อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส นิยาย บท 150

ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งรู้ ว่าที่เซียวหลันยวนสามารถมอบป้ายตราสีม่วงให้นางได้ชิ้นหนึ่งคือไม่ง่ายเลย

"อ๋องเจวี้ยนให้คนในโรงหมอเมตตามอบให้น่ะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น

พอได้ยินคำนี้ ผู้อาวุโสจี้ก็ตะลึงไป "เจ้าไปบรรเทาความไม่สบายใจของเขามาใช่ไหม"

"ใช่"

"เช่นนั้นก็ไม่แปลก!"

ผู้อาวุโสจี้เห็นว่าตานางกำลังเปล่งแสง "ศิษย์เอ๋ย วิชาแพทย์ของเจ้าจะต้องร้ายกาจมากแน่ๆ! เจ้าเองไม่ต้องกังวลว่าป้ายตราสีม่วงที่อ๋องเจวี้ยนให้จะได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เจ้ารู้ไหมว่าเพราะอะไร? เพราะคนเหล่านั้นจากโรงหมอเมตตาก็ต้องยกมือยอมแพ้ให้กับอาการป่วยของอ๋องเจวี้ยนมาหลายปี"

"อื๋อ?"

"รวมถึงพวกหมอหลวงในวังพวกนั้นด้วย ครั้งนั้นอ๋องเจวี้ยนสุขภาพแย่มาก ประเดี๋ญวก็ปวดหัววิงเวียน และทั้งตัวก็ยังเย็นเฉียบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ผลลัพธ์คือโรงหมอเมตตาก็รวบรวมพวกหมอที่ถึงป้ายแดงป้ายม่วงมาร่วมกันตรวจรักษา ไม่มีสักคนที่มองออกถึงปัญหาเลย"

ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจ ราวกับรู้สึกว่าที่อ๋องเจวี้ยนมีชีวิตมาได้ถึงปัจจุบันนี้ไม่ง่ายเลย

"ตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนที่อายุยังน้อยพูดกับพวกเขาว่า ในเมื่อพวกเจ้ารักษาข้าไม่ได้ เช่นนั้นถ้าต่อมาปรากฎหมอคนหนึ่งที่ทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง พวกเจ้าก็ต้องมอบป้ายตราสีม่วงให้แก่เขาผู้นั้น ให้ข้าเป็นผู้ป่วยกรณีศึกษา คนที่รักษาข้าได้ ต่อให้รักษาไม่หาย ขอแค่ทำให้ข้าดีขึ้นบ้าง วิชาแพทย์ก็เหนือกว่าพวกเจ้าแล้ว"

ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?"

"แน่นอน สกุลหลี่ตอนนั้นก็ไปด้วย แต่ว่าเขาตอนนั้นชื่อเสียงยังไม่ได้ยิ่งใหญ่เช่นตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเจ้าเล่ห์มาก เขาจับชีพจรให้อ๋องเจวี้ยน แต่ก็ไม่มั่นใจจะรักษา ดังนั้นจึงหาข้ออ้างหนีออกมาก่อน ถึงอย่างไรอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ก็นำป้ายตราสีม่วงมาให้แล้ว และชื่อเสียงก็สมราคา และก็เป็นสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ในอดีตด้วย"

ผู้อาวุโสจี้หัวเราะร่า ตบลงไปเบาๆ บนบ่าของฟู่จาวหนิง สายตาเองก็ดูชื่นชมมาก

"อาจารย์เองก็คิดไม่ถึงเลย ว่าวิชาแพทย์ของเจ้าจะสูงส่งระดับนี้! ดีเหลือเกิน ครั้งนี้ก็สามารถช่วงชิงความรุ่งโรจน์ให้แก่พันธมิตรพวกเราได้แล้ว! โรงหมอเมตตาทางนั้นก็กำเริบเสิบสานมานานแล้ว คนที่เรียนแพทย์ถึงอย่างไรก็ต้องรู้จักยาด้วย ดังนั้นทางนั้นคนที่รู้ทั้งแพทย์และยาก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ว่าทางพันธมิตรของพวกเรา คนที่รู้เปรื่องทั้งสองด้านมีอยู่น้อยมากเลย"

