สองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
ฟู่จาวหนิงเห็นรอยยิ้มที่มุมปากเซียวหลันยวน รู้ขึ้นมาทันทีว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว!
"เซียวหลันยวนท่านนี่มันสุนัขจริงๆ" นางด่าเข้าให้
ถึงกับแกล้งสลบเชียว! ยิ่งกว่านั้นยังแกล้งเสียเหมือนเปี๊ยบ!
ใช่ผู้ชายไหมเนี่ย? ให้นางต้องแบกมาตั้งครึ่งค่อนทาง!
"สุนัข?" เซียวหลันยวนนั่งขึ้นมา จัดระเบียบตัวเล็กน้อย "ถ้าข้าไม่แกล้งสลบ ในจวนอ๋องคงจะมีหญิงสาวเพิ่มมาอีกสามคนคอยแย่งชิงความเอ็นดูจากข้าแล้ว เจ้าไม่ใช่พวกขี้หึงใจคับแคบอยากจะครองข้าไว้คนเดียวหรอกหรือ?"
"ไร้ยางอาย!"
แกล้งสลบแล้วยังแอบฟังนางพล่ามอีก
ฟู่จาวหนิงโมโหจนถลึงตาใส่เขาหลายครั้ง
"ข้าไม่รู้เลยนะ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราใกล้ชิดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" ้เขาถามขึ้นอย่างยั่วเย้า
ยวนยวน?
หรือว่า "ยวนยวนของข้า" ?
ฟู่จาวหนิงหน้าร้อนผ่าว ใบหูแดงระเรื่อ
สมองของนางถูกสุนัขเล่นงานเอาเสียแล้ว!
"ท่านหุบปากไปเลย!"
"เช่นนั้นหลังจากนี้ตอนที่พวกเราแกล้งทำเป็นรักกัน ข้าต้องเรียกเจ้าว่าหนิงหนิง? เจาเจาไหม?"
ฟู่จาวหนิงสะบัดตัว "ทำไมยังทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้?"
ชิงอีที่อยู่ด้านนอกพอได้ยินสองคนทะเลาะกันก็โล่งใจขึ้นมา ที่แท้ท่านอ๋องก็แกล้งสลบไปนี่เอง เขาตกใจแทบแย่
"ไทเฮาเกิดอะไรขึ้น?" หลังแหย่ไปครู่หนึ่ง เซียวหลันยวนก็หน้าตาจริงจัง เอ่ยถามนางอย่างตั้งใจ
"ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าดูออก?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกแปลกใจ นางยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เซียวหลันยวนกลับรู้ว่านางมองแล้วรู้สึกไม่ถูกต้อง
"ข้าไม่ใช่ว่าชอบเจ้ามากหรอกหรือ แน่นอนว่าคอยสังเกตเจ้าทุกอากัปกิริยา" เซียวหลันยวนเอ่ยตอบ
ฟู่จาวหนิงมองบนใส่เขา
"ในตำหนักบรรทมของไทเฮามีกลิ่นธูปอยู่หลายชนิด ธูปเหล่านั้นหากอยู่เดี่ยวๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาผสมเข้าด้วยกันจะเกิดคุณลักษณะเป็นพิษขึ้นมา สูดดมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้จิตใจไม่มั่นคง ยากจะรวบรวมสมาธิได้ ง่วงซึม ฝันบ่อย กระบวนการความคิดเชื่องช้า"
ตอนที่เหยียบเข้าไปในตำหนักบรรทมไทเฮาฟู่จาวหนิงก็พบเข้าแล้ว
แต่ว่าไทเฮาก็คิดแต่จะดึงนางไว้ปรนนิบัติโรคภัยเสียให้ได้ คาดโทษให้กับฟู่จาวหนิง แน่นอนว่านางเลยขี้เกียจจะเตือนไทเฮา
"อันตรายถึงชีวิตไหม?" เซียวหลันยวนยื่นมือมาลูบที่หน้าอกตนเองเบาๆ
ตอนแรกสุดอันที่จริงเขาก็ไม่ได้จงใจจะแกล้งสลบหรอก แต่พอได้กลิ่นธูปเหล่านั้น ก็รู้สึกวิงเวียนจริงๆ ดังนั้นจึงถือโอกาสสลบลงไปเสียเลย
ยังดีที่ฟู่จาวหนิงกล้าพอควร หลังจากนางสลบไปก็แบกเขาเดินทันที ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่น คงจะลนลานทำอะไรไม่ถูก แล้วส่งตัวเขาให้องค์จักรพรรดิ ให้หมอหลวงเข้ามาดูอาการเขาไปแล้ว
"ไม่ แต่สูดดมสิ่งเหล่านั้นเข้าไประยะยาวไม่มีประโยชน์กับร่างกาย โดยเฉพาะไทเฮาที่อายุมากแล้ว จิตใจไม่มั่นคงเป็นเวลานานแล้วยังนอนไม่ดีพอฝันบ่อย ร่างกายจะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ"
ฟู่จาวหนิงพูดความจริง จากนั้นก็มองเขา "ความรู้สึกของไทเฮาที่มีต่อท่านมันดูประหลาดๆ นะ"
ดูไม่เหมือนแม่แท้ๆ เลย นางยังมองไม่ออกว่าไทเฮาดีกับเซียวหลันยวนหรือไม่ เป็นห่วงหรือว่าไม่เป็นห่วง
"ถึงอย่างไรปีหนึ่งก็พบกันไม่กี่ครั้ง"
"ดูแล้ว ที่นางอาละวาดครั้งนี้เพราะคิดอยากจะส่งตัวสาวใช้ในวังเป่าเยว่คนนั้นให้ท่าน แล้วก็ขังข้าเอาไว้ในวัง"
ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา
"ยังดีที่ท่านแสดงออกได้ดี ไม่เช่นนั้น ท่านคงได้เสียดายต่อไหมใจโลหิตเป็นแน่"
"อื๋อ?"
เซียวหลันยวนจู่ๆ ก็เข้าใจขึ้นมา "เจ้าได้ไหมใจโลหิตมาแล้วหรือ?"
เขาอดตกตะลึงขึ้นมาไม่ได้ นี่ร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ?
พอฟู่จาวหนิงเพิ่งพูดเสร็จ ด้านนห้าก็มีคนเข้ามาขวางรถม้าพวกเขาไว้ เสียงหญิงสาวแรกรุ่นเสียงหนึ่งดังลอดเข้ามา
"ในรถม้านี้คืออ๋องเจวี้ยนใช่ไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
เนื้อหาน่าติดตาม สนุกมากค่ะ รออยู่นะคะ🫰🫰...
ว้าวกำลังอ่านเพลินๆเลย มาไวๆนะคะแอด❤️❤️❤️...
เอ็นดูกระบี่ชิงอีกลายเป็นมีดหั่นผัก5555 ไม่รู้ว่ากว่าจะจบจะถูกพระชายาแย่งดาบในมืไปกี่ครั้ง😂😂😂😂...
ใครมาอีกละนั่น...
พวกเหลือบไร ริ้น ทั้งหลายในจวนฟู่ เมื่อไรนางเอกจะกำจัดให้สิ้นซากเสียที ปล่อยให้เขารักแกท่านปู่อยู่ได้...
นางเอกไม่รักษาให้สามีล่ะ หรือรักษาไม่ได้กัน...
ไห่ฉางจวิ้นเหมือนจะฮาอยู่นะ นางชอบแต่คนหล่อๆ ฮ่าๆๆ...
สนุกมากค่าาาาา รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อเลย...