อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 3

หยวนเป่าใช้แรงที่มีทั้งหมด กอดมือของโม่เยว่เอาไว้และทั้งตีทั้งตบ

เห็นเขาไม่ยอมปลอ่ยมือ เขาก็ใช้เท้าเตะ อีกทั้งยังกัดหลังมือของเขา ……เด็กน้อยอายุสามขวบ เอาแรงมาจากไหนกัน

เขาทั้งตีทั้งกัด ในสายตาของโม่เยว่ก็แค่รู้สึกคันยิบๆเท่านั้น

แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ

เพียงเพราะว่า คำพูดเมื่อครู่ของหยวนเป่าที่บอกว่าปล่อยมือท่านแม่ข้า

“นางคือแม่เจ้าหรือ”

โม่เยว่จ้องมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ

“ใช่”

เห็นเขายอมปล่อยมือออก หยวนเป่าจึงยอมถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยื่นมือน้อยๆของเขาออกมาปกป้องหยุนหว่านหนิง สายตาที่มองโม่เยว่ แฝงด้วยความระแวงหลายส่วน ราวกับลูกหมาป่าน้อยที่ระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา

รูปร่างของเขาเล็กมาก แต่ปกป้องหยุนหว่านหนิงไว้อย่างแน่นหนา

“ข้าขอเตือนท่าน อย่าได้ลงมือกับแม่ข้าอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นข้าจะปล่อยหนูมากัดท่าน”

หยวนเป่าจ้องมองเขาด้วยสายตาดุดัน

หยุนหว่านหนิงลูกชายตนเองปกป้องกันขนาดนี้ ก็รู้สึกซึ้งใจมาก

อย่างน้อย เขาก็ออกมาจากท้องของนาง

แม่ลูกรวมใจ เป็นเช่นนั้นจริงๆ

มองดูใบหน้าเล็กๆของเจ้าก้อนแป้งที่คล้ายกับหยุนหว่านหนิงอยู่แปดเก้าส่วน โม่เยว่ก็รู้สึกตกตะลึง

ผ่านไปชั่วครู่ จึงได้สติกลับมา

เขาเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าของหยุนหว่านหนิงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งเฮือก กัดฟันถามขึ้นว่า “หยุนหว่านหนิงเจ้าช่างกล้ามาก เจ้าคงยังไม่ลืมสถานะของตนเองกระมัง”

“แม้ว่าเจ้าจะถูกกักบริเวณอยู่แต่ในเรือนชิงหยิ่ง แต่ก็ยังคงเป็นพระชายาของข้าอยู่”

“ลับหลังข้า แม้แต่ลูกเจ้าก็คลอดออกมาแล้ว บอกข้ามา เจ้านี่เป็นลูกของใคร”

ดวงตาทั้งคู่ของเขา ค่อยๆมีเลือดพุ่งขึ้นมา

หลังมือที่กำแน่นของเขา มีเส้นเลือดสีเขียวปูดขึ้นอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่า โมโหขึ้นมาอีกแล้ว

คืนนั้นเมื่อสี่ปีก่อนที่เขาบันดาลโทสะ หยุนหว่านหนิงยังคงรู้สึกผวาอยู่ในใจ

ได้ยินเขาพูดว่าหยวนเป่าเป็นลูกของผู้ชายคนอื่น เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวอีกต่อไป ยื่นมือออกไปตบที่ใบหนาเขาอย่างแรงจนเกิดเสียงดังขึ้น

“โม่เยว่ ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ”

“ถ้ามีอาการบ้าก็ไปหาหมอ อย่ามาพูดจาเหลวไหลแถวนี้”

เสียงตบหน้าที่ดังขึ้น กังวานมาก

แม้แต่หรูโม่กับ หรูยี่ ยังรู้สึกตกตะลึงไปตามๆกัน

เมื่อครู่พวกเขามองเห็นอะไร

ปกติแล้ว ท่านอ๋องที่ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาเลย กลับถูกผู้หญิงคนนี้……ที่ถูกกักบริเวณสี่ปี และเป็นคนที่ท่านอ๋องเกลียดที่สุด ตบหน้าเข้าฉาดใหญ่

เห็นทีท่านอ๋องคงจะทำให้เรือนชิงหยิ่งนองเลือดแล้วกระมัง

โม่เยว่ก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าตบหน้าเขา

ความเจ็บที่ใบหน้า ทำให้เขากัดฟันเสียงดังกรอด “หยุนหว่านหนิง ความอดทนของข้า มีขีดจำกัดนะ”

“ท่านอ๋องเคยอดทนกับข้าด้วยหรือ”

หยุนหว่านหนิงยิ้มเย็น “เรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ท่านยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจน ก็ฟังคำพูดของคนรอบข้าง ข่มเหงรังแกข้าจนเกือบตาย และขังข้าไว้ที่นี่โดยไม่ถามไถ่กันเลยแม้แต่คำเดียว”

“ท่านเคยทนหรือ”

ระยะแรกที่ถูกกักบริเวณ หยุนหว่านหนิงรู้สึกไม่พอใจมาก

และได้ขอร้องที่จะพบโม่เยว่อยู่เสมอ เพื่อจะอธิบายเรื่องราวให้กระจ่าง

แต่ว่า โม่เยว่ไม่เคยมาพบนางเลย

วันนี้ กลับบอกว่าอดทนกับนาง

ช่างน่าขันจริงๆ

เห็นนางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ในสายตาของโม่เยว่เต็มไปด้วยความสงสัย จากนั้นสายตาก็ค่อยๆเคลื่อนลงไปมองใบหน้าของหยวนเป่า“เช่นนั้นเจ้าก็บอกว่า ว่าเขาเป็นลูกของใคร”

“ลูกข้า ท่านหูหนวกหรืออย่างไร เขาแซ่หยุน ชื่อหยุนเสี่ยวหยวน”

หยุนหว่านหนิงพูดเสียงเย็น

“ท่านอ๋อง……”

หรูยี่ร้องเรียกด้วยความระมัดระวัง ทันใดนั้นโม่เยว่ก็หันมา เดินออกไปนอกประตูอย่างรวดเร็ว “ไปเรียกตัวบ่าวรับใช้ที่เคยทำงานในเรือนชิงหยิ่งเมื่อสี่ปีก่อน มาพบข้าทั้งหมด”

เขาจะสอบสวนให้หมด ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ทำไมนิสัยของหยุนหว่านหนิงจึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้

นางไปเอาอาหารเครื่องนุ่งห่มต่างๆมาจากไหน

หยุนเสี่ยวหยวน เป็นลูกชายของใครกันแน่

คำถามเหล่านี้ เขาแทบจะอดรนทนไม่ไหว อยากจะได้คำตอบทันที

ลานหน้าบ้าน

โม่เยว่ยืนอยู่บนบันไดหิน จ้องมองทุกคนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ในลานบ้านมีคนยืนอยู่ห้าคน ทั้งห้าคนนี้ล้วนเป็นบ่าวรับใช้ที่เคยทำงานในเรือนชิงหยิ่งเมื่อสี่ปีก่อน

เห็นใบหน้าของท่านอ๋องที่บวมแดงขึ้น ทุกคนต่างก็คาดเดากันในใจ ใครกันนะที่กล้าลงมือกับท่านอ๋อง

“สี่ปีก่อน พระชายาให้กำเนิดลูกออกมาคนหนึ่งใช่หรือไม่”

โม่เยว่ถามเสียงเย็นชา

บ่าวทั้งหลายต่างก็มองหน้ากัน แม่นมคนหนึ่งรีบเดินออกไปด้านหน้าตอบว่า “เรียนท่านอ๋อง สี่ปีก่อนพระชายาเคยให้กำเนิดลูกจริงๆ”

“แล้วทำไมพวกเจ้าจึงไม่มารายงานข้า”

โม่เยว่ตะคอกเสียงดุดัน

บ่าวรับใช้ทั้งหลายตกใจจนเข่าอ่อน รีบคุกเข่าลงทันที แม่นมตอบอีกครั้งว่า “ท่านอ๋อง ตอนที่พระชายาตั้งครรภ์ บ่าวได้กลับมารายงานท่าน ท่านได้สั่งให้บ่าว กรอกยาทำแท้งให้พระชายา”

“พระชายาแม้ตายก็ไม่ยอมจำนน ท่านอ๋องบอกว่า มีไทเฮาอยู่ พระชายาจะตายไม่ได้ ”

“ฉะนั้น ฉะนั้นจึงให้บ่าววางมือ เพียงแต่ แม้จะคลอดลูกแล้ว ก็จะไม่ปล่อยนางออกมา และไม่ให้พวกบ่าวรับใช้พระชายาด้วย”

“บ่าวยังจำได้ดี ปีนั้นตอนที่พระชายาให้กำเนิดลูก นางเป็นคนตัดสายสะดือด้วยตนเอง……”

เมื่อหวนนึกถึงคืนนั้น แม่นมก็ตอบด้วยความอกสั่นขวัญแขวน

โม่เยว่นึกย้อนไปอย่างละเอียด เป็นเช่นนั้นจริงๆด้วย

เมื่อคิดถึงใบหน้ากลมๆของหยุนเสี่ยวหยวน คิ้วของเขาก็ขมวดแน่น น้ำเสียงเย็นชาดุจน้ำแข็ง “แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ พ่อของเด็กคนนั้นคือใคร ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์