"อันที่จริงแพทย์และยาก็ไม่จำเป็นต้องขีดเส้นแบ่งกันอย่างชัดเจน"

ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าแพทย์และยาเดิมทีก็เหมือนเป็นศาสตร์เดียวกัน ตอนนี้แบ่งเป็นสองฝักฝ่าย ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมือนเป็นปรปักษ์กันหน่อยๆ ด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องดีเอาเสียเลย

"แล้วใครพูดว่าไม่ใช่กันล่ะ?" ผู้อาวุโสจี้พยักหน้า "แพทย์กับยาต้องผสานอยู่ด้วยกัน แล้วยังต้องการเส้นทางที่ยาวมากอีกด้วย อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้ ปัจจุบันโรงหมอเมตตามีพวกแมลงมากเกินไป ถ้าหากพวกเขาเหล่านั้นยังควบคุมวัตถุดิบยาไว้ในมืออีกล่ะก็ หลังจากนี้ราคายาก็จะห่างไกลจากความจริงไปอีก และเป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะใช้ยากันมั่วซั่ว จะเลือกกันแต่สิ่งที่แพง ไม่เลือกสิ่งที่ถูกต้อง"

คงต้องค่อยเป็นค่อยไป

ผู้อาวุโสจี้อันที่จริงก็เฝ้ารอวันนั้นที่อาชีพนี้จะชัดเจนและเดินไปในทางที่ถูกควร แต่ว่าเขาเองก็อายุมากแล้ว หลายครั้งที่แรงกายก็สู้แรงใจไม่ไหว

เขามองฟู่จาวหนิง ในใจก็สั่นกึก

ฟู่จาวหนิงแม้จะเป็นแค่หญิงสาว แต่ว่าเขากลับชอบในตัวนาง เพราะบนภูเขาเขาเองก็มองออกแล้ว ว่านางทนต่อความยากลำบากได้ มีวิสัยทัศน์ ทำการเด็ดขาด ความกล้าและความรู้เหนือล้ำผู้อื่น

ตอนนี้ดูแล้ว วิชาแพทย์ก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย

บางที ถ้าให้นางเติบโตขึ้น นางคงจะทำเรื่องที่พวกเขาแต่ก่อนทำไม่ได้อีกมากมายแน่

ไหนจะเรื่องที่ตอนนี้นางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอีก

ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนสามารถปกป้องนางได้ เช่นนั้นอำนาจในมืออ๋องเจวี้ยนก็สามารถเป็นแรงช่วยอย่างมหาศาลแก่นางได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าสามีภรรยาคู่นี้อย่างพวกเขาจะจัดการกับความรู้สึกได้ไหม

"ศิษย์เอ๋ย เจ้ากับอ๋องเจวี้ยนตอนนี้"

"ไม่พูดเรื่องเขาแล้ว" ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมา "ท่านเองก็พักผ่อนมากๆ อย่าโกรธง่ายนัก อย่าเอะอะก็เป็นลมเป็นแล้งลงไป อายุตั้งปูนนี้แล้ว ต้องรู้จักดูแลตัวเองนะ"

"เอาล่ะๆๆ ข้าฟังเจ้านะ"

ผู้อาวุโสจี้พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ในใจก็อบอุ่น

"เจ้ารู้สถานที่จัดพิธีเดิมพันโอสถแล้วหรือยัง? อยู่ที่อุทยานท่าโม่ ถ้าเจ้าไม่รู้ พรุ่งนี้ก็ตามอาจารย์ไปด้วยกัน"

"ไม่ต้องแล้ว ข้าจะไปดูเอง อยู่กับท่านด้วยกันคงจะดึงดูดสายตาคนเกินไป ไม่สะดวกให้ข้าเข้าไปกวนน้ำจับปลา"

ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส