ตอนที่ 437 ต้องโดนทารุณอย่างอนาถมาก (1)
“บอส ถ้าคุณขึ้นไปต้องชนะแน่นอน!”
ถึงแม้หลีเจินจะพูดประโยคนี้เบามาก แต่ก็มั่นใจสุดๆ
ลู่เฉินเป็นใคร เขาเป็นอันดับหนึ่งในบรรดานักร้องรุ่นใหม่ของจีนอย่างสมชื่อ ระยะเวลาที่เดบิวต์สั้นมาก โด่งดังมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของทั้งสองอัลบั้มสามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา
ลู่เฉินยังเป็นแชมป์รายการเรียลลิตี้โชว์ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ที่ทรงอิทธิพลอีกด้วย
ยิ่งรู้จักลู่เฉินมากขึ้น หลีเจินก็ยิ่งรู้สึกทึ่งมาก เพลงป็อปของฮ่องกงกำเนิดขึ้นตอนต้นยุค 70 ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมามีขึ้นมีลง เคยมียุคที่รุ่งเรืองสุดๆ ยากที่จะหาสิ่งใดมาเทียบได้ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก และยังมีอิทธิพลมหาศาลต่อประเทศจีน
แต่ในความทรงจำของหลีเจิน นักร้องหนุ่มที่หล่อและมีความสามารถอย่างลู่เฉิน ในวงการเพลงป็อปของฮ่องกงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้จริงๆ ควรทราบว่าลู่เฉินเป็นนักร้องนักแต่งเพลงระดับชั้นนำที่ทั้งร้องเพลงและรังสรรค์ผลงานเพลงได้ในคนคนเดียวกัน!
ถ้าหากเขาขึ้นแสดงบนเวที ก็สามารถบดขยี้ทุกคนที่อยู่ในลาดอลเซ่วิต้า 97 ได้สบายๆ เลยไม่ใช่หรือ?
ย่อมชนะอย่างแน่นอน!
ก่อนที่หลีเจินจะเข้ามาทำงานในสตูดิโอลู่เฉิน เธอก็เหมือนกับคนฮ่องกงเป็นจำนวนมาก ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเจ้านายของตัวเอง ตอนนี้รู้แล้ว คุ้นชินแล้ว เธอจึงยิ่งคาดหวังที่จะได้ฟังลู่เฉินร้องเพลงสดๆ เป็นอย่างมาก
ดังนั้นหลีเจินจึงกระตุ้นลู่เฉิน เพื่อความปรารถนาเล็กๆ ในฐานะแฟนคลับของเขา
ลู่เฉินยิ้มแล้วส่ายหน้า
เขามั่นใจว่าขึ้นไปก็ต้องชนะ แต่นั่นคือการรังแกคนต่างหาก
“พวกเธอกำลังคุยอะไรกัน”
ยามนี้เฉินเจียหมิงกลับไม่พอใจอีกครั้ง
เขาเห็นหลีเจินกับลู่เฉินพูดกระซิบกระซาบ ท่าทางดูสนิทสนมกันมาก ความหึงหวงในใจจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองถามเช่นนี้จะทำให้หลีเจินไม่พอใจ แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นไม่ได้จริงๆ
เกี่ยวอะไรกับนาย!
หลีเจินกลอกตาใส่เขาอย่างอดทนไม่ไหว
ลู่เฉินหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “พวกเรากำลังพูดว่า ต่อไปใครควรจะขึ้นไปบนเวที”
“ต้องเป็นเจียหมิงอยู่แล้ว!”
เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างเฉินเจียหมิงรีบเอ่ยทันที “เจียหมิงร้องเพลงเยี่ยมมาก เขาถนัดร้องเพลงของราชาเพลงหลิว แต่ก่อนเคยได้รางวัลในการแข่งขันร้องเพลงด้วยนะ!”
เฉินเจียหมิงเผยสีหน้าภาคภูมิใจออกมา โดยไม่มีความถ่อมตัวเลยสักนิด
การร้องเพลงถือว่าเป็นความสามารถพิเศษที่ดีที่สุดของเฉินเจียหมิง ไอดอลที่เขาชื่นชอบและนับถือมากที่สุดคือหลิวกั่งเซิงราชาเพลงระดับซูเปอร์สตาร์ของฮ่องกง ดังนั้นสำหรับผลงานของราชาเพลงหลิวเขาได้ทุ่มเทฝึกฝนเลียนแบบการร้องเพลงอย่างหนัก
เวลาที่สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานและเพื่อนๆ ในคาราโอเกะ การร้องเพลงของเขาถือว่าได้รับเสียงเชียร์อยู่บ่อยครั้ง!
เฉินเจียหมิงเดิมทีเตรียมตัวจะออกไปเองอยู่แล้ว แต่ยามที่เห็นรอยยิ้มจางๆ ที่เรียบเฉยของลู่เฉิน ในใจของเขารู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ ดังนั้นจึงเอ่ยว่า “ฉันคิดว่าให้ลู่เฉินขึ้นไปดีกว่า เขามาที่นี่ครั้งแรก ก็ต้องเที่ยวให้สนุกหน่อยสิ จะไม่ขึ้นไปร้องได้ยังไงกัน พวกนายคิดว่าถูกไหมล่ะ”
เพื่อนๆ สองสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
ทุกคนรู้จักกันมานานแล้ว จึงเข้าใจกันเป็นอย่างดี เฉินเจียหมิงมีเจตนาอะไร ทุกคนย่อมมองออกเป็นธรรมดา แค่อยากให้ลู่เฉินขึ้นไปโชว์ห่วยบนเวที เพื่อขับดันให้ตัวเองโดดเด่น ได้รับความรู้สึกที่ดีจากหลีเจิน
ไม่พูดไม่ได้ว่าวิธีนี้ช่างโง่เขลานัก ตามจีบผู้หญิงไม่ได้จีบแบบนี้ และเห็นได้ชัดว่าลู่เฉินไม่คิดที่จะจีบหลีเจินเลยเฉินเจียหมิงถูกความหึงหวงกระแทกเข้าใส่จนหัวสมองมึนงงไปหมดแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เพราะทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกัน ใครก็ไม่อยากต่อว่าเฉินเจียหมิง เพื่อนคนที่นั่งข้างๆ เฉินเจียหมิงคนนั้นจึงตบมือแล้วเอ่ยว่า “ใช่ๆๆ ความคิดนี้ไม่เลวนะ ฉันสนับสนุน!”
คนอื่นๆ จึงมองหลีเจินอย่างช่วยไม่ได้…เพราะเธอเป็นคนพาลู่เฉินมา
สีหน้าของหลีเจินแปลกมาก เหมือนอยากจะยิ้ม แต่ก็เหมือนกระอักกระอ่วนใจ ไม่ว่าอย่างไรมันก็แปลกมาก
นี่หมายความว่าอย่างไร ทุกคนต่างไม่เข้าใจ
ลู่เฉินกระแอมหนึ่งทีแล้วเอ่ยว่า “ให้พี่เจียหมิงขึ้นดีกว่าครับ ช่วงชิงการได้กินฟรี ทุกคนจะได้สนุก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar