ตอนที่ 570 ระวังหน่อย
สตูดิโอลู่เฉินเคยย้ายมาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากก่อตั้ง จากออฟฟิศในอาคารเดิมย้ายมาที่ศูนย์ศิลปะยุคใหม่ แบ่งเช่าพื้นที่อาคารของอวี๋จี้จงอาร์ตสตูดิโอ มีพื้นที่ประมาณหนึ่งพันตารางเมตร
สำหรับบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง พื้นที่หนึ่งพันตารางเมตรนั้นกว้างขวางมาก สามารถรองรับพนักงานร้อยกว่าคนได้อย่างไม่มีปัญหา อีกทั้งตอนนี้พนักงานของทั้งสองสตูดิโอรวมกันยังไม่ถึงหนึ่งร้อยเลย
แต่บริษัทเฉินเฟยมีเดียไม่ใช่บริษัททั่วไป อันดับแรกสตูดิโอลู่เฉินมีห้องอัดเสียงที่ใช้เงินลงทุนไปหลายล้านหยวน ซึ่งกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้นบนไปหมด ยังมีพื้นที่สำนักงาน พื้นที่พักผ่อน และออฟฟิศของแผนกต่างๆ แทบไม่มีพื้นที่ว่างเหลือให้ใช้ประโยชน์อีก
บริษัทใหม่นี้ตั้งใจมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจด้านดนตรี ละคร และภาพยนตร์ นอกจากห้องอัดเสียงที่มีอยู่แล้ว ยังต้องสร้างสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์อีกแห่ง และยังต้องแบ่งแผนกใหญ่ๆ ออกมา อีกทั้งตามความก้าวหน้าของบริษัท จำนวนพนักงานก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ พื้นที่หนึ่งพันตารางเมตรไม่พอจริงๆ แล้วยังแคบมากสำหรับแผนที่วางไว้ในอนาคต
เหตุผลเป็นเพราะธุรกิจของลู่เฉินเติบโตเร็วเกินไป!
แน่นอนว่า กินข้าวต้องกินทีละคำ ปัญหาที่ประสบอยู่ไม่ถึงกับไม่มีทางแก้
ทั้งสองสตูดิโอรวมตัวกัน อันดับแรกเป็นการเปิดม่านฉากใหม่ ทั้งยังเข้าสู่เส้นทางรถด่วนอย่างรวดเร็ว
“พี่ลู่เฉิน!”
ชีวิตคนเรามักมีเซอร์ไพรส์เสมอ เช่นสาวน้อยแสนสวยที่ปรากฏตัวขึ้นในสตูดิโอลู่เฉินคนนี้
“น้องเก๋อเกินถ่าน่า!”
ลู่เฉินประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าวันนี้เก๋อเกินถ่านาจะมาที่นี่พร้อมกับพนักงานของสตูดิโอเฉินเฟยเอ๋อร์
เก๋อเกินถ่าน่าเป็นคนชนเผ่ามองโกล ปีนี้เพิ่งอายุเต็ม 15 ปี เมื่อปีที่แล้วเฉินเฟยเอ๋อร์ไปที่ทุ่งหญ้ามองโกลเพื่อถ่ายละคร ลู่เฉินไปเยี่ยมชมงานจึงรู้จักกับสาวน้อยคนนี้ และได้มีวาสนาที่ดีต่อกัน
ตอนนั้นลู่เฉินแต่งเพลง ‘ทุ่งหญ้าแสนงาม บ้านของฉัน’ ทั้งยังสอนเก๋อเกินถ่าน่าร้องเพลงอีก สุดท้ายถูกเฉินเฟยเอ๋อร์อัดคลิปวิดีโอมาโพสต์ลงในบล็อก จนเกิดเป็นกระแสฟีดแบ็กมากมาย
แฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์และลู่เฉินชื่นชอบน้องสาวที่มาจากมองโกลคนนี้มาก เมื่อเพลง ‘ทุ่งหญ้าแสนงาม บ้านของฉัน’ โด่งดังในประเทศ เธอก็กลายเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังไปแล้ว
หลังจากมีชื่อเสียงเก๋อเกินถ่าน่าได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อไม่น้อย ยังมีคนที่อยากเซ็นสัญญาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอ ทั้งคนที่หวังดีและประสงค์ร้ายต่างพัดพาเอาความยุ่งยากเข้ามาให้เธอ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์จึงชิงตัวเก๋อเกินถ่าน่ามาเซ็นสัญญา เธอไม่คิดจะหารายได้จากตัวของสาวน้อย ทั้งยังมีใจอยากจะชดเชยให้กับการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจของตัวเอง
จากนั้นเก๋อเกินถ่าน่าก็มาที่ปักกิ่ง โดยอยู่ภายใต้การดูแลของเฉินเฟยเอ๋อร์ ทั้งหาที่พัก เข้าเรียน เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง!
ตั้งแต่ลู่เฉินบอกลากับเก๋อเกินถ่าน่าที่ทุ่งหญ้ามองโกลในตอนนั้น นี่เป็นการพบกันครั้งแรก
เวลาห่างกันครึ่งปี สาวน้อยดูโตขึ้นไม่น้อย สาวน้อยผู้ร่าเริงสดใสคนนี้เปลี่ยนแนวการแต่งตัว ในความสดใสของวัยเยาว์ยังเจือปนเอกลักษณ์ของหญิงสาวชาวทุ่งหญ้าอยู่ด้วย
เฉินเฟยเอ๋อร์มองเก๋อเกินถ่าน่าเป็นเหมือนน้องสาวของตัวเอง แม้จะเซ็นสัญญาเป็นศิลปิน แต่กลับไม่ได้ให้เธอเข้าวงการบันเทิงเร็วเกินไป ให้เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียน ดังนั้นบุคลิกของเธอจึงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ลู่ซีก็อยู่ด้วย ลู่เฉินจึงแนะนำเธอให้พี่สาวรู้จัก
ลู่ซีเองก็ชอบสาวน้อยแสนสวยจากมองโกลคนนี้เหมือนกัน ดึงตัวเธอไปถามโน่นถามนี่ ดูสนิทสนมราวกับเป็นพี่น้อง
ตอนแรกที่เก๋อเกินถ่าน่าได้เซ็นสัญญากับสตูดิโอเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่ซีที่ได้ข่าวยังโทรศัพท์มาต่อว่าลู่เฉิน บ่นว่าเขาปล่อยเพชรเม็ดงามหลุดมือไป
ตอนนี้ทั้งสองสตูดิโอรวมเข้าเป็นหนึ่ง เก๋อเกินถ่าน่าย่อมติดตามมาด้วย ผลลัพธ์สมบูรณ์พร้อมอย่างไม่ต้องสงสัย
เก๋อเกินถ่าน่าปากหวาน พูดยกยอจนลู่ซียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จับมือเธอแล้วถามลู่เฉินว่า “พวกเธอเซ็นสัญญากับเก๋อเกินถ่าน่าแล้ว คงไม่ซ่อนเธอไว้ตลอดหรอกจริงไหม ให้เธอออกเพลงสักเพลงสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar