สรุปตอน ตอนที่ 683 มีเมตตา – จากเรื่อง (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet
ตอน ตอนที่ 683 มีเมตตา ของนิยายSlice of Lifeเรื่องดัง (นิยายแปล) Perfect Superstar โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 683 มีเมตตา
หวังหานเข้าพักที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ทั้งยังจัดการให้อันซินพักให้ห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟสวีทโดยเฉพาะ
หลังจากที่ได้รับรางวัลแชมป์เปี้ยนจากรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ค่าตัวของอันซินก็พุ่งสูงมาก จากนักร้องตัวเล็กๆ ในผับที่ไม่มีชื่อเสียง ทันทีที่เธอกลายเป็นดาราดังในวงการบันเทิง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
เธอในตอนนี้ไม่เพียงแต่มีผู้จัดการและผู้ช่วยส่วนตัวแล้ว เดินทางไปมาก็ยังมีรถหรูรับส่ง ราคาสำหรับงานแสดงเชิงพาณิชย์ที่บอกต่อคนนอกก็สูงถึงห้าแสนหยวน เซ็นสัญญาโฆษณาก็มีค่าตอบแทนเกือบเทียบเท่าดาราระดับสองขึ้นไป
ในด้านของภาพลักษณ์ หวังหานที่เป็นตัวแทนของเซินเยวี่ยได้จัดการแผนหนึ่งขึ้นมาเพื่ออันซินด้วย
ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้จัดการมืออาชีพที่โด่งดังในแวดวงนี้ สายตาของเซินเยวี่ยนั้นแหลมคมมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อคราวที่รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ เริ่มออกอากาศแล้วโด่งดังขึ้น พวกเขาก็ได้เพ่งเล็งศิลปินหน้าใหม่ที่ดูมีความสามารถไว้หลายคน และยังเซ็นสัญญากับอันซินได้สำเร็จแล้วอีกด้วย ฉวยโอกาสมาไว้ได้อย่างโชคดีมาก
แต่เซินเยวี่ยไม่ใช่บริษัทมีเดีย พวกเขาได้ไปเพียงแค่ตำแหน่งผู้จัดการของอันซินเท่านั้น เป้าหมายก็เพียงเพื่อขายอันซินออกไปในราคาที่สูงกว่า หรือกระทั่งมองว่าเป็นต้นเงินที่เสกเงินให้ได้ในระยะราว
ควรพูดว่า ‘ความเอาแต่ใจ’ ของลู่เฉิน ได้เปิดโอกาสนี้ให้เซินเยวี่ย
แต่เซินเยวี่ยไม่เพียงไม่รู้สึกขอบคุณลู่เฉิน กลับเอาอันซินที่บีบไว้ในมือมาเป็นไพ่ใบหนึ่งในหมากนี้ ตั้งใจจะขุดเอาผลประโยชน์จากเฉินเฟยมีเดียให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงได้สร้างกระแสร้อนแรงในอินเทอร์เน็ตอย่างไม่หยุดหย่อน
หากมองจากบางมุมแล้ว พวกเขาทำได้งดงามมาก ที่บังคับให้ลู่เฉินต้องออกหน้ามาด้วยตัวเอง
แต่ลู่เฉินกลับล้มโต๊ะเสียนี่
ดังนั้นหวังหานและเกาซาน จึงได้กลับไปที่โรงแรมด้วยความรู้สึกล้มเหลว
“เจรจาเป็นยังไงบ้าง”
อันซินกำลังอยู่ในห้องพักของตัวเองกับผู้ช่วย เมื่อเห็นว่าทั้งสองกลับมาแล้ว เธอก็รีบลุกขึ้นถามอย่างอดใจไม่ได้ทันที
นับตั้งแต่ที่ปฏิเสธสัญญาที่ลู่ซีนำมาให้เมื่อคราวอยู่ที่เมืองหังโจว ในใจของอันซินก็รู้สึกไม่สบายใจ
ความไม่สบายใจของเธอนี้ก่อนอื่นก็คือรู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองทำอย่างนี้ผิดต่อลู่เฉินที่ชื่นชมตนเองมาตลอด ทั้งยังรู้สึกผิดต่อเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ดูแลตนมาตลอด
อีกอย่างอันซินรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียสำหรับตนแล้วถือเป็นเรื่องที่ดีมาก
แต่เธอเองถูกหวังหานโน้มน้าวใจไปแล้ว
หลักการและเหตุผลที่หวังหานพูดมามันช่างตรงไปตรงมา คนใดที่ไม่ทำเพื่อตนเอง ฟ้าดินจะลงโทษ การขอบคุณลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ก็เรื่องหนึ่ง แต่การเซ็นสัญญาเพื่อขายตัวเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
การตกยุคของดาราในวงการบันเทิงนั้นเกิดขึ้นไวมาก อย่าเห็นว่าตอนนี้เธอดังมาก แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนี้อาจจะไม่มีใครสนใจแล้วก็ได้ หากไม่อาศัยตอนที่ตัวเองกำลังรุ่งโรจน์นี้ขายความดังไปในราคาดีๆ หน่อย หวังการณ์ไกลก็ดูจะเป็นไปไม่ค่อยได้
อย่าว่าแต่อย่างอื่นเลย เอาแค่จุดด้อยของอันซิน เธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
ใครจะรับประกันได้เล่าว่าเฉินเฟยมีเดียจะผลักดันเธอไปได้ตลอด
อันซินจึงไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร
ดังนั้นจึงฟังคำชี้นำของหวังหาน และทำตามคำแนะนำของหวังหานทั้งหมด
แน่นอนว่าในใจของอันซิน ขอเพียงแค่เงื่อนไขรับได้ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นเฉินเฟยมีเดีย
ขณะที่รออยู่ที่โรงแรมเธอเองก็จิตใจไม่สงบเลย
หวังหานและเกาซานสบตากัน ก่อนที่ฝ่ายหลังจะกระแอมแล้วพูดออกมาว่า “เจรจาล้มเหลวแล้ว ลู่เฉินไม่อยากเซ็นสัญญา”
สีหน้าของอันซินดูย่ำแย่กว่าเดิมอีก
ครึ่งแรกของข้อความนี้เป็นทางการมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแถลงการณ์ ทุกคนก็เห็นมาเยอะแล้ว โดยมากเป็นเพียงการแสดงออกซึ่งทัศนคติ ไม่สามารถคิดว่าเป็นจริงทั้งหมดได้
แต่ครึ่งหลังนี่สิที่น่าสนใจ ก่อนอื่นก็คือการไม่เซ็นสัญญากับอันซินเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว ถือว่าสร้างความเข้าใจให้กับเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็แนบเนื้อหาสัญญา นี่ถือว่าไม่ปกติแล้ว
ดูเหมือนว่าจะไม่มีบริษัทมีเดียและเอนเตอร์เทนเมนต์บริษัทใดเคยทำอย่างนี้มาก่อน!
เพราะสำหรับบริษัทเอเจนซี่ บริษัทมีเดีย บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ สัญญาศิลปินจัดว่าเป็นสัญญาลับ นอกเสียจากจะฉีกสัญญาฟ้องศาลกันแล้ว ไม่อย่างนั้นไม่อาจเปิดเผยได้
วิธีการของเฉินเฟยมีเดีย ควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับเรื่องนี้ คนนอกวงการถือว่าได้ดูเรื่องสนุกแล้ว คนในวงการเองก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ดี เพราะนี่เท่ากับเฉินเฟยมีเดียเอาความลับในบริษัทส่วนที่เป็นเรื่องภายในออกมาป่าวประกาศแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนในวงการนี้ออกมาวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างละเอียดบนบล็อกล่างฉาว
ก่อนอื่นสัญญานี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สัญญาสำหรับศิลปินหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเซ็นสัญญา หรือว่าส่วนแบ่ง เพราะนี่เป็นค่าตอบแทนสำหรับดาราระดับสองและสามเลย แม้จะไม่ถือว่าเยอะมากแต่ก็ไม่เอาเปรียบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องกดขี่เลย
คนวงในท่านนี้ยังชี้ให้เห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบกับชื่อเสียงของอันซินในตอนนี้แล้ว สัญญาฉบับนี้ก็ถือว่าค่าตอบแทนน้อยไปหน่อย
แต่แม้ว่าจะให้ค่าตอบแทนน้อยไปหน่อย แต่เงื่อนไขข้อจำกัดที่มีต่อศิลปินที่เซ็นสัญญานั้นกลับน้อยอย่างน่าแปลกใจ ข้อที่ง่ายที่สุดก็คือเงินค่าผิดสัญญาแค่สามล้านหยวนเท่านั้น นี่มีความเมตตามากแล้ว
หากว่ากันตามปกติแล้ว เพิ่มศูนย์ไปอีกตัวถึงจะนับว่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายปีมานี้คดีความของศิลปินกับบริษัทต้นสังกัดมีเยอะมาก ค่าตอบแทนการผิดสัญญาโดยปกติแล้วยิ่งเซ็นยิ่งต้องมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ศิลปินย้ายค่ายหรือว่าออกไปรับงานเดี่ยว
สัญญาอย่างนี้ การที่อันซินไม่เซ็นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่จะพูดว่าเฉินเฟยมีเดียไม่มีเมตตาไม่ได้
นี่ถือว่ามีเมตตามากเลยด้วย!
………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar