(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 489

สรุปบท ตอนที่ 489 ขวางประตู: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 489 ขวางประตู – (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บท ตอนที่ 489 ขวางประตู ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 489 ขวางประตู

เมื่อวานตอนเช้าตรู่ สถานที่ถ่ายทำในวัดฮุนจิมีคนโยนแมวตายเข้าไป วั่นหย่งรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ลู่เฉินไม่ได้ตำหนิผู้ที่เฝ้าสถานที่ถ่ายทำ เพราะสถานที่ถ่ายทำใหญ่ขนาดนี้ ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด คนที่คอยเฝ้าก็ได้แต่ดูแลและปกป้องอุปกรณ์ที่สำคัญ ไม่สามารถป้องกันการกระทำที่ชั่วร้ายแบบนี้ได้อย่างสิ้นเชิง

แต่วั่นหย่งรู้สึกขายหน้า

เพราะคนที่คอยเฝ้าสถานที่ถ่ายทำคือสมาชิกสองสามคนของทีมตระกูลลู่ และยังเป็นลูกน้องที่เขารับผิดชอบอีกด้วย เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ เขาคิดว่าตัวเองมีส่วนต้องรับผิดชอบ

วั่นหย่งไม่ใช่คนธรรมดา

เขาเข้าร่วมกองทัพมาหลายปี ถูกฝึกฝนจนมีทักษะที่ดีเกินคนทั่วไป และยังจับเทคนิคการทหารแบบพิเศษได้อีกด้วย ทว่าหลังจากปลดประจำการก็ไม่มีสถานที่ให้โชว์ความสามารถมาโดยตลอด

ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ แน่นอนว่าวั่นหย่งไม่สามารถปล่อยให้คนของสมาคมนักเลงสองสามคนนี้สร้างความก่อกวนอย่างกำเริบเสิบสานต่อหน้าต่อตาตัวเองได้อีก เพราะฉะนั้นเมื่อวานเขาถึงพาทีมงานมาเฝ้าสถานที่ถ่ายทำด้วยตนเอง

และหลังจากที่ปรึกษากับลู่เฉินแล้ว เขายังซื้อกล้องวงจรปิดแบบง่ายหนึ่งชุดมาติดตั้ง

อดีตทหารผู้ยอดเยี่ยมคนหนึ่งหากตั้งใจขึ้นมาแล้ว กะอีแค่แมลงศัตรูพืชสองสามตัวไม่คณามือหรอก และเช้าตรู่ของวันนี้ก็จับโจรได้แล้ว แถมยังได้ทั้งคนและหลักฐาน!

“เป็นเด็กวัยรุ่นสองคน!”

วั่นหย่งพูดอย่างได้ใจว่า “ใช้แรงจัดการนิดหน่อยก็สารภาพหมดแล้วครับ พวกเขาเป็นลูกน้องของหงหวา ปกติรับผิดชอบส่งข้าวและอื่นๆ คราวนี้เอาหมาตายสองตัวกับเลือดหมาหนึ่งถังมาให้พวกเรา อยากจะสร้างความอัปมงคลให้พวกเราครับ”

ทิ้งแมวตายสองตัวยังไม่พอ ยังจะสาดเลือดหมาอีก ลู่เฉินถือว่าได้เห็นความหน้าด้านและความสกปรกของแก๊งพวกนี้แล้ว

เขาถามว่า “ไม่ได้ทำให้บาดเจ็บใช่ไหมครับ”

ฮ่องกงเป็นดินแดนแห่งกฎหมาย และยังใช้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ มีทนายเป็นจำนวนมาก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มักจะต้องขึ้นศาลฟ้องคดีแก้ไขปัญหา

วั่นหย่งจับคนก่อกวนได้และไม่ได้แจ้งความทันที แต่ลงมือระบายความโกรธก่อน หากทำให้อีกฝ่ายมีบาดแผลจริงๆ เช่นนั้นเรื่องคงยุ่งมาก

ถึงตอนนั้นทางหงหวาก็จะใช้ข้ออ้างเหล่านี้ ถึงแม้กองถ่ายจะมีเหตุผลก็กลายเป็นไร้เหตุผลได้

วั่นหย่งหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “คุณวางใจในฝีมือของผมได้ครับ ต่อให้ส่งสองคนนี้ไปตรวจด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอที่โรงพยาบาล ก็หาจุดที่บาดเจ็บไม่เจอหรอกครับ เดิมทีผมเตรียมไว้สิบวิธี แต่ยังทำวิธีที่สองไม่เสร็จพวกเขาก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งยอมสารภาพหมดแล้ว”

ลู่เฉินพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เพราะฟังดูแล้วเหมือนวั่นหย่งจะไม่ค่อยพอใจนัก

เขากล่าวว่า “คุณทำดีมากครับ ผมจะเข้าไปเดี๋ยวนี้ รอผมถึงก่อนแล้วค่อยแจ้งตำรวจ”

ตอนที่ตำรวจมาถึง หากเขาอยู่ด้วย น่าจะสร้างแรงกดดันให้อีกฝ่ายได้มากพอ

เมื่อคิดแล้ว ลู่เฉินจึงโทรศัพท์หาโจวอี้

ผลปรากฏว่าคนที่รับสายคือผู้ช่วยของโจวอี้ บอกว่าเถ้าแก่ยังพักผ่อนอยู่ ลู่เฉินก็ไม่สนใจ รีบบอกเรื่องราวที่โรงถ่ายทำให้อีกฝ่ายได้ทราบ

จากนั้นเขาก็รีบล้างหน้าแปรงฟัน แล้วจึงติดต่อเฉินเหวินเฉียงให้ไปไลออนร็อกด้วยกัน

พอเฉินเหวินเฉียงรู้ว่าจับได้ทั้งคนและหลักฐาน จึงพูดอย่างโล่งใจในที่สุด เชื่อว่าครั้งนี้จะสามารถดำเนินคดีกับทางหงหวาได้บ้าง เพื่อลดแรงกดดันให้กองถ่าย

แต่สิ่งที่ทั้งสองคนคาดคิดไม่ถึงคือ รถมาถึงครึ่งทางวั่นหย่งก็โทรศัพท์เข้ามา

เมื่อสองสามนาทีก่อน พนักงานกลุ่มหนึ่งที่สวมยูนิฟอร์มของร้านอาหารหงหวามาปรากฏตัวที่วัดฮุนจิ พวกเขามาขวางประตูของสถานที่ถ่ายทำ ร้องเอะอะโวยวายบอกให้กองถ่ายปล่อยคน!

“ปล่อยคน! ขอโทษ! ชดใช้เงิน!”

“นี่มันกองถ่ายเหี้ยไร แย่งอาชีพของพวกเราแถมยังจับคนของพวกเราอีก วันนี้ข้าสู้ตายกับพวกแกแน่!”

“ไสหัวกลับประเทศจีนของแกไป!”

คนของหงหวาพวกนี้ส่วนใหญ่มามือเปล่า แต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ถือไม้เบสบอล

ในช่วงยุค 70-80 ตอนที่แก๊งในฮ่องกงมีความแข็งแกร่งที่สุด การต่อสู้กันระหว่างสามแก๊งใหญ่ดุเดือดมากเอะอะก็ทำร้ายบาดเจ็บไปหลายคน ตอนนั้นต้องเตรียมมีดพร้า กริช และกำลังคนให้พร้อม ปืนพกหรือแม้กระทั่งปืนเล็กยาวก็ยังเคยปรากฏอยู่ท่ามกลางการต่อสู้มาแล้ว

ฮ่องกงในตอนนั้น ประชาชนทั่วไปรู้สึกว่าอันตรายมาก กลัวว่าเดินอยู่บนถนนจะถูกคนแทงด้วยมีดหรือไม่ก็โดนลูกหลง มีบางแก๊งที่ไม่มีเหตุผลเลย เจอเรื่องเล็กน้อยก็กล้าฆ่าคนแล้ว

ความเป็นจริงของสังคมแบบนี้ได้สะท้อนอยู่ในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของฮ่องกง แนวมาเฟียกับตำรวจจับผู้ร้ายได้รับความนิยมมากในช่วงนั้น และตัวเอกของเรื่องก็มักจะเป็นสมาชิกในแก๊ง ที่ตั้งใจล้างมือตัวเองให้ขาวสะอาด มีอิทธิพลต่อหนุ่มสาวชาวฮ่องกงมากมายนับไม่ถ้วน

หลังจากผ่านการกวาดล้างอย่างหนักสองสามครั้ง แก๊งอันธพาลเหล่านี้ก็มลายหายไป ต่อมาหลังจากนั้นมีแก๊งที่เกิดขึ้นมาใหม่ได้สวมเสื้อเกราะที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการตีรันฟันแทงอีกต่อไป

นอกจากนี้รัฐบาลของฮ่องกงมีการควบคุมปืนและมีดที่เข้มงวดมาก ถ้าหากทำผิดจะโดนโทษหนัก ไม่มีใครกล้าถือคบเพลิงและอาวุธออกมาปล้นชาวบ้านใต้แสงสว่างบนท้องถนนอีกแล้ว

แต่หมาเลิกกินขี้ไม่ได้ ด้วยเป็นวิธีที่ได้ผลโดยตรงมากที่สุด และยีนชอบใช้ความรุนแรงก็ได้ฝังเข้าไปในกระดูกของสมาชิกแก๊งพวกนี้นานแล้ว หลายครั้งที่พวกเขายังคงชอบอวดกำลังของตนอยู่

แน่นอนว่ามีดและปืนไม่สามารถใช้ได้ หากใช้ก็จะโดนข้อห้ามต่างๆ ดังนั้นไม้เบสบอลที่แข็งและใช้ดีจึงกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของคนเหล่านี้…ถือไว้ไม่ผิดกฎหมาย ตีคนขึ้นมาก็โหดเหี้ยมได้เหมือนเดิม ทรงพลานุภาพมาก!

ตอนที่ลู่เฉินพาเฉินเหวินเฉียงและจางเสี่ยวฟางมาถึงสถานที่ถ่ายทำ มีคนสังเกตเห็นเขาทันที

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar