ตอนที่ 876 พ่อบุญธรรม
ปินไห่ไม่ใช่เมืองใหญ่ ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน จำนวนประชากรและขนาดของเมืองอยู่ในระดับกลางถึงระดับล่างของเมืองระดับเดียวกัน แต่เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองมาก
โดยเฉพาะสามสิบปีที่ผ่านมา มีชาวปินไห่มากมายเป็นชาวจีนโพ้นทะเลไปหาความก้าวหน้าที่ต่างประเทศ จนพอมีชื่อเสียงในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเล และชาวปินไห่ที่ทำงานจนร่ำรวยพวกนั้นก็เป็นคนที่รักบ้านเกิดมาก มีหลายคนกลับมาเปิดบริษัททำกิจการที่นี่ ตอบแทนบ้านเกิดด้วยวิธีต่างๆ บริจาคเงินทำการกุศลก็มีเยอะถมไป
ลู่เฉินบริจาคเงินให้โรงเรียนเก่าห้าสิบล้านหยวน จริงๆ แล้วถือว่าทำตาม ‘ประเพณี’ ดังกล่าวเช่นกัน อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งซื้อเกาะเล็กๆ ที่มัลดีฟส์ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์พอสมควร ถึงแม้จะไม่เกิดมรสุมอะไรมากนัก แต่การบริจาคเงินช่วยเหลือช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย
และอีกสองสามปีฟางอวิ๋นก็จะเกษียณแล้ว เธอเสียดายไม่อยากทิ้งทุกอย่างที่ปินไห่แล้วไปตั้งรกรากที่เมืองหลวง มีตำแหน่งประธานกองทุนการกุศลคอยค้ำยันอยู่ อย่างน้อยก็ทำให้ชีวิตเกษียณของท่านไม่น่าเบื่อและเงียบเหงา
ฟางอวิ๋นให้การสนับสนุนสิ่งนี้เป็นอย่างมาก
หลังจากร่วมงานเลี้ยงฉลองครบร้อยปีของโรงเรียนมัธยมปินไห่เรียบร้อยแล้ว ลู่เฉินรีบเร่งมาที่หังโจวโดยไม่ได้หยุดพัก
ตอนเย็นวันที่ 31 เขาจะเข้าร่วมคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าที่จัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์เจ้อตงที่สนามกีฬาหวงหลงในหังโจว
สองปีก่อนลู่เฉินได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งที่แมนชั่นซีจื่อในหังโจว ดังนั้นตอนนี้เวลาที่กลับมาหังโจว เขาไม่กลัวว่าจะไม่มีที่พัก บ้านหรูขนาดสี่ร้อยเจ็ดสิบตารางเมตรส่วนใหญ่จะปล่อยว่าง ก่อนที่ลู่เฉินจะมาเขาได้แจ้งบริษัทนิติบุคคลให้จ้างคนเข้ามาทำความสะอาด
บ้านหลังใหญ่สะอาดมาก แต่เนื่องจากไม่มีคนพักอาศัยเป็นเวลานานจึงดูเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ลู่เฉินที่เดินทางมาคนเดียวรู้สึกเสียใจ ตอนแรกไม่น่าซื้อบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เลย
แต่ก็ไม่ได้เสียใจจริงๆ บ้านหลังนี้เป็นแบบบ้านหายาก บ้านในเมืองหังโจวสองปีที่ผ่านมาราคาพุ่งสูงขึ้นหนักมาก ต่อให้เขาเพิ่มราคาอีกยี่สิบล้านหยวนก็สามารถปล่อยขายได้อย่างสบายๆ รับรองว่ามีคนซื้อต่อแน่นอน
หลังจากนั่งพักบนโซฟาครู่หนึ่ง ลู่เฉินจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเกาเฮ่อ
“น้องสาม นึกยังไงโทรมาหาฉัน”
เกาเฮ่อรับสายอย่างรวดเร็ว แต่เสียงที่พูดกลับมีความหยอกล้ออยู่ในนั้น “หรือเพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองมีบริษัทอยู่ที่นี่เหมือนกัน”
ลู่เฉินเหงื่อตก หากจะพูดจริงๆ เขาให้ความใส่ใจกับแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์น้อยมาก โยนแนวคิดสร้างเกมสองสามตัวออกมา จากนั้นก็ให้พี่ใหญ่เกามาจัดการทุกอย่าง
การบริหารงานประจำวันของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ โดยทั่วไปแล้วลู่ซีเป็นคนดู และได้ส่งพนักงานบัญชีสองคนมาประจำการที่หังโจว ส่วนเขาที่เป็นประธานตัวจริงในหนึ่งปีกลับมีเวลาแค่สองสามวันสำหรับทางนี้
ถ้าหากมองในแง่มุมธุรกิจ ลู่เฉินไม่มีคุณสมบัติในการเป็นประธานอย่างสิ้นเชิง ง่ายมากที่จะถูกคนอื่นริบอำนาจกระทั่งถูกขุดผลประโยชน์จนหมดเกลี้ยง ไม่แน่วันไหนเกิดล้มละลายกะทันหันก็ยังไม่รู้เลย
ลู่เฉินเชื่อใจเกาเฮ่อ บางทีการเชื่อใจคนนอกแบบนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ เพราะต่อหน้าเงินทองและผลประโยชน์ มิตรภาพก็ยากที่จะผ่านบททดสอบนี้
แต่ลู่เฉินไม่สนใจจริงๆ เกาเฮ่อไม่เคยทำให้ผิดหวังต่อการไว้เนื้อเชื่อใจของเขา บริหารแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์จนโด่งดังใหญ่โต เกมมือถือตัวใหม่สองสามตัวที่เปิดตัวในปีนี้ล้วนกำไรมากมายก่ายกอง
“อย่าพูดมาก ฉันเพิ่งมาถึงหังโจว ตอนกลางวันอยากกินข้าวกับนายหน่อย!”
เกาเฮ่อหัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “ให้ฉันเลี้ยงเหรอ งั้นไปกินอาหารผัดกระทะเหล็กที่ถนนโฮ่วเจีย กินให้อิ่มไปเลย!”
ลู่เฉินใช้ปลายลิ้นแตะเพดานปากเบาๆ “โอเค พวกเราเจอกันที่เดิม”
คราวนี้เกาเฮ่อตกใจ “จะไปกินที่โฮ่วเจียจริงๆ เหรอ”
ลู่เฉินทำท่าเหยียดๆ “มีปัญหาอะไรเหรอ ฉันจะไปตอนนี้เลย นายพาภรรยามาด้วยกันนะ”
เกาเฮ่อเอ่ยว่า “เสี่ยวหลิงตอนนี้มาไม่ได้…พวกเราเจอกันแล้วค่อยพูดเถอะ”
เสียงของเขาแปลกไปนิดหน่อย
ลู่เฉินก็ไม่ได้คิดอะไรมาก วางสายแล้วออกจากบ้านไปถนนโฮ่วเจีย
ถนนโฮ่วเจียจริงๆ แล้วไม่ได้ชื่อถนนโฮ่วเจีย มันเป็นถนนเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัยเจียงไห่ เนื่องจากมีร้านอาหารและเครื่องดื่มเล็กๆ หลายร้านซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ลู่เฉินกับพวกเพื่อนร่วมห้องในตอนนั้นแวะเวียนมาที่โฮ่วเจียกินกันจนอิ่มหมีพีมันเป็นประจำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar