เห็นได้ชัดว่าโม่จงหรานไม่อยากพูดคุยกับพวกเขาสองสามีภรรยา
คุยกับพวกเขา ยังไม่ดีกว่าทะนุถนอมโอกาสที่ได้อยู่กับหยวนเป่าที่หากได้ยากนี้
เขาทำเสียงเชอะ “ไปถามท่านอ๋องของเจ้า”
จากนั้น เขาก็หันหน้าออกไปอย่างเย่อหยิ่ง
ในวินาทีต่อมา ก็ยิ้มอย่างเมตตาให้กับหยวนเป่า "หลานสุดที่รัก เสด็จปู่พาเจ้าออกไปเล่น! เจ้ายังไม่เคยไปเดินตลาดกลางคืนเลยสีนะ?อยากได้อะไรเสด็จปู่ซื้อให้เจ้า!"
หยุนหว่านหนิง:“……”
หยวนเป่าได้ยินว่าจะไปเดินตลาดกลางคืน ก็เฮ้อย่างดีใจทันที "เสด็จปู่ทรงพระเจริญ!"
วินาทีนี้ โม่จงหรานมองเขาด้วยความรักและเมตตา เป็นเพียงคุณปู่คนหนึ่งที่ธรรมดาและเมตตาต่อรักหลานชาย
ไม่มีออร่าของจักรพรรดิที่ยืนอยู่เหนือมวลชน และสำรวมตน
เมื่อเห็นว่าโม่จงหรานจะพาหยวนเป่าไปเดินเล่นตลาดกลางคืน โม่เยว่ก็รู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู
"เสด็จพ่อ! ค่ำแล้ว หากท่านเป็นอะไรไป……"
“ข้าจะเป็นอะไรไปได้? เจ้ากลัวลูกชายเจ้าเป็นอะไรมากกว่า?!”
โม่จงหรานทำเสียงเชอะ "ไว้ใจเถอะ ข้าดูเขาไว้ จะไม่เกิดเรื่องอะไรแน่นอน!"
“พวกเจ้าห้ามตามมา!”
เมื่อเห็นว่าโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงตั้งก็ยืนขึ้น ราวกับว่าจะตามพวกเขาออกไป โม่จงหรานก็มองพวกเขาด้วยความรังเกียจ "ข้าไม่อยากพาพวกเจ้าไปด้วย ยุ่งยาก!"
โม่เยว่:“……”
หยุนหว่านหนิง:“……ออ”
หยวนเป่าให้หรูอวี้หยิบหน้ากากให้เขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ โม่จงหรานก็ครุ่นคิด "สิ่งนี้สนุกดี!"
หยุนหว่านหนิงรีบหยิบหน้ากากขนาดใหญ่ออกมาจากช่องว่าง(สิ่งที่ใช้เชื่อมต่อกับนางเอก)ทันที ลวดลายเหมือนกับหน้ากากของหยวนเป่าทุกประการ
"ข้าชอบอันนี้!"
โม่จงหรานใส่มันอย่างมีความสุข
แต่เมื่อมองไปที่แขนเสื้อของหยุนหว่านหนิง ดวงตาก็กะพริบเล็กน้อย
แขนเสื้อของอีนังหนูนี้ เป็นกระเป๋าวิเศษจริงๆหรือ?
ของอย่างหน้ากากเช่นนี้ นางก็สามารถพกติดตัวได้ด้วยหรือ?
แต่เมื่อเห็นว่าหยวนเป่าตื่นเต้นมาก โม่จงหรานก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อุ้มเขาแล้วออกไป
ดูจากภายนอกแล้ว เป็นเพียงโม่จงหรานกับหยวนเป่าออกไปเดินเล่นตลาดกลางคืน โดยมีหรูอวี้ค่อยติดตามอยู่เพียงผู้เดียว แต่ในความเป็นจริง พวกเขาพึ่งออกจากประตู……
โม่เยว่ก็สั่งให้หรูโม่นำองครักษ์ลับ ติดตามออกไปอย่างไม่ออกห่าง
ยังมีองครักษ์ลับของโม่จงหราน ก็ซ่อนตัวอยู่ข้างๆเช่นกัน
เรื่องตลก!
ผู้ที่ออกไปเดินเล่นนั้น เป็นถึงฝ่าบาทกับพระนัดดาองค์โต!
ปู่และหลานชายสองคนนี้ เป็นบุคคลที่สูงศักดิ์ที่สุดในหนานจวิ้น!
ดูเหมือนชิวๆ แต่เบื้องหลังกลับมีองครักษ์ลับนับสิบคนที่ค่อยติดตามอยู่ใกล้ชิดอย่างไม่กล้ากะพริบตา มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็เหมือนดั่งนกตื่นธนู…… (นกตื่นธนู=ผู้ที่เคยตกใจหรือผ่านเหตุการณ์ร้ายมาก่อน เมื่อพบกับเหตุการณ์ก็จะรู้สึกตื่นตระหนก)
ถนนที่จอแจเจริญรุ่งเรือง เต็มไปด้วยคนทุกประเภท คนเดินทุกคนเห็นเพียงคนสองคนที่สวมหน้ากากขนาดใหญ่และขนาดเล็ก แต่พวกเขาไม่รู้ว่าตัวตนของสองคนนี้ สูงส่งเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้
……
ในห้องโถงใหญ่ เหลือเพียงหยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่สองคน
โม่เยว่ถอนหายใจแล้วพูดว่า "วันนี้เสด็จพ่อออกจากวัง กักขังเสด็จแม่ไว้ในตำหนักหย่งโซ่ว"
“ถึงป่านนี้แล้วยังไม่ยอมกลับวัง คงเป็นเพราะกลัวกลับวังต้องไปเผชิญหน้ากับเสด็จแม่สินะ?”
เต๋อเฟยคลุ้มคลั่ง แม้แต่ตำหนักหย่งโซ่วก็จะต้องถูกรื้อถอนออก!
“เจ้ากับอ๋องฮั่นทำอะไรลงไปกันแน่?”
หยุนหว่านหนิงไม่ได้ถูกเขาเบี่ยงเบนความสนใจไป เหลือบองเขา "โม่เยว่เจ้ารู้หรือไม่ หากคืนนี้ข้าไม่ช่วยเจ้า จุดจบของเจ้าก็จะเหมือนกับอ๋องฮั่น?"
“ข้าไม่ชอบกิน ไม่เป็นไร”
โม่เยว่ยิ้ม
“เสด็จพ่ออาจไม่ลงโทษเจ้าห้ามกินก็ได้”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะเยาะ
จากนั้นโม่เยว่ก็ส่ายหัวและถอนหายใจ และเอาแขนโอบไหล่ของนางอย่างหน้าด้าน "ข้ารู้ หนิงเอ๋อร์จะไม่ยืนมองเฉยอย่างแน่นอน! เพราะข้าคือสามีของเจ้า"
"ต่อให้ใจของหนิงเอ๋อร์จะแข็งราวกับหินอย่างไรก็ตาม แต่ต่อหน้าข้า ก็เป็นหินก้อนหนึ่งที่อ่อนโยน"
เขาหัวเราะ "ดังนั้นข้าจึงไม่กังวลเลย"
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วมองดูมือของเขา
ผู้ชายคนนี้ ไร้ยางอายจริงๆเลย!
ยังมีโต๊ะเล็กๆ ตัวหนึ่งอยู่ระหว่างทั้งสองคน แขนของเขายาวเกินไปแล้ว……เหมือนชะนี มีโต๊ะอยู่ระหว่างกลางยังสามารถโอบไหล่นางได้? !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...