ตอนที่ 174 ไม่มีข้อสงสัย
ลู่เฉินไม่รู้จักหลวี่เจิ้งจื๋อ คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง
เพราะฉะนั้นตอนที่หลวี่เจิ้งจื๋อปฏิเสธผลงานเพลงใหม่ของเขา ใช่ว่าลู่เฉินจะไม่รู้สึกหวั่นไหว
หรือตื่นเต้น หรือโกรธ หรือไม่พอใจ…
แต่ในเมื่อมายืนอยู่บนเวทีนี้แล้ว ถ้าอยากจะเป็นซูเปอร์สตาร์ดังที่แท้จริง อย่างนั้นเขาก็ต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับการซักถามข้อสงสัย การนินทาหรือการใส่ร้ายป้ายสี…ถ้าไม่ผ่านพายุฝน แล้วจะเจอสายรุ้งได้อย่างไร
ดังนั้นเขาจึงไม่ตกใจที่จะโต้เถียง นอกจากจะไร้ประโยชน์ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ตรงกันข้ามกลับทิ้งความประทับใจที่แย่กับคนอื่น
แต่ลู่เฉินก็จะไม่ทนยอมรับความไม่ยุติธรรมจากคนอื่นอย่างเงียบๆ เขาจึงเสนอว่าจะร้องอีกหนึ่งเพลงทันที
ไหนบอกว่าเป็นเพลงธีมไม่พอไม่ใช่เหรอ งั้นก็ต้องเจอเพลงธีมที่แท้จริงสักเพลง!
ในกรุสมบัติความทรงจำของลู่เฉินมีไข่มุกมากมายนับไม่ถ้วน แค่เลือกออกมาสักเม็ดก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้มากพอ
และลู่เฉินก็โชคดีอีกครั้ง
อย่างแรกเขามีผลงานเพลงที่โดดเด่น อย่างที่สองหลวี่เจิ้งจื๋อไม่ใช่หัวหน้าของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง
หัวหน้าหลวี่เป็นหัวหน้าของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี
หากพูดถึงตำแหน่งแล้วหลวี่เจิ้งจื๋อเขามีตำแหน่งสูงที่สุดกว่าทุกคนที่อยู่ในนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาก็ไม่สามารถตัดสินใจแทนเจ้าบ้านของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งได้
การสนับสนุนของเกาจื้อเสวี๋ยกับกู่รุ่ย ทำให้ลู่เฉินได้รับโอกาสที่มีคุณค่าอีกครั้ง
เขาจึงหยิบพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมาโดยไม่ลังเล
สไตล์เพลงธีมที่สำคัญของเพลง ‘ฉันรักคุณประเทศจีน’ ถือเป็นเพลงคลาสสิคสุดยอดที่อยู่ในโลกแห่งความฝัน การร้องแบบดั้งเดิมของมันคือวิธีการร้องที่สวยงาม แต่ก็ต้องมีความสามารถที่แข็งแกร่งพอ และจะเปลี่ยนมาร้องเป็นแนวเพลงป็อปก็ไม่มีปัญหา
แต่การแสดงของเพลงนี้ ลู่เฉินใช้วิธีการร้องที่สวยงามและแนวเพลงป็อปมาผสมผสานกัน
“คีรีบูนเหินมาจากฟากฟ้าคราม ฉันรักคุณประเทศจีน~”
เนื้อเพลงประโยคแรก ลู่เฉินเปิดช่องคอที่สดใสของตัวเอง ใช้วิธีการเพื่อแสดงพรสวรรค์การร้องเสียงสูงของเขาให้ทุกคนที่อยู่ในนี้ได้เห็น สั่นสะเทือนสยบทั่วทั้งงานในทันที
เสียงไพเราะดังกังวานสดใส เขาใช้เสียงเพลงของตัวเองสยบความสงสัยทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย
ทีมงานของสถานีโทรทัศน์หลายคนที่นั่งอยู่บนที่นั่งต่างนั่งตัวตรง กระทั่งมีบางคนขนลุกที่หนังศีรษะ พวกเขากลั้นลมหายใจอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ฟังการร้องเพลงของลู่เฉินอย่างตั้งใจ
ความรู้สึกโดยตรงบอกพวกเขาว่า ครั้งนี้ลู่เฉินเอาจริงแล้ว เขาหยิบผลงานชิ้นใหญ่ออกมาอีกครั้ง!
ลู่เฉินไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวัง!
เสียงสูงชัดเจนของเขาอิ่มเอิบเปี่ยมไปด้วยพลัง สะอาดสดใส ควบคุมทำนองของโน้ตเพลงแต่ละตัวได้อย่างเหมาะสม ในมาดที่น่าเกรงขาม แฝงไปด้วยความอ่อนโยนและความรักที่ลึกซึ้ง จับอารมณ์ต่างๆ เข้ามารวมกันได้อย่างแม่นยำและชัดเจน
ถึงแม้จะเพิ่งร้องเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะไม่มีดนตรีประกอบ แต่รู้สึกเหมือนฝึกร้องมาแล้วนับพันครั้ง!
และประโยคสองสามบรรทัดแรกก็ยังใช้วิธีร้องแบบดั้งเดิม ทุกประโยคตรงตามหลักเกณฑ์โครงสร้างเพลงของจีน และสไตล์ของทำนองเพลงหลักก็มีความสดใสที่แปลกใหม่อย่างหาที่เปรียบมิได้
จากนั้นลู่เฉินก็ค่อยเริ่มพาเข้าสู่กลิ่นอายของความเป็นร็อกเล็กอย่างช้าๆ เปลี่ยนจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นฐานรองที่มีสีสันของท่อนถัดไป
พอถึงประโยค ‘ฉันรักต้นสนที่ยืนหยัด’ เสียงในลำคอของลู่เฉินเปลี่ยนไป ไม่งดงามและอิ่มเอิบไปด้วยพลัง จากนั้นอารมณ์ของเพลงร็อกก็ตื่นตัวไปตามเสียงเพลง ทำให้คนรู้สึกถึงเลือดลมที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย!
และการเขียนประโยค ‘ฉันรักคุณ’ ก็ยิ่งมีชีวิตชีวาและซาบซึ้งกินใจเป็นอย่างมาก ตรงส่วนนี้จู่ๆ เขาก็ใช้วิธีการหลบเสียง หลังจากแสดงความองอาจผึ่งผายแล้วก็ใช้ด้วยความอ่อนโยนเป็นตัวปิดท้าย แค่เทคนิคของการร้องเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้คนรู้สึกชื่นชมแล้ว
แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
“…
ฉันรักคุณประเทศจีน ฉันรักคุณประเทศจีน
ขับเพลงไพเราะก้องทั่วถิ่นให้เธอฟังอยู่เสมอ มาตุภูมิของฉัน แม่ของฉัน นั้นคือเธอ~
ฉันรักคุณประเทศจีน ฉันรักคุณประเทศจีน
ฉันรักเกลียวคลื่นสีมรกตในทะเลใต้ รักเมืองเหนือโปรยปรายด้วยหิมะขาว~
รักแนวป่าเขียวขจีที่ทอดยาว รักทิวเขาสูงตระหง่าน
รักสายน้ำรินไหลใสเป็นเงาในคูคลอง น้ำใสรินส่องประกายระยับจากในฝัน
ฉันรักคุณประเทศจีน พี่น้องร่วมมาตุภูมิทั่วทั้งผอง
มอบความงามแห่งเยาว์วัยให้เธอครอง แม่ของฉัน มาตุภูมิของฉัน
อา…
มอบความงามแห่งเยาว์วัยให้เธอครอง แม่ของฉัน มาตุภูมิของฉัน!
เพลง ‘ฉันรักคุณประเทศจีน’ เพลงนี้ ใช้บทกลอนห้าพยางค์แบบดั้งเดิมของจีน ใช้วิธีการเขียนแบบ ‘กลอนตำนานหรือซรือจิง’ ซึ่งเป็นกวีนิพนธ์ยุคแรกที่ถูกค้นพบตามประวัติศาสตร์ของจีน สิ่งที่เรียกว่าหนึ่งร้องนำตามอีกสาม มีความกระชับได้สัดส่วน ใช้ประโยคที่ซ้ำกันในด้านเนื้อเพลง ใช้คีตศิลป์ของคีตกวีเรียงร้อยกลั่นกรองออกมาเป็นบทเพลง เป็นการบรรยายและพรรณนาถึงผลไม้ที่เติบโตในฤดูใบไม้ผลิ ป่าไม้ภูเขาและลำธาร พืชเกษตรในสวนไร่นา แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกรัก หวงแหน เทิดทูนประเทศมาตุภูมิอย่างจริงใจ
เพลงนี้ประกอบไปด้วยโครงสร้างสามส่วน ส่วนแรกคือทำนองและจังหวะอิสระ ให้บรรยากาศที่เวิ้งว้าง กว้างไกลยิ่งใหญ่ อลังการ การไล่จากต่ำขึ้นสูง แล้วลากเสียงต่ำเป็นช่วงกว้างกลับไปกลับมาของตัวโน้ต ดึงผู้ฟังเข้าสู่โลกศิลปะแห่งเสียงเพลงและเสียงดนตรีที่กว้างใหญ่ไพศาล
ส่วนที่สองคือส่วนหลักของเพลง จังหวะค่อนข้างราบเรียบ ผลักเสียงสูงดังกระหึ่ม ละมุนละไม บ่งบอกอารมณ์ที่ลึกซึ้งและสวยงามอยู่ภายใน แสดงให้เห็นถึงภาพวาดที่สวยงามตระการตาของแม่น้ำและภูเขาของประเทศมาตุภูมิ ให้หัวใจหลักของเพลงเกิดความรู้สึกลึกซึ้งอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่สามคือตอนจบของเพลง ใช้เสียงสูงยาว ‘อา’ ผลักดันให้เพลงนี้เข้าสู่ความรู้สึกที่สุดยอด!
และประโยคตบท้าย ‘มาตุภูมิ แม่ของฉัน นั้นคือเธอ’ ใช้เสียงสูงลากยาวเพื่อจบ แฝงไปด้วยอารมณ์รักชาติรักดินแดนเหมือนดั่งมารดาผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูอย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้คนรู้สึกหลงใหลเคลิบเคลิ้มราวกับดื่มสุราจนเมามาย
ลู่เฉินร้องจบภายในเวลาอันรวดเร็ว เขาจึงร้องแค่รอบเดียวเท่านั้น!
ตอนที่ร้องประโยคสุดท้าย ‘มาตุภูมิของฉัน’ จบลงแล้วสีหน้าของลู่เฉินแดงเป็นระเรื่อ นี่คือการแสดงภายนอกที่ใช้ลมหายใจจนถึงขั้นขีดสุด และยังเผยความรู้สึกฮึกเหิมลำพองที่อยู่ในใจของเขา
เพลงนี้แค่เทคนิคในการร้องเพียงอย่างเดียว ก็สามารถบรรลุขั้นสูงสุดก่อนหน้านี้ของเขาได้อย่างสมบูรณ์
แม้แต่ตัวของลู่เฉินก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ ที่ตัวเองสามารถร้องเพลงได้ดีขนาดนี้ และความรู้สึกด้านลบที่กดดันอยู่ในหัวใจก็เหมือนถูกระบายออกมาจากการร้องเพลงนี้ทั้งหมด ทำให้เขารู้สึกเหมือนวางภาระที่หนักอึ้งลงได้แล้ว
จิตใจสดชื่นกระปรี้กระเปร่า รู้สึกสบายไปทั้งตัว!
ไม่ว่าสุดท้ายเขาจะได้ขึ้นร้องเดี่ยวในงานเลี้ยงวันชาติจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งหรือไม่ ลู่เฉินก็ไม่รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว
นี่คือความภาคภูมิใจในฐานะนักร้องคนหนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar