หยุนหว่านหนิงถูกกดเอาไว้บนกำแพง รู้สึกแต่เพียงว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนกับจิ้งจกที่ติดอยู่บนกำแพง ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ก็คือนักล่าที่กำลังจ้องจะตะครุบนางอยู่
น่าเสียดาย ที่นางไม่สามารถตัดหางตัวเองแล้วหนีไปได้
“มีอะไรก็พูดกันดีๆ! อย่าลงไม้ลง......”
นางดิ้นรนอย่างอึดอัดครู่หนึ่ง
ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกโม่เยว่ตอกกลับไป “ไม่ลงมือ หรือว่าจะลงปาก?”
ทันทีที่เอ่ยปาก ริมฝีปากบางก็สัมผัสไปยังหน้าผากที่สะอาดหมดจดจริงๆ
คราวนี้ ทั้งสองคนต่างก็ร่างกายแข็งทื่อไป
เกรงว่าภาพเช่นนี้ถูกใครเห็นเข้า ไม่ว่านางจะแก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้นแล้ว หยุนหว่านหนิงกัดฟันเอาไว้ ใช้แรงผลักเขาออกไป “ท่านคิดจะพูดอะไรกันแน่?”
นางก้มหน้าเอาไว้ รีบเดินออกไปจากข้างกายเขาอย่างรวดเร็ว และไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงระเบียงทางเดิน
นางเดินเร็วมาก แต่โม่เยว่ก็ยังเห็นหูของนางเผยสีแดงออกมาเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้ หลายวันก่อนยังเยาะเย้ยเขาอย่างปากคอเราะรายเลยไม่ใช่หรือ?
เขาฮึออกมาเบาๆ แล้วเดินตามไป
“ข้าฆ่าคนไปแล้ว”
โม่เยว่นั่งลงไปตรงข้ามนาง เบาบางเหมือนกับกำลังบอกว่า “ข้าเพิ่งกินข้าวเสร็จ” “ต้องขอบคุณวิธีดีๆของเจ้า ตอนนี้คำพูดของข้าใช้การได้ดีมากขึ้นแล้ว”
“อะไรนะ? !”
หยุนหว่านหนิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
นางเพียงแต่ให้เขา เอาทหารลูกกระจ๊อกสองสามคนมาลงมือก่อนเท่านั้น
แต่ไม่ได้พูดว่า ให้เขาฆ่าคนนะ!
“คำแนะนำของเจ้ากับเสด็จพ่อต่างก็เหมือนกัน ดังนั้นข้าจึงรับคำแนะนำของพวกเจ้าเอาไว้ ต้องบอกว่า การฆ่าคนที่ไม่เชื่อฟังตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้สบายใจมากจริงๆ”
โม่เยว่นั่งพิงอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ สีหน้าพึงพอใจ
หยุนหว่านหนิง: “......ท่านแน่ใจนะ ว่าไม่ได้หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเอง?”
ทันทีที่เสียงหยุดลง หรูโม่ก็เข้ามารายงาน “นายท่านนายท่าน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“ท่านอ๋องหยิงพาคนมาด้วยลักษณะท่าทางดุดัน! ตอนนี้กำลังรออยู่นอกประตู! บอกว่านายท่านฆ่าคนของเขา มาขอคำอธิบายจากนายท่านแล้ว!”
หยุนหว่านหนิงเหลือบมองเขาครู่หนึ่ง สีหน้าท่าทางแบบ “ที่ข้าพูดไม่ผิดใช่ไหม”
ใครจะรู้ว่าโม่เยว่จะฆ่าคนของโม่หุยเฟิงจริงๆ นี่ไม่ใช่การยั่วยุให้เกิดสงครามหรอกหรือ? !
“ก็แค่คนไม่สำคัญไม่กี่คนเท่านั้น ก็ควรค่าให้พี่สามมาด้วยตัวเองในครั้งนี้เลย!”
โม่เยว่ไม่เห็นด้วย เพียงแค่ฮึออกมาอย่างเย็นชา ลุกขึ้นแล้วก็ออกไปเลย
เดิมทีหยุนหว่านหนิงคิดว่า นี่เป็นเรื่องระหว่างผู้ชายของพวกเขา มันไม่ดีที่นางจะเข้าไปยุ่ง
แต่ตอนนี้นางกับโม่เยว่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ท้ายที่สุดก็ลุกขึ้นแล้วตามออกไป
โม่หุยเฟิงนำคนบุกเข้ามาในจวนอ๋องหมิงแล้ว
เขานำคนมาไม่มาก ประมาณสิบกว่าคน
แต่ในบรรดาสิบกว่าคนนี้ต่างก็ติดอาวุธกันทุกคน สวมเครื่องแบบทหาร ลักษณะท่าทางดุดัน มองแวบแรกก็ดูออกเลยว่า ไม่ได้มาหาโม่เยว่เพื่อ “ดื่มชา”
“ไม่ทราบว่าพี่สามนำทหารใช้กำลังบุกเข้ามาในจวนอ๋องหมิงข้า ด้วยเหตุอันใด?”
โม่เยว่เดินออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ใช้กำลังบุกเข้ามา? ข้าก็แค่ทำร้ายบ่าวรับใช้ชายที่เฝ้าหน้าประตูเท่านั้น”
หางตาของโม่หุยเฟิง มองไปทางบ่าวรับใช้ชายที่กำลังร้องด้วยความเจ็บปวดตรงหน้าประตู ฮึเย็นชาออกมาคำหนึ่ง “ไอ้สุนัขที่ไม่มีตาคนนี้ กล้าขวางข้าไว้ตรงหน้าประตู น้องเจ็ดคิดว่าสมควรโดนตีหรือไม่?”
“กล้าขวางพี่สามเอาไว้ สมควรโดนตีจริงๆ!”
โม่เยว่พยักหน้า “เด็กๆ! ยังไม่รีบพาเขาออกไปอีก?”
พาออกขอให้หมอช่วยรักษา
“แต่ว่า พี่สามมาอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ คนที่ไม่รู้ ยังนึกว่าเกิดศึกสงครามกันแล้วเสียอีก! ก็ไม่แปลกที่บ่าวรับใช้ชายในจวน ไม่กล้าให้ท่านเข้ามา”
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงบ่าวรับใช้ชายเฝ้าประตูตำแหน่งเล็กๆ แต่ก็เป็นคนของจวนอ๋องหมิงเขา!
เขาโม่เยว่ เข้าข้างคนของตัวเอง!
“น้องเจ็ด นี่เจ้ากำลังตำหนิข้าหรือ?”
สีหน้าของโม่หุยเฟิงดำมืด
“ไหนเลยจะกล้า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...