ตอนที่ 872 เพื่อนร่วมชั้นตอนวัยรุ่น (1)
พี่จางรวมทั้งสามีและลูกสาวของเธอ สายตาของทั้งสามคนล้วนจดจ่อไปที่ลู่เฉิน
มีความดูถูกเหยียดหยามและเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในสายตา…
ฟางอวิ๋นยิ้มบางๆ และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่ลูกชายของฉันชื่อลู่เฉิน ลู่เฉิน คนนี้คือป้าจางของลูกไงจ้ะ”
ลู่เฉินถอดแว่นกันแดดออกแล้วยิ้มให้พี่จาง “สวัสดีครับป้าจาง…”
ว่าแล้วเขาก็พยักหน้าน้อยๆ ให้กับสามีและลูกสาวของพี่จางอีกครั้ง
ลูกสาวของพี่จางตะลึงงันไปทันที จ้องมองจนลูกตาแทบจะทะลุออกมาจากเบ้า เธอได้กลายเป็นหินไปแล้ว
“สวัสดีๆ…”
พี่จางเซ่อไปเลย เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายสุดหล่อรูปร่างสูงใหญ่คนนี้จริงๆ แล้วจะเป็นลูกชายของฟางอวิ๋น ไม่ใช่เรื่องที่ตนเองคิดเหลวไหลเพ้อเจ้อไปเอง ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บจนปวดแสบปวดร้อนบนใบหน้า
ความสัมพันธ์ของพี่จางและฟางอวิ๋นนั้นอยู่ในระดับปกติทั่วไป แต่ก่อนก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันสักเท่าไร นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับลู่เฉิน
ภายใต้ความอับอายนี้ เธอได้ลืมสิ่งที่คนอื่นเคยบอกเธอไปหมดแล้วว่าลูกชายของฟางอวิ๋นเป็นใคร
ลู่เฉินสวมแว่นกันแดดใหม่อีกครั้ง ในห้างสรรพสินค้ามีผู้คนสัญจรไปมามากมาย หากโดนจับได้ละก็ อย่างนั้นแผนที่จะพาแม่ไปซื้อเสื้อผ้าในคืนนี้ก็ต้องล้มเหลวเสียแล้ว
ฟางอวิ๋นเองก็ไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนเวลาที่ได้อยู่กับลู่เฉินเช่นเดียวกัน เธอพูดกับร่างที่ยังไร้วิญญาณของพี่จางว่า “พี่จาง ฉันกับเสี่ยวเฉินยังมีธุระต้องไปต่อ ไว้ค่อยคุยกันใหม่คราวหลังนะคะ”
พี่จางตอบกลับไปอย่างไม่รู้ตัว “ได้ๆ”
ฟางอวิ๋นยิ้มหวานแล้วดึงลู่เฉินจากไป
พี่จางยังยืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึงครู่หนึ่ง จนกระทั่งลูกสาวคว้าแขนของเธอเอาไว้แน่นๆ และใช้แรงอย่างสุดกำลัง
ภายใต้ความเจ็บปวด เธอได้สติขึ้นมาและหันกลับมามองลูกสาวอย่างโกรธเคือง “ลูกทำอะไร”
ลูกสาวของพี่จางจ้องมองไปทางที่ฟางอวิ๋นและลู่เฉินจากไป เธอรู้สึกอึดอัดใจราวกับเป็นแมวที่อยากกินปลาแต่ไม่สามารถกินได้ตัวหนึ่ง เธอกระซิบออกมาเบาๆ ด้วยอาการคอแห้งว่า “ลู่เฉิน เขาคือลู่เฉินละ!”
พี่จางถลึงตามองลูกสาวของเธอ “ลู่เฉินแล้วอย่างไรล่ะ”
เธอยังนึกไม่ออก รู้สึกถึงได้เพียงแค่ความขายหน้าของตนเองที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้
ลูกสาวของพี่จางสิ้นหวังไปหมดแล้ว “พระเจ้า ทำไมแม่…ทำไมแม่ถึงไม่บอกหนู ลู่เฉินน่ะ!”
พูดจาไม่เป็นคำไปเสียแล้ว
แต่เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสนใจของลู่เฉินในการพาแม่ไปเดินห้างเลย หลังจากเดินวนไปครึ่งรอบ ทั้งสองคนก็ก้าวเข้าไปในร้านดิออร์
ดิออร์เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส และยังเป็นบริษัทที่ครอบครองแบรนด์แฟชั่นระดับสูงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย มีธุรกิจหลักเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าผู้ชาย เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง เสื้อผ้าเด็ก และสินค้าอุปโภคบริโภคระดับไฮเอนด์อื่นๆ ในประเทศจีนก็มีชื่อเสียงมาก
ร้านดิออร์แห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่มาก รูปแบบการตกแต่งก็ไม่เลวเลย สไตล์ของดิออร์นั้นจะเน้นโทนสีขาวดำเป็นหลัก เนื่องจากอยู่ในระดับไฮเอนด์ ดังนั้นลูกค้าภายในร้านจึงมีไม่มากนัก
เมื่อเห็นฟางอวิ๋นและลู่เฉินเข้ามา ก็มีพนักงานคนหนึ่งเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที “ยินดีต้อนรับสู่ดิออร์สาขาปินไห่ค่ะ ต้องการความช่วยเหลืออะไรไหมคะ”
โดยปกติแล้วพนักงานขายที่ทำงานในร้านค้าของแบรนด์ใหญ่เช่นนี้ล้วนมีประสบการณ์การขายมามากมาย และเมื่อผ่านการฝึกอบรมพิเศษมาแล้ว วิสัยทัศน์ของพวกเธอก็ยิ่งร้ายกาจมาก โดยพื้นฐานแล้วสามารถมองออกว่าลูกค้าแบบไหนแค่มาดูเพื่อความสนุก ลูกค้าแบบไหนเป็นผู้บริโภคที่แท้จริงไอรีนโนเวล
ถึงแม้ว่าลูกค้าจะแตกต่างกัน แต่ทัศนคติในการบริการของพวกเธอนั้นไร้ที่ติ ไม่มีทางเกิดสถานการณ์อย่างการดูถูกลูกค้าอย่างแน่นอน แต่สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคที่แท้จริงนั้น ความกระตือรือร้นในดวงตาของพวกเธอจะมีความจริงใจมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ในสายตาของพนักงานร้านคนนี้นั้น แม้ว่าฟางอวิ๋นจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา แต่บุคลิกท่าทางนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเทียบได้ กับลู่เฉินนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทั้งตัวใส่ชุดลำลองของอาร์มานีแบบสบายๆ ไม่หวือหวา ดูมีรสนิยมและไม่อับจนเงินทองอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าฟางอวิ๋นจะใช้จ่ายอย่างประหยัดมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้นิสัยหลายอย่างก็ยังไม่เปลี่ยนไป แต่ในปีนั้นตระกูลลู่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยเช่นเดียวกัน การก้าวเข้าไปในร้านค้าแบรนด์ดังนั้นไม่ได้ทำให้เธอประหม่าอย่างแน่นอน
ฟางอวิ๋นยิ้มอย่างสงวนท่าทีไว้เล็กน้อย “พวกเราขอดูก่อน…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar