(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 649

สรุปบท ตอนที่ 649 ลู่เฉินแฟนคลับ: (นิยายแปล) Perfect Superstar

อ่านสรุป ตอนที่ 649 ลู่เฉินแฟนคลับ จาก (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 649 ลู่เฉินแฟนคลับ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life (นิยายแปล) Perfect Superstar ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 649 ลู่เฉินแฟนคลับ

ผู้ชมอยู่ในความโกลาหล ส่งผลกระทบต่อเว่ยซิ่นหรานที่กำลังร้องเพลงอย่างจริงจังอยู่บนเวทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่เขาอยู่ในวงการมาหลายปีแล้ว คลื่นลมแบบไหนที่ไม่เคยเห็นกัน แน่นอน ฉากดังกล่าวไม่ได้ทำให้เขาตื่นตระหนกและตกใจ เขาเพียงหยุดหายใจไปชั่วขณะโดยไม่ขัดจังหวะการร้องเพลงของเขาเลย

เนื่องจากตำแหน่งยืนของเขา เว่ยซิ่นหรานไม่ได้ค้นพบสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที แต่เขาสวมชุดหูฟังไร้สายและเจ้าหน้าที่ของเขาได้กระซิบเตือนเขาทันเวลา

เมื่อได้รับสัญญาณ เว่ยซิ่นหรานแน่นอนว่าต้องเอียงตัวไปมองจอขนาดใหญ่ด้านหนัง จากนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันที

รุ่นพี่อาวุโสในวงการเพลงท่านนี้จำเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ก่อน แม้ว่าเขาจะไม่สนิทสนมกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาก แต่ราชินีเพลงหวานที่เคยพบหน้ากันมาหลายครั้ง ยังคงทิ้งความประทับใจไว้ให้เขาอย่างลึกล้ำ

ยิ่งหลายปีมานี้ที่เฉินเฟยเอ๋อร์โด่งดังกว่าเดิมอีก ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในด้านการร้องเพลง ยังประสบความสำเร็จในด้านละครและภาพยนตร์อีกด้วย ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ที่ทยอยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไต้หวัน ก็สร้างสถิติเรตติ้งทั้งนั้น ยังมีแฟนคลับไม่น้อยเลยที่ไต้หวัน

เมื่อเห็นเฉินเฟยเอ๋อร์ เว่ยซิ่นหรานแน่นอนว่าไม่อาจมองข้ามลู่เฉินที่อยู่ข้างกายเธอไปได้

เว่ยซิ่นหรานไม่ได้รู้สึกแปลกหน้ากับลู่เฉิน ชายหนุ่มที่เติบโตอย่างรวดเร็วในวงการดนตรีจีนคนนี้ เคยทำให้เพื่อนเก่าของเขาหลายคนในวงการคร่ำครวญว่าคลื่นด้านหลังแม่น้ำแยงซีกำลังผลักคลื่นลูกเก่าไปข้างหน้าแล้ว คนรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่คลื่นลูกเก่าจนได้

แต่ที่ทำให้เว่ยซิ่นหรานงุนงงก็คือ คู่รักดุจเพชรแห่งวงการบันเทิงคู่นี้ ทำไมมาปรากฏตัวในคอนเสิร์ตของเขาได้

ไม่ว่าจะเป็นลู่เฉินหรือว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ ล้วนมีคุณสมบัติที่จะเป็นแขกวีไอพีได้เลย เพียงแค่ยกหูสายเดียวก็จะได้รับการรับรองที่ดีที่สุด รับรองบริษัทที่เขาเซ็นสัญญาด้วยต้องดีใจจนหาทิศเหนือไม่เจอแน่

ไม่ว่าจะเป็นเว่ยซิ่นหรานหรือว่าบริษัทเอเจนซี่ของเขา ล้วนไม่ทราบมาก่อนเลยว่าทั้งสองคนจะมาปรากฏตัวที่นี่

รู้สึกเหมือนว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่รับมือไม่ไหวเลย

ในขณะเดียวกับที่เซอร์ไพรส์มาถึง สีหน้าของเว่ยซิ่นหรานก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา เพราะว่าตอนนี้เป็นกิจกรรม Kiss Cam ประกอบการร้องเพลง ‘เมามายเพราะคุณ’ เรื่องคาดไม่ถึงนี้ต้องเป็นหัวข้อหน้าหนึ่งข่าวบันเทิงวันพรุ่งนี้แน่

แม้ว่าเขาใกล้จะบอกลาวงการเพลงแล้ว และไม่ได้สนใจในชื่อเสียงเงินทองตั้งนานแล้ว แต่เมื่อมีเรื่องน่าสนใจนี้ปรากฏขึ้นในคอนเสิร์ตอำลาของตน ก็เป็นเรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ดังนั้นเว่ยซิ่นหรานจึงไม่ได้ถูกขัดจังหวะไปเพราะสิ่งนี้ เขาหันกลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ และขับร้องต่อไป

“ฉันเมามายเพราะคุณ ฉันเคลิบเคลิ้มเพื่อคุณ…”

เสียงร้องอันไพเราะก้องกังวานในห้องโถงใหญ่ของศูนย์วัฒนธรรมหย่วนฟาง ผู้ชมกว่าหนึ่งหมื่นเจ็ดพันคนต่างโห่ร้องและปรบมือ ทำให้ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ซึ่งเดิมก็เป็นผู้ชมกลายเป็นจุดสนใจของผู้ชมทันที

เมื่อบนจอปรากฏภาพของตนและเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินก็รู้ได้ทันทีว่าถูกเปิดเผยแล้ว

สายตาของช่างกล้องในฮอลล์ช่างแหลมคมนัก กล้องผ่านไปแล้วยังย้อนกลับมาอีก

แน่นอนว่าลู่เฉินรู้จัก Kiss Cam อยู่แล้ว ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ การปฏิเสธหรือว่าหลบเลี่ยงต้องทำลายบรรยากาศที่กำลังสนุกสนานแน่ ทางเลือกที่แย่ที่สุดก็คือการทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะโบกมือไปยังกล้องที่โฟกัสมาที่ตนอย่างสงบนิ่ง

จากนั้นท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ชม ลู่เฉินก็หันกลับมากอดเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ใบหน้าแดงระเรื่อเอาไว้ ก่อนจะก้มศีรษะลงจูบริมฝีปากของเธอเป็นเวลาสามวินาทีเต็มๆ

ที่จริงนี่ล้วนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ในละครเรื่อง ‘ฟูลเฮ้าส์’ เองก็มีฉากจูบไม่น้อย คนทั้งประเทศก็เห็นแล้ว ไม่ต้องอิจฉาคนในฮอลล์ตอนนี้หรอก

ทุกคนมีความสุขถึงจะเรียกว่ามีความสุขอย่างแท้จริง

แน่นอนว่าการแสดงออกอย่างใจกว้างของเขาทำให้ผู้ชมที่ใจร้ายพอใจมาก ทุกคนใช้เสียงปรบมือที่ดังกึกก้องแสดงออกถึงการสนับสนุนและชื่นชอบของตน

และผู้ชมเหล่านั้นที่อยู่รอบด้านของทั้งคู่ก็เหมือนถูกหวยอย่างนั้นเลย ต่างก็ปรบมืออย่างสุดพลัง

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาแทบจะไม่ได้สังเกตเลย

คำพูดล้อเล่นเล็กๆ ของเขา นำมาซึ่งเสียงหัวเราะครืน และคำถามต่อมาก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์

“ดี!”

น้ำใจดีงามไม่อาจปฏิเสธได้ ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์จึงปรึกษากัน สุดท้ายตัวเขาไปเองจะดีกว่า

ภายใต้การนำพาของเจ้าหน้าที่ในงาน เขาเดินไปยังเวทีหลัก

เว่ยซิ่นหรานโอบกอดลู่เฉินเต็มแรงอย่างอารี นักร้องอาวุโสตบไหล่ลู่เฉินก่อนจะพูดว่า “ฉันรู้จักนาย นายชื่อลู่เฉิน!”

ไหวพริบและอารมณ์ขันของเว่ยซิ่นหราน ทำให้ผู้ชมหัวเราะออกมาเสียงดังอีกครั้ง

ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า “สวัสดีครับ พี่เว่ย ผมเป็นแฟนคลับของพี่ครับ ผมชื่อลู่เฉิน”

ทั้งสองไม่เคยพบกัน แต่รู้จักกันดีในระดับหนึ่งและเคยได้ยินเพลงของกันและกัน

สำหรับรุ่นพี่อาวุโสในวงการเพลงคนนี้ แน่นอนว่าลู่เฉินให้ความเคารพอย่างมาก

และเว่ยซิ่นหรานก็ควรค่าที่จะเคารพจริงๆ

เว่ยซิ่นหรานจับแขนของลู่เฉิน และหันไปหาผู้ชมก่อนจะพูดว่า “เชื่อผมเถอะ ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าคุณลู่เฉินและคุณเฉินเฟยเอ๋อร์จะมาที่คอนเสิร์ตของผม ว่าก็ว่าเถอะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบกัน แต่ผมชอบงานของเขามาก และชื่นชมความสามารถและบุคลิกของเขาด้วย”

ด้านล่างเวที ทุกคนล้วนกำลังตั้งใจฟัง

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar