ตอนที่ 172 ฉันรักคุณประเทศจีน
หลวี่เจิ้งจื๋อลูบผมที่บางตาอยู่บนศีรษะ บิดเอวและสะโพกของเขา เพื่อให้ร่างกายที่ใหญ่โตของตัวเองนั่งพิงเก้าอี้นุ่มๆ ได้อย่างสบาย และการห่อหุ้มของเก้าอี้ที่นุ่มและแข็งกำลังดี ก็ทำให้เขารู้สึกสบายมาก
แต่เหล่าพี่น้องในตอนนั้นต่างก็สะดุ้งสั่นขึ้นมา!
หัวหน้าฝ่ายรายการวัฒนธรรมของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนคนนี้แอบถอนหายใจ ได้ยินว่าเก้าอี้ที่อยู่ใต้ก้นของเขามีราคาเกินเจ็ดพันหยวน เป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสรีระของคนมาก
ภายในห้องถ่ายทำรายการอาคาร T1 ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ยังมีเก้าอี้ที่เหมือนกันอีก 2,999 ตัว!
ห้องถ่ายทำรายการห้องนี้ได้ชื่อว่ามีการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อุปกรณ์ตกแต่งทันสมัยที่สุด กระทั่งหลวี่เจิ้งจื๋อก็ยังแอบอิจฉานิดๆ…ห้องถ่ายทำรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนสามารถรองรับผู้ชมได้มากสุดที่เพียงสองพันคนเท่านั้น
ในฐานะบุคคลระดับกลางถึงระดับสูงของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนหลวี่เจิ้งจื๋อมาดูการฝึกซ้อมครั้งแรกของงานเลี้ยงวันชาติจีนที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งในวันนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ว่างมาก แต่เพราะมีภาระหน้าที่ติดตัวจึงต้องมา
หลวี่เจิ่งจื๋อขึ้นตรงกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ซึ่งก็คือสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนนั่นเอง เป็นองค์กรข่าวและหน่วยงานที่รับฟังเสียงของประชาชนที่สำคัญที่สุด เป็นผู้นำในแนวความคิดของวัฒนธรรมที่สำคัญ เป็นสื่อกระแสหลักที่มีการแข่งขันสูงที่สุด มีการทำงานของห้องกระจายข่าว การศึกษาและสังคม สื่อบันเทิงและวัฒนธรรม การบริการข้อมูลข่าวสารเป็นต้น
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีก่อตั้งขึ้นในปี 1995 เป็นช่องทางหลักที่ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารทั่วประเทศ และยังเป็นหน้าต่างสำคัญที่ทำให้ประเทศจีนเข้าใจโลก และโลกก็เข้าใจประเทศจีน มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในระดับต่างประเทศ
และต้นกำเนิดของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีก็คือสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง หลังจากมีการปรับเปลี่ยนภายหลังจึงแยกออกเป็นสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีและสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง
ถึงแม้ว่ากระดูกจะหักแต่ก็ยังเชื่อมเส้นเอ็นได้อยู่ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีกับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสามารถเขียนเป็นหนังสือเล่มหนาได้เลย ผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งล้วนมาจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีและคนที่อยู่เบื้องหลังก็มีหน้าที่รับผิดชอบคอยชี้แนะคนที่อยู่เบื้องหน้าโดยตรง
นี่คือผลกระทบต่อทุกด้าน
สาเหตุที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสามารถทำรายการประกวดชิ้นแรกได้ในปีนี้ ก็มีความเกี่ยวข้องกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเป็นอย่างมาก
แม้ว่าสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งจะอาศัยสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีในระดับหนึ่ง แต่จะไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้ฝ่ายหลัง
ความสำเร็จของเรตติ้งผู้ชมในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้พี่น้องจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเกิดความคิดใหญ่ขึ้นมา
ดังนั้นที่หลวี่เจิ้งจื๋อมาในวันนี้ ไม่ได้มาคอยแนะนำงานเลี้ยงวันชาติจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอะไรต่อมิอะไรอยู่ หลวี่เจิ้งจื๋อก็เริ่มใจลอย
จนกระทั่งเขาเห็นลู่เฉินปรากฏตัวขึ้นบนเวที เขาถึงได้เรียกสติกลับมาดูตารางรายการที่อยู่ในมือ
“รายการนี้คือ…”
เขาจ้องไปที่ตารางรายการในมือและถามขึ้นอย่างสับสน “ยุคใหม่ของจีนโดยหวังปิน ใช่หรือเปล่า”
หลวี่เจิ้งจื๋อจ้องมองตัวหนังสือที่อยู่ในตารางรายการ แต่แว่นตาระดับไฮเอนด์ราคาหลายพันหยวนที่อยู่บนสันจมูกของเขา ใช่ว่าจะมองหน้าตาของคนที่อยู่บนเวทีไม่ชัดเจน…นี่คือหวังปินเหรอ
ล้อฉันเล่นหรือเปล่า!
หลวี่เจิ้งจื๋อกับหวังปินรู้จักกัน และเคยทานข้าวด้วยกันมาก่อน
เกาจื้อเสวี๋ยหัวหน้าบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีที่นั่งอยู่ข้างๆ เขากระแอมขึ้นหนึ่งที กล่าวอย่างเก้ๆ กังๆ ว่า“หวังปิน…รายการของหวังปินถูกเปลี่ยนกะทันหันครับ”
เปลี่ยนรายการของหวังปิน แล้วให้เด็กวัยรุ่นคนนี้ขึ้นมาเหรอ
หลวี่เจิ้งจื๋อไม่ค่อยเข้าใจ
เวลาที่ซ้อมรายการงานเลี้ยงของสถานีโทรทัศน์อาจจะถูกเปลี่ยนบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่สาเหตุจะค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อย บางครั้งเหตุผลก็คือรายการนั้นใช้ไม่ได้จริงๆ หรือนักแสดงมีปัญหา หรืออาจจะถูกคนที่มาทีหลังเบียดตกไปก็มี
แต่หวังปินเป็นใคร ถึงจะไม่ใช่ศิลปินตัวท็อป แต่ก็เป็นแขกรับเชิญคนสำคัญมากๆ ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง
เขาจะถูกปัดตกได้อย่างไร
หลวี่เจิ้งจื๋อส่ายหน้า แล้วถามว่า “หวังปินเกิดเรื่องอะไรใช่ไหม”
พูดถูกเผง!
เวลานี้ผู้ช่วยของเขาจึงเข้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบพูดข้างหูเบาๆ สองสามประโยค
ผู้ช่วยของหลวี่เจิ้งจื๋อกับเกาจื้อเสวี๋ยความจริงรู้ข่าวแล้ว แต่เขาไม่ได้พูด เพราะคนหน้าคิดว่าไม่มีความจำเป็นส่วนคนหลังก็ไม่อยากพูด
ตอนนี้หลวี่เจิ้งจื๋อเป็นฝ่ายถามขึ้นมา ผู้ช่วยของเขาคนนั้นจะแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงจะถูกกล่าวหาว่าไม่เห็นหัวหน้าอยู่ในสายตา
หลวี่เจิ้งจื๋อได้ฟังแล้วจึงตกตะลึง
ผ่านไปสักพัก เขาจึงหันหน้าไปมองเกาจื้อเสวี๋ย ด้วยสายตาที่แปลกมาก
เกาจื้อเสวี๋ยฝืนยิ้มอย่างจนใจ
หลวี่เจิ้งจื๋อถอนหายใจพูด “หวังปินก็ไม่เลวนะ สงสัยคงจะลุ่มหลงงมงายไปชั่วขณะ…แล้วคนนี้เป็นใครล่ะ”
คนที่ถูกเปลี่ยนมาแทนหวังปิน ต้องไม่ใช่ศิลปินธรรมดาแน่นอน
เกาจื้อเสวี๋ยแอบโล่งใจ แล้วรีบแนะนำว่า “นี่คือลู่เฉิน แชมป์ในรายการขับร้องให้ก้องจีนครับ”
“ลู่เฉิน”
หลวี่เจิ้งจื๋อขมวดคิ้ว แล้วจึงยิ้มออกมาโดยพลัน “ผมจำได้แล้ว ลูกชายของผมชอบเพลงของเขามาก”
เขามองเกาจื้อเสวี๋ย เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม แล้วเอ่ยว่า “เดิมทีหวังปินต้องร้องเพลงธีมหลัก พวกคุณให้ลู่เฉินคนนี้มาแทน เตรียมจะร้องเพลงอะไรล่ะ”
ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีหรือสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง รายการของงานเลี้ยงวันชาติจีนจะต้องพูดถึงความถูกต้องทางการเมืองก่อน ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าการแสดง และจะต้องยึดเพลงธีมเป็นหลัก เพลงธรรมดาทั่วไปเอามาเสริมให้เด่นขึ้นเท่านั้น
สองรายการก่อนหน้านี้ก็เป็นผลงานเพลงป็อป ตอนนี้แชมป์รายการแข่งขันประกวดก็ขึ้นมาอีกหนึ่งคน…
หัวหน้าหลวี่จึงต้องจับผิด หากไม่ดีจะได้ว่ากล่าวตักเตือน
เกาจื้อเสวี๋ยจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดต่อ “รองผู้อำนวยการสถานีเฉินกับผู้อำนวยการกู่เป็นคนจัดการครับ พวกเขาต้องมองภาพรวมออกอยู่แล้วครับ”
หัวหน้าบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีคนนี้ก็แอบบ่นเพื่อนร่วมงานของตัวเองอยู่ในใจอยู่เหมือนกัน
ถ้าหากเป็นการร้องเพลงธีมล่ะก็ มีคนให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทำไมถึงให้ลู่เฉินขึ้นมาแทน
ก่อนหน้านั้นลู่เฉินมีรายการร้องเพลงประสานเสียงไปแล้ว
หลวี่เจิ้งจื๋อจึงกล่าวแบบมีความหมายแฝงว่า “หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”
เขาคิดเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากรายการนี้ยังร้องเพลงป็อปอีก อย่างนั้นเขาจะต้องต่อว่าเสียหน่อย
และในเวลานี้ ก็ได้ยินเสียงพิธีกรงานเลี้ยงกล่าวเสียงดังว่า “ต่อไปเป็นรายการร้องเดี่ยวชาย ผู้แสดงคือลู่เฉินแชมป์ซีซันส์แรกในรายการขับร้องให้ก้องจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง!”
“เพลงที่เขานำมามอบให้พวกเราคือ…”
“ฉันรักคุณประเทศจีน!”
พอสิ้นเสียงของพิธีกร ผู้ชมทุกคนต่างก็พูดซุบซิบดังระงมไปทั่ว
การฝึกซ้อมครั้งแรกของงานเลี้ยงวันชาติจีน ผู้ชมในห้องถ่ายทำรายการจึงเต็มไปด้วยทีมงานของสถานีโทรทัศน์
พวกเขารู้เรื่องที่หวังปินถูกจับแล้ว จึงต้องเปลี่ยนรายการอย่างช่วยไม่ได้ แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่า ลู่เฉินคือคนที่มาแทนนักร้องรุ่นเก๋า
หลวี่เจิ้งจื๋อตกตะลึง “ฉันรักคุณประเทศจีน ชื่อเพลงไม่เลว เหมือนจะไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อน”
เกาจื้อเสวี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอกเป็นอย่างแรก แต่ก็เริ่มสงสัยขึ้นมาอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar