ตอนที่ 648 Kiss Cam
ในปี 1987 มีภาพยนตร์ไต้หวันเรื่องหนึ่งได้ออกอากาศในแผ่นดินใหญ่ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘วันหยุดฤดูร้อนของคนสองคน’ บอกเล่าเรื่องราวความรักของวัยรุ่นในรั้วโรงเรียน พระเอกคือเว่ยซิ่นหรานที่ยังเยาว์วัยในตอนนั้น นี่เป็นหนึ่งในผลงานภาพยนต์ไม่กี่เรื่องของเขา
ในภาพยนต์เรื่องนี้ เว่ยซิ่นหรานรับบทเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่เพิ่งจบการศึกษา นางเอกมักจะเรียกเขาว่า ‘รุ่นพี่’ อยู่ตลอดเวลา โดยไม่ทันคาดคิดว่าคำเรียกนี้จะติดตามเว่ยซิ่นหรานมาตลอดสามสิบปี
ในวงการ เว่ยซิ่นหรานก็เหมือนกับรุ่นพี่ที่น่ารักจริงๆ เขาเป็นคนบริสุทธิ์ ใจดี ไม่ชอบขัดแย้งกับคนอื่น และเต็มใจที่จะช่วยเหลือรุ่นน้อง ดังนั้นชื่อเสียงของเขาจึงดีมาก
เรื่องที่คุ้มค่าที่จะพูดถึงก็คือ รุ่นพี่คนนี้มีประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ทั้งหมดสามครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จสักครั้ง จนถึงตอนนี้เขาก็ยังอยู่ตัวคนเดียว ประวัติความรักที่ขรุขระของเขาทำให้ผู้คนต้องถอนหายใจ
เว่ยซิ่นหรานที่ยืนอยู่บนเวทีในตอนนี้ ถึงแม้ข้างขมับจะมีผมสีดอกเลา หางตามีรอยย่นเพิ่มขึ้น แต่เสื้อเชื้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำที่เขาสวม รอยยิ้มบนใบหน้าแบบนั้น ทำให้ผู้คนนึกถึงเด็กชายคนนั้นที่แอบรักนางเอกจนแทบบ้าในเรื่อง ‘วันหยุดฤดูร้อนของคนสองคน’
กาลเวลาผันผ่าน ทุกสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ดูเหมือนกับว่าทุกสิ่งไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
“รุ่นพี่เว่ย!”
เสียงตะโกนของผู้ชมดังขึ้นมาราวกับภูเขาสึนามิ ทั้งแสดงความรักที่มีต่อเว่ยซิ่นหราน ทั้งยังหวนย้อนรำลึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์ของตัวเองอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเว่ยซิ่นหรานไม่ได้คาดคิดมาก่อน หลังจากที่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หางตาของเขาก็เต็มไปด้วยหยาดน้ำใสเป็นประกาย
ภาพอย่างนี้ มันช่างซาบซึ้งมากจริงๆ !
เฉินเฟยเอ๋อร์กอดแขนของลู่เฉินเอาไว้ และพูดเสียงเบาว่า “แต่ก่อนฉันก็เคยชอบรุ่นพี่เว่ยเหมือนกัน ที่จริงแล้ว… ที่จริงแล้วนายก็เหมือนกับรุ่นพี่เว่ยเหมือนกันนะ”
ลู่เฉินรู้ว่าที่เฉินเฟยเอ๋อร์ชอบคือบทบาทของตัวละครในภาพยนต์ ไม่ใช่เว่ยซิ่นหรานตัวจริง เขาไม่หึงด้วยเรื่องนี้แน่นอน เขาจับมือแฟนสาวแล้วยิ้ม “กลับไปผมจะไปหาหนังเรื่องนี้มา พวกเรามาดูด้วยกันอีกรอบนะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มหวาน รู้สึกถึงแต่ความสุขอันหวานชื่น
ใน ‘วันหยุดฤดูร้อนของคนสองคน’ แม้ว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะรวบรวมความกล้ามาสารภาพรักกับนางเอกในที่สุด แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว นางเอกย้ายไปต่างประเทศกับครอบครัวของเธอ เหลือไว้เพียงความเสียใจไปตลอดชีวิต
แต่สิ่งที่เธอกำลังถืออยู่ตอนนี้ คือความสุขตลอดชีวิตของตัวเอง
บนเวที เว่ยซิ่นหรานเริ่มร้องเพลงของเขา
ผลงานของเว่ยซิ่นหรานส่วนใหญ่เป็นเพลงรัก มีกลิ่นอายของยุค 80 และ 90 อย่างเข้มข้น มันอ่อนโยนผ่อนคลายและลึกซึ้งกินใจมาก ตอนนี้ฟังแล้วก็เต็มไปด้วยรสชาติที่ชวนให้คิดถึง ทำให้คนฟังรู้สึกสงบสุขเป็นอย่างมาก
เสียงของเขาทุ้มลึกทำให้มีเสน่ห์ดึงดูด ราวกับมีพลังที่จะปลอบประโลมจิตใจ ไม่จางหายไปแม้ผ่านวันเวลามาอย่างยาวนาน และความสามารถในการควบคุมเวทีของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก
ฟังคอนเสิร์ตของเว่ยซิ่นหรานไม่เหนื่อยเลยจริงๆ ไม่ต้องร้องตามเสียงคำรามแหบๆ ไม่มีดนตรีเลือดร้อนรุนแรง แม้แต่มือกลองในวงยังอ่อนโยนเลย
สำหรับผู้ชมทั้งหนึ่งหมื่นเจ็ดพันคนในที่นี้ การฟังเพลงของเขาเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งจริงๆ
หลังจากร้องจบไปสามเพลงแล้ว เว่ยซิ่นหรานไปที่หลังเวทีเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วขึ้นเวทีอีกครั้ง เขาถือไมโครโฟนและพูดว่า “เพลงต่อไปนี้ผมคิดว่าทุกคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ดังนั้นผมหวังว่าจะได้ร้องเพลงนี้ไปพร้อมกับทุกคน พวกคุณว่าดีไหม”
“ตกลง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar