องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 964

สรุปบท ตอนที่ 964 จงใจทำให้ลำบากใจ: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

ตอนที่ 964 จงใจทำให้ลำบากใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

ตอนนี้ของ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 964 จงใจทำให้ลำบากใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“ห้าล้านตำลึงรึ?!”

ฉินอวี่ได้ยินแล้วก็ตกใจ แม้เขาจะรู้ว่าเจ้าคนเจ้าเล่ห์พวกนี้จะต้องเรียกราคาสูงมากแน่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกินไปมากเช่นนี้ เงินห้าล้านตำลึงไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆเลย ต่อให้สำหรับอาณาจักรฉินในตอนนี้มันจะไม่ใช่ปัญหาเลย แต่ปัญหาคือแค่นำมาซื้ออู่ต่อเรือไม่กี่เจ้านี้นี่สิ มันเป็นการซื้อขายที่ไม่คุ้มเอาเสียเลย

“เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ล้อข้าเล่น? เรียกราคาอะไรของพวกเจ้ากัน!”

ฉินอวี่ขมวดคิ้วแล้วจ้องเสิ่นเฟย แล้วพูดอย่างเย็นชา

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว ใบหน้าของเสิ่นเฟยก็กระตุก เขายังอยากจะเกลี้ยกล่อม แต่เจ้าของหวังกลับห้ามเขาแล้วส่ายหน้าพูดว่า

“อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ นี่มันจงใจทำให้ลำบากใจชัดๆเลยพ่ะย่ะค่ะ ราคาห้าล้านตำลึง คือผลลัพธ์ความพยายามหลายสิบปีอันเหน็ดเหนื่อยของพวกกระหม่อมเชียวนะพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเหล่าเจ้าของอื่นๆเห็นว่าหวังจี้ตงดื้อรั้นจึงได้ลองพูดเช่นกันว่า

“พวกกระหม่อมเองก็ลำบากเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”

“ใช่แล้ว ห้าร้อยตำลึง ดูไม่น้อย แต่หากแบ่งกันเจ็ดเจ้าก็เหลือไม่เท่าไรเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะอ๋องอวี่ พวกกระหม่อมเองก็ถูกบีบบังคับ แท้จริงไม่อยากขายเลยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินอวี่ก็มุมปากกระตุก เจ้าพวกสารเลว เขาสูดลมหายใจลึกๆ พยายามอดกลั้นความเดือดดาลแล้วพูดว่า

“ดี ในเมื่อพวกเจ้ายืนยันเช่นนั้น งั้นข้าก็คงช่วยไม่ได้ ไว้ยามบ่ายตอนพวกเจ้ามาเข้าเฝ้าอ๋องเหยียนที่จวนเจ้าเมือง ก็เอ่ยปากเองแล้วกัน”

ภารกิจของเขาที่จริงก็แค่ตามหาคนมา หากสามารถเจรจาราคาให้เรียบร้อยก่อนได้ก็ยิ่งดี แต่หากไม่ราบรื่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ว่าแล้วฉินอวี่ก็ยืนขึ้นแล้วเดินจากไป เหลือไว้เพียงพวกเจ้าของอู่ต่อเรือที่พากันมองหน้ากัน

เสิ่นเฟยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ดูพวกเจ้าสิทำอะไรลงไป สองล้านตำลึงไม่ได้น้อยเลย เราก็แค่บวกเพิ่มไปอีกหน่อยก็พอแล้วนี่ เริ่มมาก็เอ่ยห้าร้อยตำลึง ใครเขาเจรจาเช่นนี้กัน?”

เหล่าเจ้าของถูกต่อว่าจนพูดอะไรไม่ออก และรู้สึกหัวเสียอยู่บ้าง ดูเหมือนพวกเขาจะทำเกินไปจริงๆ

“ห้าล้านตำลึงแล้วอย่างไรเล่า? นี่พวกเจ้ายังดูไม่ออกอีกรึ?” หวังจี้ตงยิ้มประชดแล้วพูดว่า “พวกเจ้าไม่ได้ยินรึว่าท่านตรัสว่าจะสร้างกองเรือ! กองเรือหนึ่งกองทัพจะต้องใช้เงินเท่าไรกัน นั่นเป็นตัวเลขที่สูงลิ่ว จะสนใจเงินห้าล้านตำลึงนี่รึ?”

เสิ่นเฟยอึ้งไป จากนั้นก็พูดต่อว่า “เจ้าเองก็พูดมาแล้วว่านั่นคือเงินที่ใช้สร้างกองเรือ แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินขายอู่ต่อเรือของเรา? เจ้าเสียสติไปแล้วรึ!”

หวังจี้ตงทำเสียงเย็นชาแล้วพูดว่า “ต้องเกี่ยวอยู่แล้ว ทั่วทั้งเก้าแคว้นนี้มีแค่อู่ต่อเรือของเราทั้งเจ็ดเท่านั้น ที่สามารถสร้างเรือใหญ่ที่มีความยาวมากกว่าสิบจั้งได้ หรือก็คือ หากอาณาจักรฉินต้องการเรือใหญ่มาสร้างกองเรือ ก็ต้องพึ่งพวกเราเท่านั้น”

“แถมอาณาจักรฉินก็มีทรัพย์สินมากมาย พวกเราทุกคนก็ล้วนได้เห็นเป็นขวัญตาแล้ว ข้าว่าห้าล้านตำลึงน้อยแล้วนะ ต่อให้เราเอ่ยปากขอแปดล้านตำลึง พวกเขาก็จะลองพิจารณา พวกเจ้าเชื่อรึไม่?”

เมื่อเล่าเจ้าของคนอื่นๆได้ยินดังนั้นก็ตาเป็นประกายทันที แล้วรีบสมทบว่า

“ที่จริงข้ายังมีวิธีที่ดียิ่งกว่า ที่สามารถทำให้มีเงินเข้ามาไม่ขาดสายได้”

“หือ? รีบพูดมาสิ!” คนอื่นๆได้ยินก็ตาเป็นประกายทันที

หวังจี้ตงยิ้มแล้วพูดว่า “หากพวกเขาไม่ยอมใช่เงินจำนวนมากซื้อ เช่นนั้นเราสามารถร่วมงานกับพวกเขาได้ ในอนาคตหากพวกเขาต้องการสร้างกองเรือ เราสามารถช่วยสร้างได้ แต่เรือหนึ่งลำนั้น ก็ต้องใช้เงินตามหนึ่งลำ ส่วนจะเท่าไรต่อหนึ่งลำก็ต้องขึ้นอยู่กับเราสิ”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็พากันอึ้งไป จากนั้นก็ตาเป็นประกายทันที

“ก็เป็นวิธีที่ดีเลยเชียว”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ไม่ต้องเสียปัจจัยการดำรงชีพด้วย”

“ใช่ หากพวกเขายอมจ่านเพียงสองล้านเราก็ทำเช่นนี้ อย่างมากก็แค่แยกย้าย อาณาจักรฉินก็อย่าคิดจะสร้างกองเรือที่มีคุณภาพได้เลย!”

“ฮ่าๆๆ......”

เมื่อได้ยินพวกเขายิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ เสิ่นเฟยก็ร้อนใจจนเหงื่อแตก เขาอยากจะห้าม กลับถูกหวังจี้ตงห้ามเอาไว้

“เถ้าแก่เสิ่น ข้ารู้ว่าเจ้ามาจากอาณาจักรหลู่ ยอมรับในตัวอ๋องเหยียน แต่เงินต่างหากที่เป็นสิ่งที่จับต้องได้ อีกอย่าง เจ้ารู้จักอ๋องเหยียน แล้วใครรู้จักเจ้าล่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์