางก็เข้าใจแล้วพูดว่า

“ตอนนั้นอู๋ซานกุ่ยเองก็ครองอำนาจทหาร บุกโจมตีอย่างบ้าคลั่ง อีกเพียงก้าวเดียวก็สามารถครองบัลลังก์ได้แล้ว แต่ในก้าวสุดท้ายนั้น กลับทำให้เขาต้องสิ้นใจตายไป”

“ท่านสามี ตอนนี้ท่านครองอำนาจทหารไว้ก็จริง แต่อย่างไรแล้วทั้งเสบียง เงินและอำนาจทางการเมืองยังอยู่ในมือคนอื่น สิ่งที่มีในตอนนี้ยังสู้อู๋ซานกุ่ยในตอนนั้นไม่ได้”

“อีกทั้งยังมีอู๋ซานกุ่ยเป็นแบบอย่าง แล้วท่านจึงต้องเสี่ยง จะขึ้นครองบัลลังก์ให้ได้ และกลายเป็นเป้าทำไมกัน?”

เมื่อภรรยาพูดเช่นนั้นแล้วหวังไข่ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ ตอนนั้นอู๋ซานกุ่ยมีทั้งกำลังทหารและเงิน แต่ก็ยังต้องมีจุดจบอย่างการถูกสังหาร ตอนนี้หากเขาดึงดันจะขึ้นครองบัลลังก์ เกรงว่าคงไม่ได้มีจุดจบดีกว่าอู๋ซานกุ่ย

หวังไข่เผยสีหน้าหนักใจ เขายกจอกเหล้าขึ้นมาจิบ เหล้าร้อนๆไหลลงกระเพาะทำให้เขาสงบจิตสงบใจได้ เขาถามว่า

“แล้วเจ้าหมายความว่า?”

ต่งเซียวหว่านนั่งลงบนตักในอ้อมกอดของหวังไข่อีกครั้ง จากนั้นกอดคอของเขาแล้วพูดอย่างออดอ้อนว่า

“ท่านสามี เราไม่แย่งชิง ใครอยากจะครองบัลลังก์ก็ปล่อยเขาไป เมื่อพระราชสำนักสงบแล้ว ความโกลาหลก็จะสงบลง ท่านมีความดีความชอบในการยุติความโกลาหล ถึงตอนนั้นค่อยขอรางวัลเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ย่อมดีกว่าบัลลังก์ฮ่องเต้ที่น่าผวาไม่ใช่รึ?”

คำพูดนี้ทำให้หวังไข่ได้สติ ภรรยาของเขาพูดได้มีเหตุผล กว่าจะได้ชีวิตที่มีความสุขมา เขาไม่อยากจะตายไปทั้งๆแบบนี้หรอกนะ เขากอดเอวของภรรยาแล้วหอมแก้มนาง

“เมียรักของข้าคิดได้ถี่ถ้วนเสียจริง ตามที่เจ้ากล่าวมาละกัน เราไม่แย่งชิงบัลลังก์บ้าบอนั่น มองดูพวกมันกัดกันเอง!”

......

อัครเสนาบดี

อวี๋จื่อหมิงครุ่นคิดอีกครั้ง ที่ฮ่องเต้อู๋มีจุดจบเช่นนี้ก็เพราะมีคนชั่วที่คอยเป่าหู อยู่ตำแหน่งสูงศักดิ์ มองสถานการณ์ไม่ออก จึงทำให้เชื่อคำพูดหลอกลวง ไม่รู้สถานการณ์ที่ชัดเจน จนทำให้เกิดปัญหามากมาย

โค้วจื่อหยวนเห็นว่าสามีเงียบไป จึงได้พูดต่อว่า “ท่านสามี ความตั้งใจเดิมของท่านคือการที่ชาวเมืองมีชีวิตที่ดีไม่ใช่งั้นรึ เมื่อความโกลาหลในครั้งนี้จบลงแล้ว หากท่านสามีได้ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มอบความสุขสบายให้แก่ชาวเมือง ก็ถือว่าความตั้งใจเดิมยังคงไม่เปลี่ยนไป มันคงสบายใจกว่าการได้เป็นฮ่องเต้ใช่รึไม่?”

เมื่อฟังการพินิจพิเคราะห์โค้วจื่อหยวนแล้ว อวี๋จื่อหมิงเองก็เข้าใจสถานการณ์ทันที เขาจับมือของโค้วจื่อหยวนอย่างดีใจแล้วพูดอย่างจริงจังว่า

“ตำแหน่งที่สูงศักดิ์เช่นนั้นไม่ต้องครองมันก็ได้ โชคที่เมียรักเตือนข้า ข้าเกือบจะหลงไปกับอำนาจเสียแล้ว”

เมื่อได้ยินว่าอวี๋จื่อหมิงสละการแย่งชิงแล้ว โค้วจื่อหยวนเองก็โล่งอก นางยิ้มแล้วพูดว่า

“ท่านและข้าเป็นสามีภรรยากัน หนึ่งร่วงล้วนร่วง หนึ่งโรจน์ล้วนโรจน์ ต่อจากนี้ไปข้ายังต้องพึ่งท่านสามี เราสองคนยังต้องมีชีวิตที่ดีด้วยกันต่อไป”

ว่าแล้ว โค้วจื่อหยวนก็ยกจอกเหล้าขึ้นมามอบให้กับอวี๋จื่อหมิง

อวี๋จื่อหมิงรับจอกเหล้ามาแล้วพูดว่า “การได้เจ้าเป็นเมีย ถือเป็นความโชคดีของข้ายิ่งนัก!”

ว่าแล้วเขาก็ดื่มเหล้าจนหมดจอก จากนั้นทั้งสองก็ดื่มเหล้าแล้วพูดถึงอนาคตด้วยกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์