อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 135

"พระสนมลี่กำลังชื่นชมนิสัยของพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่หรือ" ฮองเฮาเหลือบมองนางเย็นชาผาดหนึ่ง

พระสนมลี่ส่ายหัวยิ้มตอบ "หม่อมฉันมิกล้าที่จะชื่นชมพระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบนี้หรอก"

ฟู่จาวหนิงก็ขี้เกียจจะอธิบายว่าทำไมนางจึงแต่งกายด้วยชุดเก่าเข้ามา ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนส่งชุดองค์ทรงเครื่องที่พระชายาควรมีไปให้นางสักชุดอยู่แล้ว

ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันจะอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเซียวหลันยวนดังขึ้น "พระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบไหนหรือ? ข้ายังยืนอยู่ที่นี่นะ คิดว่าข้าตายไปแล้วหรือไรกัน?"

พระสนมลี่หน้าเปลี่ยนสี

"อ๋องเจวี้ยน ข้า"

"ข้าไม่ได้ให้พระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าวัง ก็เพราะได้ยินว่าไทเฮาป่วยหนัก ใจก็ร้อนรน จึงไม่ได้สนใจเรื่องพิธีรีตอง ขนาดองค์จักรพรรดิคงจะไม่จ้องจับผิด ทำไมกัน นี่วนมาให้พวกเจ้าจ้องจับผิดแทนแล้วหรือ?"

อ๋องเจวี้ยนพูดมาอีกคำหนึ่ง ครั้งนี้ทำเอาฮองเฮาเหน้าเปลี่ยนสีไปด้วย

ฟู่จาวหนิงประทับใจในตัวเซียวหลันยวนขึ้นอีกหน่อยแล้ว

ยังพอไหว อยู่ต่อหน้าคนอื่นยังรู้จักมาปกป้องนาง ชายคนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นสุนัขเสียทีเดียว

นางก็เอ่ยตามขึ้นมาบ้าง "ท่านอ๋อง ท่านรีบร้อนคิดจะมาดูอาการป่วยของไทเฮาว่าเป็นเช่นไร แต่ท่านหญิงเหล่านี้กลับดูไม่ตึงเครียดกันเลย แล้วยังแต่งตัวกันสวยสด รวมตัวอยู่ที่นี่เพื่อจ้องจะหาเรื่องข้าอีก"

ฟู่จาวหนิงแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ควรไปแหยมด้วยอยู่แล้ว

สมัยก่อนเหล่าลูกพี่ของประเทศต่างๆ นางก็เห็นมาไม่น้อย ไม่มีนิสัยที่มาเจอกับพวกสนมในวังแล้วแข้งขาอ่อนหรอกนะ

ประโยคนี้ ทำเอาเหล่านางสนมที่แต่งตัวกันสวยหรูทั้งตำหนักล้วนนั่งกันไม่สุขแล้ว

"เอาล่ะ"

องค์จักรพรรดิที่เดิมทีเหมือนแกล้งตายมาตลอดก็เพิ่งจะเอ่ยปากขึ้น

"อายวน" องค์จักรพรรดิถอนหายใจ ดูเคร่งขรึมอยู่บ้าง "เหล่าหมอหลวงช่วยเหลือกันสุดความสามารถแล้ว แต่เสด็จแม่ก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา ข้าบอกเจ้าไว้ก่อน เจ้าควรจะเตรียมใจไว้ด้วย หมอหลวงบอกว่าในใจเสด็จแม่มีเรื่อง และกังวลมากจนเกินไป แล้วยังมาเจอกับเรื่องน่าตกใจอีก บวกกับลมหนาวแทรกเข้าร่างกาย จนอาการป่วยเก่ากำเริบขึ้นมา"

ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว ดังนั้น จะยังรอดหรือไม่รอดกันล่ะ?

"สาวใช้เป่าเยวี่ยที่คอยคุ้มกันตอนกลางคืนบอกว่า เสด็จแม่ฝันร้ายมาหลายคืน ดังนั้นหลายคืนนี้จึงหลับไม่ค่อยดี เมื่อคืนจู่ๆ ก็กรีดร้องตกใจในความฝัน อยู่ในสภาพตื่นตกใจมาก ตะโกนคำพูดที่เกี่ยวข้องกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา ดังนั้น ข้าจึงอยากจะถามพระชายาอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย กว่าก่อนหน้านี้พูดอะไรกับไทเฮาบ้างหรือไม่?"

องค์จักรพรรดิมองฟู่จาวหนิง

"องค์จักรพรรดิ" ฟู่จาวหนิงยืนตัวตรง "ข้ากับไทเฮาเพิ่งจะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียว ก็คือในวันพิธีใหญ่วันนั้น ตอนนั้นองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาและแขกเหรื่อมากมายก็ล้วนอยู่ด้วยกัน ข้าไม่มีโอกาสได้ไปพบปะกับไทเฮาเพียงลำพังเลย ดังนั้น สิ่งที่ไทเฮาตะโกนขึ้นในความฝัน จึงไม่เกี่ยวข้องกับข้าเลยจริงไหม?"

จะเหวี่ยงความผิดมาให้แบบนี้มันก็เหลวไหลเกินไปนะ

"ไทเฮาตะโกนออกมาคำหนึ่งว่าสกุลฟู่ ข้าขอร้องเจ้า และในหญิงสาวของราชวงศ์ ก็มีแต่เจ้าที่มีนามสกุลฟู่ ถ้าหากไม่ได้เรียกหาเจ้า เช่นนั้นจะเรียกหาใครกัน?"

ฮองเฮาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

"ยังไม่พูดเรื่องที่ไทเฮาร้องคำนี้ออกมาจริงไหม ต่อให้ร้องออกมาจริง สกุลฟู่ก็ไม่ได้มีแต่ข้า เรื่องนี้ปล่อยไปก่อน ต่อให้เป็นข้าจริง แล้วพอไทเฮาฝันเห็ฯข้า ความฝันเหล่านั้นก็จะเป็นจริงด้วยหรือ?"

ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าพวกเขาช่างน่าขันเหลือเกิน

"ว่ากันว่าสิ่งที่คิดในตอนกลางวันจะมองเห็นในตอนหลับฝัน ถ้าหากไทเฮากำลังคิดถึงเรื่องอะไรเรื่องหนึ่งในใจจริง ตอนกลางคืนก็เป็นไปได้ว่าจะฝันเกี่ยวกับเรื่องนั้น ไทเฮาขอร้องเจ้าในความฝัน แล้วเป็นไปได้ไหมที่เจ้าจะไปข่มขู่นางในความเป็นจริง?"

ฟู่จาวหนิงอยากจะมองบนใส่นางชุดใหญ่เสียจริง

"ฮองเฮา ข้าจะไปคุกคามไทเฮาอย่างไม่มีเหตุผลทำไม? ข้าก็แค่หญิงสาวอ่อนแอจากตระกูลเล็กๆ คนหนึ่ง มีอะไรที่จะทำให้ไทเฮาต้องกลัวข้า จนมาอ้อนวอนขอร้องข้า? นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!"

ถ้าทำได้ นางจะเอามีดผ่าตัดมาเปิดผ่าสมองของฮองเฮาเสียเลยตอนนี้ ดูว่าข้างในใส่หญ้าอะไรเอาไว้กันแน่!

"แล้วเจ้าจะอธิบายอย่างไร ที่ไทเฮาตะโกนเรียกชื่อเจ้าในความฝัน?" ฮองเฮาถามบีบคั้นเสียงขรึม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส