อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 11

"สุรานี้"

"พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"

ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมด

พอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป

"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา

"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"

หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย"

"พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น

"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม

"ข้าน้อยมิกล้า" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงรีบร้อนโบกมือ "นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องมอบให้ท่านโดยเฉพาะ พวกเราดื่มไม่ได้"

"พระชายา พวกเข้าน้อยตอนนี้ก็ห้ามดื่มสุราด้วย"

ดูอาการตึงเครียดของพวกนางแล้ว ฟู่จาวหนิงจึงไม่ฝืนบังคับ จวนอ๋องเจวี้ยนก็คงจะมีกฎของที่นี่อยู่

ฟู่จาวหนิงดื่มแก้วที่สองลงไป ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา

นางลิ้มรสออกมาแล้ว ตัวยาเก้าชนิดในนี้นางรู้แล้วว่าคืออะไร!

นางน่าจะหมักสุราเลิศตระกูลอวิ๋นออกมาได้!

เมื่อเป็นเช่นนี้ ถังทองแรกของนางก็รู้แล้วว่าจะหาจากไหน

แต่ว่าตัวยาเก้าชนิดนี้ก็ต้องหามาเสียก่อน พอดีเลย จากนี้สามวันไปหาในเขาจันทร์ลับฟ้าก็ได้ เป็นเช่นนี้ ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนั่นของไท่ซ่างหวง นางก็จะไปเขาจันทร์ลับฟ้านั่นอยู่ดี

เนื่องจากงานเลี้ยงมีสุราเลิศตระกูลอวิ๋น บรรยากาศจึงคึกคักมาก

โดยเฉพาะหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนออกไป พอเขาอยู่ที่นั่น ทุกคนส่วนใหญ่ล้วนทำตัวไม่ถูก มีแรงกดดัน พอเขาออกไป ทุกคนก็ลืมทั้งหมดไปชั่วคราว ชิมสุราก่อนแล้วค่อยว่ากัน

อ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนกลับมาถึงห้องหนังสือ ชิงอีตามติดเข้ามา ถามขึ้นอย่างลังเล "นายท่าน คืนนี้ท่านจะพักที่ใดหรือ?"

พิธีแต่งงานครั้งนี้ของอ๋องเจวี้ยนจัดขึ้นอย่างฉุกละหุกเหลือเกิน ข่าวทีส่งกลับมาก็ยังไม่ทันแจ้งอย่างชัดเจน ผู้ดูแลจึงจัดแจงใช้เรือนของเขาเป็นห้องหอ ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเจ้าสาวคนใหม่ที่ยังมีตัวตนฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็ยังอยู่ที่นั่น

หรือว่าจะไล่นางออกไปดี?

อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว ปลดหน้ากากลง

รอยแผลเป็นบนหน้าเขาแม้จะนานมากแล้ว แต่พอใส่หน้ากากนานๆ มันก็จะเจ็บปวดคันคะเยอขึ้นมา ถ้าหากทนไม่ไหวแล้วไปเกาเขา แผลเป็นก็จะหลุดเน่าและแพร่เชื้อต่อ

เขาเองก็คิดถึงปัญหาข้อนี้

"ให้คนไปจัดการเรือนหนึ่งให้นางเสีย" เซียวหลันยวนไม่คิดที่จะอยู่ห้องเดียวกับฟู่จาวหนิง และไม่คิดที่จะร่วมหอลงโรงกับนางจริงๆ

"ขอรับ แต่ว่าวันนี้เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว" ชิงอีมองท้องฟ้าผาดหนึ่ง

ในจวนวุ่นวายมาครึ่งค่อนวัน ตอนนี้งานเลี้ยงก็มาถึงช่วงท้ายแล้ว เหล่าคนใช้ยังต้องดูแลงานเลี้ยง อีกครู่พอส่งแขกเหรื่อเสร็จก็ยังต้องเก็บกวาดอีก แล้วกว่าจะไปจัดเรือนให้ฟู่จาวหนิงคงได้รอจนฟ้ามืดพอดี

เซียวหลันยวนเหล่มองเขา

"ให้คนไปตรวจสอบตระกูลฟู่แล้วหรือยัง"

ฟู่จาวหนิงคนนี้ ดูแตกต่างจากคุณหนูฟู่ที่เขาเคยได้ยินมาก่อนหน้าอยู่

"ไปตรวจสอบแล้ว"

เซียวหลันยวนจัดการเรื่องเหล่นี้ในห้องหนังสือ ฟู่จาวหนิงกลับรออยู่นานสองนานก็ยังไม่พบตัวเขา

พอเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว เทียนแดงในเรือนหอก็จุดมาแล้วสองเล่ม หงจั๋วกับเฝิ่นซิงออกไปดู ก็เห็นว่าแขกเหรื่อทยอยกันลากลับ แต่อ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่โผล่มา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส