อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 110

ฟู่จาวหนิงนั่งยองอยู่ใต้หน้าต่าง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตีปีกขึ้น พอเงยหน้า สิ่งที่เหมือนผึ้งตัวหนึ่งก็บินตรงมาแทงลงที่นิ้วของนางทันที

และขณะเดียวกัน นางเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าตรงมาทางหน้าต่างนี้

ในช่วงจังหวะสำคัญ ฟู่จาวหนิงไม่มีเวลาคิด จึงรีบโบกมือจับเจ้าของสิ่งนั้นเก็บเข้าไปในห้องเภสัช

จากนั้นนางก็ยืนขึ้น ถอยหลังไปหลายก้าว

พอเพิ่งจะถอยหลัง ประตูที่เมื่อครู่แง้มไว้เป็นร่องเล็กๆ ก็ถูกผลักเปิดออกทันที ไห่ฉางจวิ้น รีบกระโจนออกมา พอยืนมั่นคงแล้วจึงมองไปทางฟู่จาวหนิง

นางมองหาไปรอบๆ พอไม่พบร่องรอยของไหมใจโลหิตตัวนั้น ก็ทั้งตกตะลึงทั้งร้อนรนทั้งโกรธขึ้งขึ้นมา ชี้นิ้วไปทางฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงโมโห

"ฟู่จาวหนิงเจ้าคนชั้นต่ำไร้ยางอาย เจ้ากล้าขโมยไหมใจโลหิตของข้าหรือ?! รีบคืนไหมใจโลหิตของข้ามาเสีย!"

ฟู่จาวหนิงจึงเพิ่งได้สติ ว่าเมื่อครู่ที่ถูกนางเก็บเข้ไปในห้องเภสัชก็คือไหมใจโลหิต

แต่ว่า ไห่ฉางจวิ้นพออ้าปากก็ด่ากราด นางจึงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก

"เจ้าใช้ตาข้างไหนเห็นว่าข้าขโมยไป?"

"เจ้านั่นล่ะ ไม่เช่นนั้นทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? เจ้าเข้ามาขโมยไหมใจโลหิตของข้าโดยเฉพาะ! อ๋องเจวี้ยนต้องการมัน เจ้าเลยคิดจะเอาใจเขา ดังนั้นจึงมาขโมยของของข้าสินะ?"

ไห่ฉางจวิ้นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองเดาไม่ผิด

"้เจ้ามันคนน่าไม่อาย! นั่นมันไหมใจโลหิตของข้านะ รีบส่งออกมา ไม่เช่นนั้นข้าจะฉีกเสื้อผ้าเจ้าให้หมดแล้วค้นมันออกมา"

ไห่ฉางจวิ้นพูดพลางพุ่งตัวเข้าใส่ฟู่จาวหนิง

เรื่องอื่นนางยังทนได้ แต่มาแย่งไหมใจโลหิตของนางนั้นทนไม่ได้! นางใช้ไหมใจโลหิตมารักษาอาการป่วยคนในเผ่าตั้งหลายปี นี่เป็นหน้าที่หนึ่งของนักบวชหญิงด้วย ถ้าไม่มีไหมใจโลหิตแล้ว การให้การสนับสนุนจากคนในเผ่าต่อตัวนางก็จะสั่นคลอน และอาจจะมีพวกคนโง่คิดเข้ามาแย่งตำแหน่งนักบุญหญิงของนางก็ได้!

"ไห่ฉางจวิ้น เป็นต้องรู้จักมีเหตุผล"

ฟู่จาวหนิงถอยมาหลายก้าว

เห็นๆ อยู่ว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย ไหมใจโลหิตตัวนั้นบินเข้ามาเอง แล้วยังคิดจะแทงมาบนแผลที่นิ้วนางอีก

พริบตานั้นนางยังคิดว่าเป็นแค่ผึ้งตัวหนึ่ง ดังนั้นจึงเก็บมันเข้าไปในห้องเภสัชเสีย อีกครู่หนึ่งจะปล่อยมันออกมา

แต่ไห่ฉางจวิ้นนี้ก็ไม่ให้โอกาสนางอธิบายเลย

ตอนนี้นางเองจะปล่อยไหมใจโลหิตออกมาจากห้องเภสัชต่อหน้าไห่ฉางจวิ้นก็ไม่ได้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นเปิดเผยห้องมิติไป

"มีเหตุผลอะไรอีก! เจ้ามันหัวขโมยหน้าไม่อายยังกล้าจะมาพูดเรื่องเหตุผลกับข้าอีกหรือ?"

ไห่ฉางจวิ้นโจมตีฟู่จาวหนิงอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้นางเห็นว่าฟู่จาวหนิงวางเข็มบางส่วนไว้ที่เอว ดังนั้นจึงฟาดกระบวนท่าคว้าไปที่เอวของนาง

แต่ร่างของฟู่จาวหนิงเองก็มหัศจรรย์ เห็นอยู่ว่านางไม่ได้ใช้วิชาตัวเบาอะไรและก็ไม่เห็นว่านางจะเคลื่อนไหวรวดเร็วอะไรเลย แต่จังหวะก้าวเดินกลับดูราบรื่นมาก ขยับซ้ายขวานิดหน่อย ก็หลบเลี่ยงมือของนางไปได้

สู้กันไปพักหนึ่ง ไห่ฉางจวิ้นก็แตะเอวของนางไม่ได้เลย

ฮูหยินสามเองก็รีบผลักประตูวิ่งเข้ามา พอเห็นฟู่จาวหนิง นางก็ถลึงตาโต้ร้องเรียกขึ้น

"ฟู่จาวหนิง! เจ้ายังกล้ามาอีกหรือ? เจ้าแทงจนหย่งหนิงของข้าใบ้ไปแล้ว นังสารเลว เจ้าทำไมถึงได้ใจเหี้ยมนัก? ใครก็ได้ ใครก็ได้!"

เหล่าคนใช้ที่เดิมทีไม่กล้ารบกวนไห่ฉางจวิ้นเหล่านั้นก็ล้อมวงเข้ามา

"หยิบกระบองแล้วตีนางเสีย! ครั้งนี้ถ้าไม่ตีมือฟู่จาวหนิงจนหัก ข้าจะไม่เลิกรา!" ฮูหยินสามพอคิดถึงลูกชายสุดที่รักที่ยังนอนอยู่บนเตียงพูดไม่ได้ สายตาที่มองไปทางฟู่จาวหนิงก็ยิ่งเหี้ยมเกรียมขึ้นไปอีก

พวกคนใช้เหล่านั้นก็ขานรับขึ้นทันที ทยอยกันหยิบอาวุธขึ้นมา จากนั้นก็เข้าล้อมฟู่จาวหนิงไว้

แต่ไห่ฉางจวิ้นเองก็โจมตีอย่างดุเดือด วรยุทธ์ของนางยังสูงกว่าพวกเขา นางลอยไปลอยมาอยู่ทางนั้นโจมตีฟู่จาวหนิงอย่างบ้าคลั่ง พวกเขากลับเข้าใกล้ไม่ได้เลย ทำได้แค่จับอาวุธล้อมรอไว้เท่านั้น

"ตีเลย! ฉางจวิ้น เร็ว ถีบนาง คว้าผมของนางไว้!"

ฮูหยินสามตนเองก็เข้าไปไม่ได้ แต่กลับคอยส่งเสียงแหลมอยู่ข้างๆ ตลอด

"ชกตาของนาง! พวกเจ้ารีบส่งกระบี่ให้ฉางจวิ้นเร็ว นางไม่มีอาวุธ!"

ฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงร้องของฮูหยินสาม ในใจก็ยิ่งเดือดดาล

นี่คืออาสะใภ้สามของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส